30 สิงหาคม 2548 16:16 น.
ชลกานต์
จากแสงเสกเมฆเคลื่อนเลื่อนขอบฟ้า
ลมฤดูมิรู้ชะตาว้าเหว่หนาว
ริมตลิ่งพิงฝั่งแห่งหวังดาว
รอคอยข่าวเช้าใหม่ใกล้เข้ามา
กี่คนฝันค้นหาสถานีใจ
สถานีใดที่ใครเฝ้าปรารถนา
สถานีนั้นเธอฝันถึงชานชาลา
หนึ่งรอยมรรคาล้ำลึกเกินนึกคิด
คาราวานคนฝันร่วมขบวน
ดอกไม้ขานครวญน้ำตาภูผาสถิต
หวังให้ใครแบกใจไปพิชิต
รางวัลชีวิต อาจเล็กนิดกระจิดน้อย
แต่มิได้ไห้โหยในหุบเหว
สะท้อนความล้มเหลวและท้อถอย
มิได้ปล่อยประกายพรึกดึกดาวลอย
ร่วงดับดวงเงียบหงอยไร้การบันทึก
บนถนนสายฝุ่นขุ่นลึกลับ
ทุกเรือนดับดวงไฟในคืนดึก
ใจยังมีแสงพราวดาวรำลึก
น้ำค้างดึกกระจ่างกลางทรายร้าว
แสวงหาสถานีใดในชีวิต
ทุกก้าวทิศถูกผิดลิขิตก้าว
สถานีร้างห่างไกลไร้เรื่องราว
ในรอยก้าวเก่าใหม่รอใครพบ
สู่เช้าใหม่ลมชะตาผู้ว้าเหว่
ชานชาลาคนเร่ในเงาสงบ
คาราวานคนฝันพลันอยู่ครบ
เริ่มต้นใหม่ไปจนจบอีกสถานี
28 สิงหาคม 2548 14:07 น.
ชลกานต์
วะวอมวับประดับพรายประกายน้ำ
ค่ำคืนฉ่ำน้ำค้างว้างว้างไหว
ราตรีดาวพราวพริบระยิบไกล
น้ำค้างแก้วเก็จไสวไม่ต่างดาว
ดาวพร่างพรมห่มนภาครามืดมิด
น้ำค้างสถิตห่มใบหญ้าคราคืนหนาว
หากวันใดดาวดวงมาร่วงกราว
น้ำค้างยังรวดร้าวห่มดาวเดือน
แต่คราใดแดดจับขับแสงจ้า
น้ำค้างลาระเหิดหายไปเสมือน
รอระโรยโปรยร่ำเมื่อค่ำเตือน
ทุกดาวเกลื่อนจะฉายแสงไปนำทาง
ความสำคัญสัมพันธ์ระหว่างเรา
มิเปลี่ยวเหงาเท่าไรในเหินห่าง
ยังหอมวันฝันใฝ่ไม่เคยจาง
ยังตื่นสร้าง ตื่นเผชิญ โลกร่วมกัน
----------------------------------------------------
กลอนนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากกลอนพี่แดดเช้าเจ้าค่ะ
27 สิงหาคม 2548 12:20 น.
ชลกานต์
เมฆหม่นฝนหลั่งพรั่งสาย
โปรยปรายร่ายเพลงบทฝน
ระบำเริงร่ายสายชล
ทุกหนเปียกน้ำฉ่ำนอง
ฟ้าฝากรักหล่นฝนมา
พฤกษาลืมตาจดจ้อง
เนื้อเพลงผลิโน้ตในคลอง
แว่วร้องฟองน้ำกระเซ็น
ชะเง้อชะแง้แลมอง
ทั้งสองฝั่งคลองเล็งเห็น
ความรัก ความงาม ความเย็น
วิ่งเต้นเล่นลมวารี
ชะเง้อชะแง้มองหา
รุ้งทาจ้าแจ่มแต้มสี
อยากชักทักชวน คนดี
เปรมปรีดิ์ชมฟ้าฝนพรำ
ชมกลีบดอกแก้วแววหวาน
ผลิบานหลังฝนพรายพร่ำ
ชมดอกจำปาระบำ
กับลมประจำว่ายเวียน
ชมกลอนของใครบางบท
ทั้งหมดเขาตั้งใจเขียน
ไร้ไฟก็จะต่อเทียน
เฝ้าเจียรลำนำกานท์
มาเถอะร้องเพลงบทฝน
ฟ้าหม่นอีกเดี๋ยวก็ผ่าน
รุ้งอาจทอได้ไม่นาน
กอบเก็บจินตนาการฉ่ำใจ..
26 สิงหาคม 2548 12:30 น.
ชลกานต์
ปิดตาเปิดห้องวัยเยาว์
ขับไล่บางเงา
ที่บังจินตนาการแห่งใจ
มุมหนึ่งจึงพบฝันใฝ่
พริ้มยิ้มละไม
จากตุ๊กตาน้อยหน้าหวาน
มุมหนึ่งพบแดดทอม่าน
ไหวลมพลิ้วผ่าน
กระดิ่งกรุ๊งกริ๊งเสียงลม
มุมหนึ่งพบขวดโหลกลม
ขนมลูกอม
ลูกแก้ว-ก้อนหิน-เม็ดมะขาม
มุมหนึ่งพบสายรุ้งงาม
กอดฟ้าเมฆคราม
ว่าวรอลมชวนดำเนิน
มุมหนึ่งพบหนทางเดิน
ดังมาเชื้อเชิญ
ให้ไปผจญภัยเสรี
มุมหนึ่งพบสายวารี
ไหลเอื่อยปราณี
ดับร้อนผ่อนกายให้เย็น
ทุกมุมความฝันโลดเต้น
ชวนกันวิ่งเล่น
สนุกล้มลุกคลุกดิน
หัวเราะให้ฟ้าได้ยิน
หาปีกมาบิน
แต่งฝันต่างต่างนานา
เปิดห้องวัยเยาว์เวลา
เปิดอยู่ทุกครา
นั่งยิ้ม หัวเราะ ลำพัง
23 สิงหาคม 2548 19:27 น.
ชลกานต์
นวลแสงแขแผ่คลุมหุ้มคืนหนาว
นักเดินทางผิงดาวด้วยกันไหม
ช่วยเล่าเรื่องทุกหนตำบลไกล
ก่อนจากไปในรุ่งของพรุ่งนี้
เธอได้เห็นทุ่งเขียวเรียวข้าวหวาน
ได้ว่ายธารฉ่ำไหลไร้กลิ่นสี
และมองนกเริงรำทำปีกตี
แว่วกวีจากถ้ำลึกผลึกน้ำ
ในเพิงพักหลักไม้ใบหญ้าแฝก
ลมหนาวแทรกกระไอในคืนค่ำ
เธอเรียนรู้คืนหนาวคราวมืดดำ
ผู้ระกำกว่าเราหนาวเท่าไร
เธอได้เห็นคุณค่าดวงแดดเช้า
ที่ทุกเงาสรรพางค์ต่างเคลื่อนไหว
ยังได้เห็นรอยยิ้มจากบ้านใคร
เขายากไร้แต่ใบหน้าเป็นสุขนัก
พรุ่งนี้เธอจะไปสู่ทะเล
ไปเพื่อเร่ทำฝันอันแน่นหนัก
ยังเด็กน้อยรอคอยรอยความรัก
รอรู้จัก ก.ไก่ ในกระดาน
จากภูเขาเหล่าป่ายอดหญ้าเปลี่ยว
สุดทางเที่ยวเสาะฝันอันแสนหวาน
คือหน้าที่ภาระและกะงาน
เป็นสะพานรอฝันใหม่ได้เดินทาง
นวลแสงแขแผ่คลุมหุ้มคืนหนาว
มีกี่ร้อยเรื่องราวที่พราวพร่าง
มาอีกคนโน่นแล้วเงาลางลาง
มาเล่าฝันฟ้ากว้างนักเดินทาง