28 กุมภาพันธ์ 2549 15:17 น.
ชมพูภูคา J.
รักคนมีเจ้าของเฝ้ามองทุกเช้าค่ำ
ผิวเข้มคล้ำสูงหนาดวงตาใส
จมูกโด่งคล้ายลูกครึ่งจากแดนไกล
อยากอิงไหล่ซบไออุ่นน่าหนุนดี
น่าเสียดายมีเจ้าของเฝ้าเคียงข้าง
ไม่ยอมห่างรู้ทางกลัวชิ่งหนี
ผู้หญิงคล้ายลิงค่างบ่างชะนี
ปริมาณมีมากมายไม่เท่ากัน
หากว่าไปของอย่างนี้ต้องทีเผลอ
มัวพร่ำเพ้อรอของเหลือคงโศกศัลย์
ผู้ชายมีน้อยมากอย่าจำนรร
ยากแบ่งปันใช้กันอย่างฟุ่มเฟือย
เป็นเช่นนี้มีโอกาสควรรีบฉวย
โชคอำนวยอวยมาอย่าช้าเอื่อย
ใช้ทั้งเล่ห์เพทุบายไปมันเรื่อย
แม้เหน็ดเหนื่อยอาจครอบครองเป็นของเรา
28 กุมภาพันธ์ 2549 13:42 น.
ชมพูภูคา J.
เธอร้องไห้...เพียงเพราะใครไม่เห็นค่า
หลั่งน้ำตาอาลัยใจเจียนสิ้น
หมอบแทบพื้นแนบชิดไออุ่นดิน
ธรณินทร์กำสรวลครวญโศกตรม
เธอรู้ไหม...น้ำตาล้ำคุณค่า
บางเวลาคอยเป็นเพื่อนเมื่อขื่นขม
บางเวลาไหลหลั่งร่วมชื่นชม
ชลนาพรมพร่างพรายในชีวัน
หยาดน้ำตา...กรองกลั่นจากส่วนลึก
ความรู้สึกเร่าร้อนตอนแปรผัน
ยามเจ็บปวดรวดร้าวสารพัน
น้ำตาหลั่งรินรดสลดใจ
อย่าร้องไห้...เพียงเพราะใจยอมพ่ายแพ้
ความอ่อนแอครอบงำซ้ำหมองไหม้
ลุกขึ้นเถิดเก็บน้ำตาไว้กับใจ
อย่าร้องไห้เตือนหทัยใยหวั่นเกรง
28 กุมภาพันธ์ 2549 13:39 น.
ชมพูภูคา J.
ตัวผอมแห้งซี่โครงเคียงเรียงสลอน
แม่งามงอนขนไม่เห็นเป็นแต่แผล
มดชอบไต่ไรไล่ตอมคันเจียนแย่
เดินตีนแปแม่พ่อก็ไม่มี
เกิดเป็นหมาราคาถูกข้างถนน
ไม่มีคนเลี้ยงดูเขาส่ายหนี
กายโสมมอมเปรี้ยวเหม็นสิ้นดี
จะไปมีราศีอย่างหมาใคร
แม้ไม่มีบ้านอยู่แต่รู้ชื่อ
ลูลู่คือชื่อของฉันไพเราะไหม
มีคู่แล้วโกโก้หมาพันธุ์ไทย
อยู่บ้านใหญ่ใกล้กันเฝ้าแหงนมอง
พอท้องหิวหมาหนุ่มคาบมาฝาก
อย่ากระดากสุดที่รักมาฉลอง
ถึงน่าเกลียดแต่เลือกแล้วเป็นคู่ครอง
ต้องสมปองรักแล้วไม่แคล้วกัน
มาวันหนึ่งปาฏิหารย์เพราะรักแท้
ช่างผันแปรเสียได้ให้ขบขัน
ลูลู่กลับมาสวยแหมฉับพลัน
ขนขาวมันเลียบลื่นผื่นไม่มี
หรือว่าโกโก้หมาหนุ่มเขาตาถึง
เล็งตะลึงจึงเห็นเพชรเข้านี่
ใครจะนึกรูปลักษณ์เธอโสภี
แต่ซ่อนหนีอุบไว้จนถึงการณ์
27 กุมภาพันธ์ 2549 15:37 น.
ชมพูภูคา J.
วันทั้งวัน...นั่งเหม่อมอง...บนท้องฟ้า
จินตนา...เห็นเมฆา...เป็นหน้าสาว
รอยแย้มยิ้ม...ยั่วเย้า...พริ้มตาพราว
ระริกราว...ปันใจ...ให้แก่กัน
นกตัวน้อย...โผผิน...บินโฉบหน้า
สกุณา...ทายทัก...จักสุขสันต์
ร้องจิ๊บจิ๊บ...แซ่ซ้อง...ถึงแจ่มจันทร์
หฤหรรษ์...เจ้าปักษา...มารู้ใจ
นั่งมองฟ้า...มองนก...อกรุ่มร้อน
แม่บังอร...ยามนี้...คงหวั่นไหว
จะหักห้าม...ความคิดถึง...ยากเพียงใด
รับรู้ไว้...เพียงนาที...ยังเนิ่นนาน
เคยไม่กิน...ท้องก็อิ่ม...ด้วยรสรัก
คราฟูมฟัก...กินแต่ผัก...ช่างแสนหวาน
แม้ติดคอ...ยังระรื่น...ดั่งกลืนตาล
สุขสราญ...ด้วยศรรัก...มันปักใจ
ใครจะว่า...บ้าก็ช่าง...ไม่สนหรอก
ในอยากออก...นอกอยากเข้า...เป็นไฉน
ความรักเรา...ย่อมรู้...อยู่แก่ใจ
ดวงฤทัย...บ้าบอ...ขอรักเดียว
27 กุมภาพันธ์ 2549 09:53 น.
ชมพูภูคา J.
เป็นเพียงเศษ...ฝุ่นทราย...พลิ้วลอยล่อง
พัดผ่านท้อง...ทะเลทราย...ไร้แก่นสาร
เหนือผืนดิน...ใต้ผืนฟ้า...นิรันดร์กาล
ทุกวันวาร...คงอยู่...คู่ปฐพี
ถึงเย็นย่ำ...ค่ำหนาว...รวดร้าวจิต
แนบสนิท...นิทรา...ตามวิถี
เพียงเม็ดทราย...เม็ดหนึ่ง...ในราตรี
ย่อมไม่มี...คุณค่า...ราคาใด
เมื่อแสงนวล...ทอละออ...จากฟ้ากว้าง
แจ่มกระจ่าง...เปล่งประกาย...วับวาวใส
มีดวงตา...โอบเอื้อ...แลห่วงใย
สู่เบื้องใต้...นภาพร่าง...ทางแห่งดาว
คล้อยรุ่งสาง...หนทาง...อาจผันเปลี่ยน
เปลวแสงเทียน...นับล้าน...บนกลางหาว
อาทิตย์ทอ...บดบัง...แสงสกาว
เส้นทางยาว...ปรากฎไกล...สุดสายตา
แม้ไร้สิ้น...ชีวีใด...ในถิ่นนี้
โลกโลกีย์...ไกลห่าง...เกินฝันหา
ผืนแผ่นดิน...แห้งเหือด...สายธารา
สายลมพา...แผ่วพลิ้ว...เพียงริ้วทราย
จึงเป็นแค่...ฝุ่นทราย...ดูไร้ค่า
รอเพียงลม...พัดพา...สูญสลาย
หากยังมี...ฝุ่นทราย...เกลื่อนกล่นมากมาย
ก่อผืนทราย...จรดผืนฟ้า...ตราบนิรันดร์