15 มีนาคม 2549 13:01 น.
ชมพูภูคา J.
เอื้อมมือไปในความว่างเปล่า
ใจเปลี่ยวเหงาช้ำชอกทุกส่วนเสี้ยว
สายลมแผ่วพลิ้วโลมไล้เพียงกายเดียว
ยืนโดดเดี่ยวอ้างว้างอยู่ลำพัง
ไม่มีอะไรในหนทางเบื้องหน้า
กาลเวลาลับหายไร้ความหวัง
ไม่มีดวงตะวันฉายแสงแห่งพลัง
หมองหม่นดังวิปโยคโศกหทัย
ก้าวไปในความว่างเปล่า...
เพียงรูปเงาคล้อยเคลื่อนสะเทือนไห้
ความโดดเดี่ยวจู่โจมทอดถอนใจ
ทางยาวไกลกลับมืดมัวสลัวราง
วันนี้ไม่มีมืออุ่นเกาะกุมไว้
ถ้อยห่วงใยมากมายกลายเหินห่าง
ไม่มีเธอปรากฎกายแม้ปลายทาง
อยู่ท่ามกลางนาทีนี้ที่ไร้เธอ
3 มีนาคม 2549 10:25 น.
ชมพูภูคา J.
ชมพูพวงรวงระย้ากลางป่าใหญ่
อยู่ห่างไกลสายตามาแลเห็น
ดอกสวยสดบานสะพรั่งทั้งเช้าเย็น
เจ้าหลีกเร้นเด่นตระการอยู่กลางไพร
ดอกไม้งามนามไพเราะเสนาะหู
ชื่อชมพูภูคาพลิ้วไสว
บานชูช่อเชิงชั้นลดหลั่นไป
หวานจับใจใครได้เห็นเป็นชื่นชม
น่าเสียดายเจ้าเกิดได้ปีละครั้ง
หากมุ่งหวังเชยชมคงทุกข์ถม
เบ่งบานอยู่ชั่วครู่ดูภิรมย์
แล้วตรอมตรมปลิดปลิวสู่ผิวดิน
เจ้าเป็นได้ดอกไม้ในไพรป่า
สวยล้ำค่าโน้มเพียงมาแซมหมู่หิน
ไร้แจกันประดับใส่ช่อมาลิน
ยามโรยสิ้นแต่ไม่ช้ำน้ำมือใคร
2 มีนาคม 2549 15:03 น.
ชมพูภูคา J.
พิศแก้มนวลยวนยั่วรัญจวนจิต
ยามเชยชิดสนิทแนบอิงแอบขวัญ
อรชรนวลน้องผุดผ่องพรรณ
ดั่งบุหลันลอยเลื่อนเตือนติดตา
เจ้างามงอนนอนระทวยออดฉอ้อน
โฉมบังอรเทพียังอิจฉา
งามหมดจดองค์เอวโอ้กานดา
ปวงเทวาเนรมิตประดิษฐ์เธอ
รอยสัมผัสฝากประทับยังแสนซึ้ง
ติดตราตรึงยามแรกแย้มเผยอ
ใช่เร่าร้อนอ่อนพลิ้วครวญละเมอ
เฝ้าปรนเปรอเคียงชิดสนิทอุรา
เหมือนหลงรูปลือนามงามกระฉ่อน
ดั่งไฟฟอนรุ่มร้อนนอนผวา
เจ้างดงามแต่เพียงภาพมายา
เสน่ห์หาอนิจจาแค่ฝันไป
2 มีนาคม 2549 10:14 น.
ชมพูภูคา J.
ลมพัดสะบัดพลิ้วผ่านริ้วม่าน
ฉลุหวานขลิบลายเส้นสายไหม
ร้อยพู่เกลียวเกี่ยวประดับสลับไว้
หวังพรางไอหมอกชื้นชื่นอุรา
ข้างหน้าต่างมีดอกไม้ชูช่ออยู่
กลีบแลดูเบ่งบานงามบุปผา
สีสวยสดเอิบอิ่มชุ่มชื่นตา
บางเวลาผีเสื้อพักมาทักทาย
คือดอกไม้ในแจกันอันล้ำค่า
เจียระไนมาระยับแวววับฉาย
คริสตัลส่องแสงแข่งเก็จประกาย
เลื่อมพริ้มพรายสายสีดั่งรุ้งทอ
เพียงสวยยามข้ามคืนเข้าโรยร่วง
ชมพูพวงรวงระย้ามาลาหนอ
กลีบช้ำชอกสุดระกำนวลละออ
แจกันรอดอกไม้ใหม่มาใส่แทน
1 มีนาคม 2549 09:13 น.
ชมพูภูคา J.
เพียงยึดมั่นในสัตย์และศักดิ์ศรี
เปล่งวาทีแข็งกร้าวราวเย้ยหยัน
ความคิดกูกอบกู้รู้เท่าทัน
ความคิดมันอัปรีย์อย่าหวั่นเกรง
ลุกฮือขึ้นยืนตะโกนร้องก้องกู่
ร่วมเชิดชูอุดมการณ์ใยข่มเหง
ความภักดีในหัวใจไม่ยำเยง
ร้องบรรเลงเพลงปลุกใจให้สัตยา
เพราะต่างที่ต่างมาจึงต่างคิด
ยังยึดติดจิตหมายมุ่งเข่นฆ่า
ใครไม่เหมือนอุดมการณ์ที่ศรัทธา
จึงปรารถนาล้มล้างให้บรรลัย
ฤาศรัทธาเพียงอัตตาแห่งมนุษย์
เข้ายื้อยุดฉุดรั้งหัวใจไว้
ไม่เปิดใจใคร่รู้เพื่ออะไร
เขาหรือใครทำไมคิดต่างกัน
คือที่มาแห่งโศกนาฎกรรม
ลึกถลำตีแผ่แลข่มขวัญ
มึงไม่ถอยกูไม่ถอยแลกตะบัน
แค่เมามันนี่หรือคือศรัทธา