8 กุมภาพันธ์ 2550 11:41 น.

อย่า

ชมพูภูคา J.


อย่า...ไร้เดียงสา

รักได้  แต่อย่า  ลุ่มหลง
คงเส้นคงวา  ทว่า  อย่าดื้อรั้น
ไม่เอาเปรียบ  พยายามเข้าใจ  กันและกัน
อย่าถือมั่น  เจ็บก็เจ็บ  แต่อย่าเก็บติดตัว

อย่า...ครอบครอง

รัก  มิใช่  สิ่งของ
จะได้  ตีตราจอง  เอาไว้ทั่ว
อย่าให้รัก  คือ  ความหวั่นกลัว
รักมืดมัว  เนิ่นนาน  ย่อมจางจากใจ  


อย่า...รัก  ถ้าไม่รู้จักพอ

รัก  คืออะไร  ใยไถ่ถาม
หลากนิยาม  ตีความ  วุ่นไว้
รักเอย  เกิดก่อ  เติมต่อใจ
รักอย่างไร  สุขได้  หากใจพอ

อย่า...เสียเวลา

อย่าเสียดาย  เวลา  เคยผ่านพบ
ถึงคราจบ  อย่าเคืองขัด  ทำตัดพ้อ
จงเสียดาย  เวลา  หากรั้งรอ
จงหยุดต่อ  สาวความ  ให้ผ่านเลย

อย่า...ช้า

เพราะความรัก  ย่อมโรยรา  เหมือนดอกไม้
หากรักใคร  อย่าเก็บไว้  ไม่เปิดเผย
อันสายน้ำ  รินไหล  เหมือนดั่งเคย
เพียงเปรียบเปรย  ดุจเวลา  ยากหวนคืน


				
7 กุมภาพันธ์ 2550 16:37 น.

ดวงดาวแห่งความฝันบนท้องฟ้ารัฐอาระกัน

ชมพูภูคา J.


ออกเดินทางตามหาความฝัน
ดวงตะวันดวงนั้นอยู่แห่งไหน
ณ ที่นี้  หมดสิ้นความเป็นไท
ก้าวเดินไปไขว่คว้ามาครอบครอง

สำเภาน้อยลอยกลางลำน้ำเชี่ยว
แล่นลดเลี้ยวเปลี่ยวดายร่ำร้อง
สองผู้เฒ่าโบกลาน้ำตานอง
เสียงกู่ก้องรอวันเจ้ากลับมา

ด้วยชีวิตมิเคยลิขิตได้
หากหัวใจรุมเร้าเพรียกหา
สิทธิเสรีภาพห่างไกลลับตา
ปรารถนาเพียงใดไม่มี

บนแผ่นดินแห่งนั้นที่ฝันถึง
ขอครั้งหนึ่งฝากหัวใจคนไกลนี้
แสนเหนื่อยล้ายากเย็นชั่วชีวี
ด้วยไม่มีสิทธิ์เสรีเท่าชนไทย

เป็นเพียงชนกลุ่มน้อยในรัฐร้าง
บนเส้นทางเผด็จการยิ่งใหญ่
ประชาชนหวนไห้เท่าไร
อำนาจไซร้ใครเล่าทัดทาน

เพียงความหวังมาเก็บเกี่ยวเสี้ยวความฝัน
อาระกันคือแดนดินถิ่นสืบสาน
มวลดอกไม้ในหัวใจแย้มผลิบาน
ร้องขับขานประชาธิปไตยท่ามปลายปืน


				
7 กุมภาพันธ์ 2550 08:40 น.

ร่ำไร

ชมพูภูคา J.



ดอกเอย  ดอกไม้บาน  หลังฝน
เบื้องบน  โพ้นฟ้า  สดใส
เจ้านกน้อย  โผผิน  บินลับไป
โลมโล้  แสงทอง  ผ่องนภา

รักเอย  รักนี้  เบ่งบาน
เปรียบรสตาล  หวานล้ำ  หนักหนา
รักเร่าร้อน  ซ่อนไว้  นัยแววตา
สายธารา  ชุ่มฉ่ำ  กลางดวงใจ

ดอกเอย  ดอกไม้บาน  เนิ่นนานแล้ว
ดวงดอกแก้ว  ถึงครา  หวั่นไหว
หนาวสะท้าน  เหนื่อยล้า  มาเท่าใด      
ฝืนร่ำไร  สุดท้าย  ก็โรยรา

รักเอย  รักนี้  สิ้นหวัง  
คราชิงชัง  เหนี่ยวรั้ง  แรงล้า
ยามลมรัก  โถมไกล  ลับตา 
อำลา  รักอย่าง  ร่ำไร  




				
5 กุมภาพันธ์ 2550 11:54 น.

ตาม...ตะวัน

ชมพูภูคา J.



ไล่ล่าตามหาความฝัน
กลางตะวันแผดกล้าสาดแสง
ดุจเปลวไฟโหมไหม้ร้อนแรง
สำแดงหัวใจทรนง

แม้ล้มลุกคลุกคลานมากี่ครั้ง
เคยผิดหวังพลั้งใจใหลหลง
คงหยัดยืนฝืนฝ่าอย่างมั่นคง
ชีพดำรงอยู่ได้ไม่ปลิดวาง

วิ่งไล่ตามไฟฝันมันเหนื่อยล้า
สุดสายตาหนทางเวิ้งว้าง
เมื่อความฝันยังมีแม้เลือนลาง
คือเส้นทางปรารถนาสู่หลักชัย

ดวงตะวันยังมิเคยลาแสง
เพียงผ่อนแรงแฝงกายหลับใหล
สุริยันลับลาฟากฟ้าไกล
ถึงเวลาหัวใจได้พักพิง

อาจลิ้มรสบางครั้งทั้งหนาวร้อน
โหยหาอาวรณ์ทุกสิ่ง
หยาดน้ำตาไหลหลั่งท่ามความจริง
หากอย่าทิ้งไฟฝันลงกลางทาง



				
5 กุมภาพันธ์ 2550 08:48 น.

ความว่างเปล่า

ชมพูภูคา J.


...ปรากฎรอยใด  ในความว่างเปล่า
...แม้ความเงียบเหงา  ยังหยุดนิ่ง
...ลมหายใจ  เหนื่อยล้า  มิพักพิง
...ไขว่คว้า  ทุกสิ่ง  ไม่มี

มิยึดติด  สิ่งใด
เคว้งคว้าง  หนทาง  หลีกลี้
สิ่งจารจำ  เหลือไว้  ใจชั่วดี
สำนึกนี้  สิ่งสุดท้าย  ที่หมายจำ

...ฤา  ความว่างเปล่า  ยังสูญสิ้น
...จากดิน  สู่ดิน  เฝ้าย้ำ
...กรรมใด  ใครก่อ  สร้างทำ
...รอยจำ  เท่านั้น  ฝังตรึง


				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟชมพูภูคา J.
Lovings  ชมพูภูคา J. เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟชมพูภูคา J.
Lovings  ชมพูภูคา J. เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟชมพูภูคา J.
Lovings  ชมพูภูคา J. เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงชมพูภูคา J.