1 มีนาคม 2550 09:21 น.
ชมพูภูคา J.
เจ้านกขมิ้นเหลืองอ่อน
ค่ำนี้จะนอน ณ หนไหน
ฟ้ามืดเดือนดับทางแสนไกล
เกาะเกี่ยวคอนไหนใต้ฝุ่นเมือง
ปีกเจ้าบางกางกล้าท้าแดดฝน
เที่ยวซุกซนทั่วแคว้นแดนลือเลื่อง
ปรารถนาได้เห็นความรุ่งเรือง
นามกระเดื่องเมืองใหญ่ใคร่ได้ยล
โบยบินไปหัวใจยังเริงร่า
เมืองมายาแดนฝันช่างสับสน
คนมากมายหากเหลี่ยมร้ายเล่ห์กล
ใจฉ้อฉลมาดหมายไร้ยางอาย
เจ้านกขมิ้นเหลืองอ่อนนอนผวา
ไร้ดาราท่ามฟ้างามยามเฉิดฉาย
หลากแสงสีปรุงแต่งมากมาย
อันตรายแฝงกายคืบคลาน
หวนคิดถึงฟ้าครามยามโผเล่น
ลมเย็นเย็นกระซิบแผ่วเสียงแว่วหวาน
หอมกลิ่นไอสายลมฉมชื่นบาน
เคยขับขานร้องร่ำลำนำไพร
ยามนี้ห่างอ้างว้างร้างไร้เพื่อน
โอ้ดาวเดือนเลื่อนลับฤาหลับใหล
อยู่โพ้นฟ้าฝั่งโน้นเป็นเช่นไร
น้ำตาไหลเปียกปอนนอนเดียวดาย
28 กุมภาพันธ์ 2550 13:31 น.
ชมพูภูคา J.
หากเธอเหงา...เชิญก้าวเข้ามา
ปลดปล่อยความบ้า...มาเฮฮาร่วมกัน
ณ ที่นี้...ไร้สิ้นชนชั้น
แด่คนช่างฝัน...เชิญมาเชิญมา
มีเงินไม่ต้องมาก...มาร่วมได้
ขอน้ำใจมากหน่อย...มันโหยหา
มีกินไม่มีกิน...ไม่นำพา
รินสุราแจกจ่าย...ได้ทุกคน
พอได้ที่เคาะกะลา...แหกปากร้อง
ท่วงทำนองอย่างไร...อย่าไปสน
กอดคอกัน...ร่ายรำประสาตน
สิ่งร้อนรน...หย่อนทิ้งลงถังไป
ใครจะว่าบ้าบอ...หัวร่อร่า
ขอชีวาสุขสันต์...ใยหวั่นไหว
เพียงวันนี้ได้ทำ...สมดั่งใจ
รวมหัวใจคนขี้เหงา...เคล้าคลอกัน
ท่ามกลางความวุ่นวายในสังคมเมือง
ความเปลี่ยวเหงาถือโอกาสแทรกเข้ามาทุกอณู
แม้บนถนนจะคราคร่ำไปด้วยผู้คน
แต่เราคล้ายยืนอยู่เดียวดายลำพัง
...เหงาใจ เหงาจัง...
เขียนในวันที่ตาลาย ไปกับความพลุกพล่าน
ภายใต้ความสับสนอลหม่าน ไฉนเงียบเหงา
เสียงดังเร่งเร้า ทว่าใจเราไม่ได้ยิน...
26 กุมภาพันธ์ 2550 21:09 น.
ชมพูภูคา J.
ใครรู้เท่า รู้ลึก ฤาสู่รู้
นี่ตัวกู ของกู ใช่ไหม
อุดมการณ์ ของกู ประชาธิปไตย
มีหัวใจ รักชาติ เกินกว่ามึง
กูอุตสาห์ เสียสละ ละสิ้น
ไม่โกงกิน ดั่งมึงว่า สักสลึง
กูต้องทน เสียงก่นด่า อื้ออึง
เปรียบแร้งทึ้ง ตราหน้า สารพัน
กูทำดี ไม่ได้ดี มันปวดร้าว
ทางยังยาว กว่าก้าวไป ให้ถึงฝัน
เพื่อประเทศ เพื่อประชา ขอฝ่าฟัน
กูยืนยัน ว่าไม่สน คนประณาม
จากกู ผู้ร่อนเร่
สัมภเวสี ผู้สละลิ้นเพื่อแผ่นดิน
23 กุมภาพันธ์ 2550 10:48 น.
ชมพูภูคา J.
ฉันไม่ใช่คนดี
ไม่ใช่ ดีเกินไป แต่เป็นคนไม่ดี
อย่าคิดร้องขอ เพราะฉัน ไร้เมตตา
ความพยายาม อาจสูญค่า
กะไอ้แค่หยาดน้ำตา เสียเวลาเปล่าเธอ
ฉันคือคนเลว
อยากทน ก็ทน ถ้าทนได้
อยากไป เชิญไป ไม่สน
หัวใจสี่ห้อง ปิดทึบ มืดมน
ไม่ร้อนไม่รน ไม่เคยสน ใครใคร
ไม่จำเป็น
เธอ ไม่จำเป็น สำหรับฉัน
วันไหน เมื่อไร ก็คงไม่ใช่
เท่าที่ทำ รู้ไหม ว่าฝืนใจ
หากยังไม่เข้าใจ จะให้ย้ำ อีกทีไหมเธอ
ไม่เสียใจ
ฉัน ไม่ได้เสียใจ รู้ไว้
ไม่เคย ร้องไห้ แม้ไม่มีใครเห็น
การกระทำ พิสูจน์แล้ว สิ่งที่เป็น
ไม่ยากไม่เย็น เพราะฉัน มันก็แค่คนไม่ดี
22 กุมภาพันธ์ 2550 09:52 น.
ชมพูภูคา J.
เสียงสุดท้ายของหัวใจยังไหวแว่ว
พลิ้วพลิ้วแผ่วเล่ห์รอยเสน่ห์หา
ร้อยลิ้นพร่ำคำรักหนักอุรา
ร้อยมายาร้อยรักเกินหักใจ
น้ำผึ้งหวานซ่อนเร้นยามเล่นลิ้น
ระรวยรินประทินกลิ่นดอกไม้
ลอยลมรักพัดรำเพยเผยความนัย
ย้ำรอยใจในรอยจำมิจืดจาง
สัมผัสรักคราเร่าร้อนเริ่มอ่อนล้า
รักโรยราปลิดปลิวเคว้งคว้าง
ดั่งดอกไม้ริดร่วงลงกลางทาง
รอยรักร้างสิ้นแล้งโอ้แสงสุรีย์
ยินกระซิบจากหัวใจคล้ายร่ำร้อง
ท่วงทำนองหมองไหม้ไร้ศักดิ์ศรี
น้ำตาหลั่งหล่อรื้นสู่พื้นธุลี
โปรดปราณีคืนกลับอย่าลับลา
ลิ้มรสรักชั่วคืนตื่นก็สิ้น
ดวงชีวินแทบด่าวดิ้นถวิลหา
ทุรนทุรายรวดร้าวหนาวกายา
เงาน้ำตาเหมือนภาพฝันนั้นไม่เคย