27 มกราคม 2549 13:47 น.
ชมพูภูคา J.
วันหยุดแล้วครับเจ้านายที่รัก
คือวันพักผ่อนนายผมก็รู้
แต่ตัวผมร้อนรนถึงโฉมตรู
เปิดประตูให้ด้วยวอนเห็นใจ
อยู่ในกรงมาตั้งห้าหกวัน
แสนเกลียดมันไอ้ตัวดำมันอิจฉา
ชอบมาแกล้งข่วนตบตลอดเวลา
เจ้านายจ๋าไม่อยู่คอยห้ามปราม
วันก่อนนั้นผมชะแง้อยู่หน้าบ้าน
หล่อนคืบคลานย่องมาให้วาบหวาม
เห็นดวงหน้าแมวอะไรช่างแสนงาม
อยากเกี้ยวถามบ้านอยู่ไหนลายพร้อยดี
ผมเกิดมาชาตินี้อาภัพนัก
ต้องโดนกักกลัวใครเขาอุ้มหนี
แค่แมวอ้วนอ้วนขนฟูฟ่องดั้งไม่มี
ถูกกดขี่เอาไว้แต่ในกรง
วันหยุดแล้วถึงคิวได้แช่มชื่น
คุณนายตื่นหรือยังฤาลืมหลง
ผมยังไม่ได้กินแล้วเธอยังนอนลง
นี่เที่ยงตรงแม่คุณไม่ตื่นนอน
27 มกราคม 2549 08:42 น.
ชมพูภูคา J.
อนิจจาความรักเราเจ้าบินจาก
ดวงใจพรากจากจรตอนหลับใหล
เผลอนิดเดียวเจ้ามาชิ่งหนีไป
ผิดตรงไหนหนีไกลไม่ร่ำลา
คว้าขวดเหล้ากรอกปากหากสะอื้น
แม่งามชื่นไม่เห็นใจพี่เฝ้าหา
น้ำตาตกเมื่อไม่พบดวงแก้วตา
ดื่มเหล้ายาหวังดับไฟในอารมณ์
ตักต้มยำลำเค็ญเห็นหน้าเจ้า
ดวงตาเย้ายวนจิตพี่ลุ่มหลง
อยากจุมพิตก็เลือนวับทำได้ลง
โอ้โฉมยงพี่ชอกช้ำระกำใจ
ซดต้มยำรสจัดหวังได้คิด
ร้อนจับจิตแสบพร่าน้ำตาไหล
กินต้มยำเสียดแทงแสลงใจ
เจ้าบินไปไม่เหลือไว้ใส่น้ำแกง
26 มกราคม 2549 17:05 น.
ชมพูภูคา J.
สดับเสียงแผ่วพลิ้วทิวไม้ไหว
เพลงพงไพรเสนาะซึ้งรำพึงหา
หลากสรรพสิ่งร่ำร้องก้องภูคา
พร่ำพรรณาเหว่ว้าแทบสากรรจ์
ยินลำนำเศร้าสร้อยร้อยบุปผา
มวลมาลาวิปโยคโศกอาศัลย์
คล้ายหนาวเหน็บเจ็บช้ำสุดรำพัน
ฤาความฝันโบยบินละลิบไกล
ร่างนั้นยืนตระหง่านดั่งอารักษ์
แลวงพักตร์เมินเฉยมิอ่อนไหว
จะหนาวเยือกกรีดแทงหรืออย่างไร
เดียวดายไม่ทอดถอนวอนเมตตา
ขอพลังมนตราข้าจงก่อเกิด
พรบรรเจิดจงนิมิตบนหุบผา
หากใครพบสิ่งรักอยู่คู่กายา
ถ้าตามหาจงสมดั่งใจจินต์
ข้าจะยืนอยู่ตรงนี้ด้วยใจมั่น
แม้คืนวันเลยลับไม่สูญสิ้น
เป็นต้นน้ำแหล่งพักกับชีวิน
ขอมนตราอย่าสิ้นตราบนิรันดร์
25 มกราคม 2549 16:50 น.
ชมพูภูคา J.
คำว่ารักง่ายนักถ้าจะเอ่ย
หลายคนเคยหว่านถ้อยร้อยคำหวาน
คำว่ารักหนึ่งในนั้นงามตระการ
วิมลมาลย์สุขสมในวจี
หรือคำรักเปรียบได้เพียงลมปาก
ยามเมื่ออยากพร่ำได้ไม่อายผี
สมรักแล้วจากไปไม่ใยดี
ฤารักมีความหมายแค่คำลวง
หากรักคือสัมผัสที่เพียงร่าง
ยามรักจางดวงจิตตะขิดตะขวง
คำมักง่ายเจ็บแปลบแสปซึ้งทรวง
หวังตักตวงสุขสร่างแล้วร้างไกล
ขออย่าเพียรเอ่ยซ้ำคำคำนี้
ความรักมีคุณค่ากว่าสิ่งไหน
แค่เธอมอบเพียงนิดเดียวแค่เสี้ยวใจ
ตราตรึงไว้แนบดวงจิตนิจนิรันดร์
25 มกราคม 2549 08:35 น.
ชมพูภูคา J.
แสงสลัวมัวหม่นให้หมองไหม้
ร่างนั้นไซร้สงบนิ่งใต้หินผา
งามจรดเอกอนงค์องค์อาภา
ดั่งเทวานิรมิตจิตรบรรจง
ย้อนเวลาพันปีก่อนเลยล่วง
เทพทั้งปวงเธอขอข้อประสงค์
อธิษฐานมอบแด่เขาผู้อาจอง
ขอให้จงกลับมาอย่าปราชัย
จากวันนั้นนับเนื่องถึงวันนี้
ดวงฤดีรอคอยกล้ำกลืนไห้
กาลเวลาล่วงลับเกิดดับไป
สุดอาลัยใยเขาไม่คืนมา
เธอไม่รู้เวลาที่เลยจาก
ความพลัดพรากพรากเขาไม่หวนหา
เธอไม่รู้เวลาไม่ย้อนมา
เกิดแล้วลาหมุนไปตามครรลอง
ยังยินดีจะเฝ้ารอใต้เงาภพ
ร่างบรรจบแทบพื้นแม้หม่นหมอง
การรอคอยปวดร้าวน้ำตานอง
มิอาจครองคู่กันดั่งสัญญา