21 กุมภาพันธ์ 2549 19:32 น.
ชมพูภูคา J.
ฟ้าสีคราม...สดใส...เลื่อมพรายรุ้ง
กลางท้องทุ่ง...เขียวขจี...ริ้วหญ้าไหว
น้ำฝนพร่าง...หยาดสุดท้าย...เพิ่งลาไป
นกน้อยใหญ่...ไซ้ปีก...เตรียมโผบิน
ดอกไม้...แรกรับน้ำ...ช่างแช่มชื่น
ชีวาฟื้น...แต่งแต้ม...แซมหมู่หิน
หลากสีสัน...ดารดาษ...มวลมาลิน
หมู่ภุมรินทร์...บินว่อน...เคล้าดอมดม
พอฝนซา...ฟ้าเปิด...โลกพลันใส
สาดแสงไกล...เจิดจ้า...พาสุขสม
หากใจหนึ่ง...หงอยเหงา...เฝ้าตรอมตรม
ร้าวระบม...หนาวเหน็บ...สุดเสียดแทง
อยู่ห่างไกล...ไร้ซึ่ง...คนเคยรัก
จำใจหัก...จิตไว้...คล้ายหน่ายแหนง
ทนเดียวดาย...เปลี่ยวปร่า...ฝ่าลมแรง
ใจแห้งแล้ง...แม้หยาดฝน...พร่างพรมตัว
หรือความเหงา...คืบคลาน...เข้าครอบจิต
ดั่งชีวิต...พลัดกลาง...ทางสลัว
ผจญฟ้าฝน...สาดซัด...ใจระรัว
จึงหมองมัว...หม่นเศร้า...เหงาหัวใจ
21 กุมภาพันธ์ 2549 08:54 น.
ชมพูภูคา J.
สองมือน้อยบรรจงลงเมล็ด
เซาะดินเสร็จเม็ดซุยโรยปุ๋ยใส่
ค่อยค่อยพรมรดน้ำความห่วงใย
กิ่งก้านใบแตกหน่อรอผลิบาน
เริ่มจากเมล็ดพันธุ์เล็กจิ๋วดูไร้ค่า
เก็บเอามาบ่มเพาะปะเหลาะหวาน
เฝ้าดูแลชิดใกล้คุ้มภัยพาล
เพียงไม่นานเติบใหญ่ได้แข็งแรง
แม้พายุถาโถมโหมวิโยค
โอนเอนโบกใบระบัดซัดคำแหง
รากหยั่งลึกเกี่ยวกระหวัดดั่งกำแพง
จึงกล้าแกร่งสำแดงเดชต่อเภทภัย
ปลูกต้นรักแนบลึกดั่งจิตมั่น
รดน้ำหมั่นพรวนดินมิหวั่นไหว
คอยเติมรักกระซิบหวานซ่านทรวงใน
เป็นเกราะใจให้ต้นรักจักนิรันดร์
20 กุมภาพันธ์ 2549 11:53 น.
ชมพูภูคา J.
สายฝนโรย...โปรยปรายจากเบื้องฟ้า
คล้ายน้ำตา...เวหาหลั่งรดสิ้น
แสนโศกเศร้า...รันทดจนหยดริน
ฝากผืนดิน...กลืนกลบลบน้ำตา
ม่านหมอกครึ้ม...ครืนครั่นคล้ายห่วงเพื่อน
ยามฟ้า...เหมือนทุกข์เคล้าเศร้าหนักหนา
เห็นฟ้าเจ็บ...เมฆย่อมหม่นลงทันตา
หากแผ่นฟ้า...แจ่มใสได้คราคืน
น้ำตาฟ้า...คือความหมายใจหมองเศร้า
ผู้ขาดเขลา...เรี่ยวแรงล้าจนยากฝืน
ฟ้าจึงหลั่ง...น้ำตารดจงหยัดยืน
จิตได้ชื่น...น้ำจากฟ้ามาล้างใจ
17 กุมภาพันธ์ 2549 14:51 น.
ชมพูภูคา J.
อย่ารักเธอ...คำเคยบอกเมื่อก่อนนั้น
ดูตะวัน...แรงกล้ายังลับหาย
ความรักเอย...คงมั่นมิวางวาย
ย่อมเคลื่อนคลายเปลี่ยนได้เฉกเช่นกัน
ขอเพียง...ความเข้าใจยังมีให้
ความห่วงใย...ยืนยงไม่แปรผัน
มีหัวใจ...ซื่อตรงคงนิรันดร์
ความผูกพันติดตรึงไว้ในดวงแด
ถึงวันนี้...ฉันยึดมั่นคำนั้นเสมอ
ไม่รักเธอ...เพียงความหลงคงแน่วแน่
ไม่รักเธอ...แต่ดวงจิตมิเปลี่ยนแปร
ฤารักแท้...หากยังแพ้ความเข้าใจ
16 กุมภาพันธ์ 2549 16:43 น.
ชมพูภูคา J.
เริ่มแรกรักดอกร่วงโรยมาผลิช่อ
ก้านกิ่งก่อเกี่ยวกระหวัดพลัดใบอ่อน
หอมอบอวลอิ่มเอมอ้อนล้อภมร
ยามรักร้อนโรยรื่นระบือไกล
พอคืนคล้อยคืบคลานเคลื่อนผันผ่าน
ดอกรักหวานหว่านไว้เริ่มหวั่นไหว
กลิ่นก่อนหอมกลืนกลับลาร้างไกล
ดวงฤทัยทดท้อแทบทุกทาง
พบทางแยกแยบยลฤาย้อนยอก
ใกล้เพียงศอกสับสนเกินสะสาง
รักร่วงโรยร้างเลื่อนแลเลือนลาง
มองเส้นทางมืดหม่นมัวหมองใจ
หากเยื้องย่างทางยาวไกลให้ยืดเยื้อ
ช่องทางเอื้อเช่นไรช่างเฉไฉ
ทางหนึ่งเผลอพลั้งพลาดพิลาไลย
อีกเส้นไซร้สิ้นแสงสุดมิส่องมา
จึงทางแยกหรือแยกทางยั้งยืนหยุด
การเร่งรุดก้าวร้าวราวเร่งหา
จะอับจนทนทุกข์ท้อที่ทำมา
หยุดหันหาหนทางเหินห่างไกล
ลองผินหลังเพื่อผ่านพ้นเพียงได้คิด
แม้สักนิดหนึ่งนั้นแน่ไฉน
จะก้าวด้นดุ่มเดินด้วยเหตุใด
ทบทวนใจท้ายที่สุดหยุดทิศเดิม