จำได้ไหม คุณไปทะเลครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ? นานแค่ไหนแล้ว ที่คุณไม่ได้ไปเหยียบผืนทรายละเอียดนั่น ? และทุกๆครั้งที่ไปทะเล ฉันเชื่อว่าทุกคนต้องเขียน จารึกอะไรบางอย่างลงบนผืนทราย เพื่อระลึกความทรงจำ ทั้งๆที่รู้ว่า รอยบนผืนทรายที่เราวาด เราเขียนไว้นั้นอีกไม่นานก็โดนคลื่นซัด ลบหายไปกลายเป็นเพียงรอยทรายที่หายไป แต่เราก็ยังอยากที่จะวาด จะเขียนสิ่งที่เราพึงพอใจ ไม่ว่าชื่อเราเอง หรือคนพิเศษ อย่างน้อย ฉันคนหนึ่งล่ะ
สิ่งที่มนุษย์มีมากมายจนไม่มีวันหมดนั่นคือ. ความรัก แต่สิ่งที่มนุษย์ทมีจำกัด จนดูเหมือนว่าเห็นแก่ตัว นั่นคือ. ความอดทน ยิ่งรักมาก ก็ยิ่งต้องอดทน กับปัญหาต่างๆรอบข้าง เพื่อให้รักนั้นยั่งยืน แต่ในทิศทางตรงกันข้าม เมื่อใดที่ สิ้นรัก เมื่อนั้น ความอดทน ก็หามีไม่ สิ่งใดที่เคยทนได้ก็กลับแปรเปลี่ยนไป สิ่งใดที่เคยเห็นดีเห็นชอบ กลับกลายเป็น ขวางหูขวางตา ทั้งๆที่อีกฝ่ายหนึ่ง กระทำกับตนอย่างเสมอต้นเสมอปลาย ท้ายที่สุด เรา เป็นฝ่ายทอดทิ้ง รัก นั้นให้ต้องจบลง แต่ยังมีความจริงอีกสิ่งหนึ่ง ที่คนเรามักจะมองข้ามกันไป บางครั้งความรักของเราจบลง ทั้งๆที่ความรู้สึกรักยังมีอยู่เต็มหัวใจ เพียงแต่การถูกกระทำ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกระทั่ง ความอดทน บอกให้เราต้องไป ไปทั้งๆที่ยังรัก เพราะหากรักแล้วต้องเจ็บ ต้องช้ำ ทางเลือกที่ดีที่สุดก็น่าจะหมายถึง การจากไปในวันนี้ เพื่อที่จะเข้มแข็งและลุกขึ้นใหม่ได้ในวันข้างหน้าอย่างนั้น ไม่ใช่หรือ ............................................................. ขอบคุณบทความดีๆจาก เวป....sakid .com
คอยเตือน ยามเพื่อนพลั้ง คอยฟัง ยามเพื่อนขอ คอยรอ ยามเพื่อนสาย คอยพาย ยามเพื่อนพัก คอยทัก ยามเพื่อนทุกข์ คอยปลุก ยามเพื่อนท้อ คอยง้อ ยามเพื่อนงอน คอยสอน ยามเพื่อนผิด คอยสะกิด ยามเพื่อนเผลอ คอยเจอ ยามเพื่อนหา คอยลา ยามเพื่อนกลับ คอยปรับ ยามเพื่อนเปลี่ยน คอยเรียน ยามเพื่อนเที่ยว คอยเคี่ยว ยามเพื่อนเล่น คอยเย็น ยามเพื่อนร้อน คอยหอน ยามเพื่อนเห่า คอยเฝ้า ยามเพื่อนฟุบ คอยอุบ ยามเพื่อนปิด คอยคิด ยามเพื่อนถาม คอยปราม ยามเพื่อนหลง คอยปลง ยามเพื่อนแกล้ง คอยแบ่ง ยามเพื่อนหมด คอยอด ยามเพื่อนทาน คอยคาน ยามเพื่อนล้ม คอยชม ยามเพื่อนชนะ คอยสละ ยามเพื่อนชอบ ................................................... มาจาก Fw.mail ที่เพื่อน(และพี่)ส่งมาให้อ่านค่ะ
...เพลงนางนวล ของ พิงค์แพนเตอร์... โอ้เจ้านกนางนวล เจ้าผกผินบินมาจากไหน เจ้ารู้ไหมว่า ดวงใจข้าปวดร้าว เจ้าล้อลม ล้อลมดั่งยั่วเย้า อกจึงเศร้าดั่งมีใครคอยซ้ำเติม โอ้เจ้านกนางนวล โปรดนำรักคืนมาให้ที หากจะมีสิ่งขัดขวาง เจ้าจงเสาะไป * ไปซิไป ไปซิไป อย่าหวั่นไหว อาจจะได้รักข้าคืนมาสุขสม นางนวล นางนวล...โปรดจงเห็นใจ นางนวล นางนวล...ข้าจะคอยด้วยความหวัง ** แม้จะนานเท่าใด นานตราบจนชีพวาย ยังรอคอยดวงใจข้ากลับมา ยังรอคอยดวงใจ...โอ้นางนวล =============================== ถนนสายสีเทาแห่งนั้นยังคงทอดยาวไกลไปข้างหน้า อย่างไม่มีที่สิ้นสุดหรือหยุดนิ่ง ณ.ที่ใดที่หนึ่ง ถนนกับการเดินทาง...ใช่ ฉันชอบการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ ยามมีเงินก็ไปไกลหน่อย คราเงินน้อยก็ไปแถวละแวกบ้านไม่ใกล้ไม่ไกล เพียงแค่หมุนรอบๆตัวเองนี่แหละ แล้วจะมองเห็นองศาความต่างที่อยู่รายรอบตัวเรา ผ้าใบสีซีดคู่เก่าถูกสวมเข้าไปในเท้าทั้งสองข้างของฉัน กระเป๋าเป้ใบเดิมถูกสะพายขึ้นหลังพร้อมออกเดินทางไปสู่ถนนสายเก่าซึ่งเคยพาฉันไปหนหนึ่งแล้วครั้งกระโน้น วันนี้ฉันตั้งใจไปสูดกลิ่นไอทะเลให้หายคิดถึง คุณก็รู้นี่นา ทะเลคือชีวิต ทะเลคือลมหายใจของฉัน ฉันเติบโตมาจากลูกน้ำทะเล ... แต่ขอโทษทีเถอะ ลูกสาวชาวเลอย่างฉันนั้นว่ายน้ำไม่เป็น จริงๆนะ นั่นไง เบื้องหน้าของฉันตอนนี้แผ่นฟ้าและผืนน้ำอันกว้างใหญ่ เห็นเพียงขอบฟ้าขอบน้ำ ประหนึ่งว่าขอบฟ้าจรดขอบน้ำ เสียงลมพัดอื้ออึงทำให้เกิดแรงเสียดสีของทางมะพร้าวที่เอนลู่ตามแรงลม ให้ตายเถอะ เสียงลมพัดอื้ออึงทำให้มีทางมะพร้าวเสียดสีเกิดเสียงวูบไหวในความรู้สึกคล้ายๆเสียงใครรำพึงรำพันราวกับคนอกหักก็ไม่ปาน แต่รับรอง ไม่ใช่ฉันคนนี้แน่นอน บรรยากาศยามเย็น 5โมงกว่าๆแล้วกระมัง ฉันแหงนหน้าหรี่ตามองฟ้า พระอาทิตย์ยังคงส่องแสงเจิดจ้าเลยทีเดียว แสงของดวงอาทิตย์ส่องรัศมีแผ่กระจายไปยังท้องน้ำอันกว้างใหญ่ ทำให้เกิดพรายน้ำกระพริบระยิบระยับวับวาวราวเกล็ดแก้วกลางน้ำ เสียงเพรียกของท้องทะเลทำให้ฉันหวนกลับคืนมาที่นี่อีกครั้ง เสน่ห์ของเกลียวคลื่นที่ไล่ซัดถาโถมดั่งหนุ่มสาวที่วิ่งไล่ หยอกล้อกันอย่างมีความสุข ละลอกแล้วละลอกเล่าที่เกลียวคลื่นซัดกระแทกกับโขดหินโสโครก แล้วค่อยแตกกระจายกระเซ้นเป็นฟองฟอยละกลับคืนสู่ท้องทะเลในที่สุด ฉันยืนมองทะเลพลางสูดเอากลิ่นไอแห่งท้องทะเลเข้าเต็มปอด สายตาฉันมองอะไรไปเรื่อยเปื่อยไม่ว่า ทะเล ท้องฟ้า หาดทรายขาว แต่แล้วสายตาฉันไปปะทะกับอะไรบางอย่างบนท้องฟ้า "นก " " นกนางนวล " ฉันอุทานเบาๆ นกนางนวลเจ้าเอย ทำไมเจ้าช่างตอกย้ำ ความรู้สึกบางอย่างในใจลึกๆ ฉันหวนคิดถึงใครบางคนที่ชอบฟังเพลง นางนวล ของเสือสีชมพูเจ้าเสน่ห์หรือพิงค์แพนเตอร์ นั่นเอง ฉันเพ่งสายตามองเจ้านกที่กระพือปีกคู่น้อยๆแต่ทว่าแข็งแรง ปีกของเจ้าเหมือนจะอ่อนนุ่มบินโฉบล้อเล่นท้าทายกระแสลมที่พัดแรง แต่เจ้าก็หาได้เกรงกลัวต่ออุปสรรคที่ขวางหน้า เจ้ายังคงบินต่อไปๆ คุณเคยบอกฉันนี่นาว่า..เจ้านกนางนวลจะมุ่งหน้าบินไปยังจุดมุ่งหมายที่ต้องการ นางนวลไม่เคยหลงทิศทางของตัวเอง ใช่..นกนางนวลไม่เคยหลงทิศทางของตัวเอง แล้วคุณล่ะ..คุณมัวแต่หลงทิศทางกับชีวิตของตัวคุณเองอย่างงั้นหรือ คุณถึงหลงลืมใครอีกคนที่อยู่ข้างหลัง ที่ผ่านมาคุณหายไปไหน คุณรู้ไหม ฉันอยู่อย่างไรในช่วงที่คุณไม่อยู่ แต่คุณเชื่อไหม ฉันสามารถยืนหยัดได้ด้วยหัวใจของฉันเอง หัวใจฉันอาจแข็งแกร่งดั่งหินโสโครกในท้องทะเล คุณอย่าเพิ่งแปลกใจทำไมฉันเปรียบหัวใจตัวเองเป็นหินโสโครก เพราะหินโสโครกอยู่ท่ามกลางความเหน็บหนาวของท้องทะเล แต่ทว่าเข้มแข็ง แข็งแรง แข็งแกร่ง สามารถทำให้เรือบรรทุกสินค้าลำใหญ่ๆอับปางลงอย่างง่ายดาย ฉันอยากให้คุณเป็นดั่งนกนางนวลนะ ถึงแม้ว่า ตัวจะเล็ก ปีกคู่น้อยจะบางอ่อนโยน แต่ทว่าใจกล้าและไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคที่กางกั้น นั่นเพราะนกนางนวลมีทิศทางเป็นของตัวเอง มีเป้าหมายในชีวิต ...................................................... ถนนสายสีเทายังคงทอดยาวเช่นเดิม ถนนสายนั้นรอให้คุณเดินไปในทิศทางที่คุณเลือกเอง ถนนสายนั้นอาจมีเป้าหมายที่คุณต้องการ ขอให้คุณโชคดีในการเดินทางดั่งนกนางนวลตัวนั้น นกนางนวลที่ไม่เคยหลงทิศทางของตัวเอง..... ================================