25 มีนาคม 2551 02:00 น.
ฉางน้อย
วันนี้หมวยเล็กมีเรื่องว่าว เอ๊ย มีเรื่องเล่าเช้านี้มาให้ฟังคะ เป็นเรื่องราวของเจเจ๊สุดที่รักค่ะ
เป็นเรื่องราวของสามพี่น้องที่น่ารักๆครอบครัวหนึ่ง
มีเจเจ๊มัสลิน หญิงเหล็ก ตัวเล็กๆแกร่ง สู้งาน แม้แต่เครื่องยนต์คูโบต้ายังอาย อิอิ
เฮียสืบ คนนี้ออกจะเก๊กซิม เอ๊ย ทำเก๊กมาดหล่อใส่สาวๆค่ะ สุดท้ายก็กินแห้ว หุหุ
คนสุดท้าย ยัยหมวยเล็ก คนนี้คนสุดท้อง ที่ใครๆมักบอกว่า คนสุดท้องไม่บ๊องส์ก็บ้า อิอิ จริงป่าวน๊า
..... เป็นเรื่องราวความรัก ความผูกพันของพี่น้องตระกูลหนึ่ง อ่ะ ไม่โม้แระ ไปอ่านกันเลยคะ
ขอได้รับความขอบคุณจาก......
...ฉางน้อย อินเตอร์เทนเม้นท์
พากษ์เสียงภาษาไทย โดย...ตุ๊ดตู่ ซาวด์ แอนด์ มิวฉิก อิอิ
เรื่อง โดย...ฉางน้อย ทะเลไร้คลื่น
ถ่ายภาพ...โดย ..เฮียสืบ หรือว่า นักสืบไร้อันดับ หุหุ
(ทั้งนี้ และทั้งนั้น ขอขอบคุณผุ้ให้การอุปถัมภ์รายการด้วยดีมาตลอด นั่นคือ เจเจ๊มัสลินของเรานี่เอง..ฮา...)
" ฮือๆๆ..อูยยย..." อ่ะ..เสียงอะไรร้องดึกๆดื่นๆ เอ..เสียงร้องใกล้ๆนี่เองนี่นา หมวยเล็กหันซ้ายมองขวา หาที่มาของเสียงฮือๆนั่น
อ่ะๆ ..ดังมาจากห้องเจเจ๊นี่ ไม่ได้การละ ต้องสอดรุ้สอดเห็น เอ๊ย ต้องเคาะประตูซะแระ ว่าเป็นไรอีก
...ก๊อกๆ...เงียบแฮะ... อ่ะน่ะ อีกทีๆ
...ก๊อกๆๆ... ......
" เจเจ๊ ..เป็นไรป่าวคะ เสียงเหมือนผีบ้านผีเรือนที่ไหนมาร้องฮือๆที่ห้องเจเจ๊ป่ะคะ ..? "
" ยัยหมวยบ้า ..ผีบ้านผีเรือน ผีบ้าผีบอที่ไหนร้องล่ะ เจเจ๊ปวดท้องอ่ะ ฮือๆๆ.." ว่าแล้วเจเจ๊ก็อ้อนหมวยเล็กซะเลย อิอิ
"..เหรอ ..เป็นไรมากป่ะคะ ไปหาหมอนะคะ นะ เดี๋ยวไปเรียกเฮียเอารถออกก่อนนะ..รอแป๊บนึง.."
"..ไม่ไป๊ ไม่ไป ไม่ไปนะ เจเจ๊ไม่ไปหาหมออ่ะ หมวยเล็กก็รู้อยู่ว่า เจเจ๊กลัวเข็มฉีดยาอ่ะ ไม่ไปน๊า .."
น้านนนน..เจเจ๊ของหมวยเล็กล่ะค่ะ กลัวเข็มฉีดยา อิอิ แต่ยังทำปากดีโอดครวญอีก
"..เอาน่ะ รับรองคะว่าหมอที่นี่ เก่งที่สุด ดีที่สุด อะแฮ่ม..แล้วก็ หล่อที่สุดด้วยน๊า สนป่ะๆๆ หมวยเล็กเอาน้ำร้อนเข้าสาด เอ๊ย เอาน้ำเย็นเข้าลูบ อิอิ
" ..เหรอ จริงป่ะ ไหนลองพูดใหม่ซิ ว่า แก่ที่สุด หรือว่า เก่งที่สุด.." เจเจ๊เริ่มเอียงหูฟังแหละ อิอิ คำว่า เก่ง หรือ แก่กันแน่ 5555
"..เก่งค๊า..หมอเก่งที่สุด ย้ำ หล่อด้วยน๊า หมวยเล็กขอบอก อิอิ "
"..เหรอ แน่นะ ..." เหมือนเจเจ๊ต้องการตอกย้ำคำว่า หล่อ 5555 หมวยเล็กเลยต้องทำเสียงเพิ่มความมั่นใจให้เจเจ๊เข้าไว้ อิอิ
"..เฮี้ยยย..เฮีย ..เฮียสืบๆ เอารถออกเร็วๆเข้า พาเจเจ๊ไปหาหมอด่วนเลย" ได้ผลแฮะ กับคำว่า เฮีย แต่มีไม้โท ต่อท้ายข้างบน อิอิ เฮียสืบสะดุ้งโหยง
"..นี่ หมวยเล็ก เฮียบอกแล้วใช่ไหมว่า เรียก เฮียเฉยๆไม่ต้องเติมไม้โทให้หรอกน่ะ สอนไม่จำ เด็กคนนี้นี่ .."
'.. ค่ะ ..เฮียเฉยๆ.." หมวยเล็กรับคำ พลางทำตาใส ซื่อ(บื้อ)น่าหยิก
".. เฮ้ยย..อะไรของมันอีกเนี๊ยะ คำว่า เฮียเฉยๆ เอามาจากไหนอีก.." เฮียสืบเริ่มทำตาขวางอีกรอบ
"..อ๊าววว..ก็เฮียบอกหมวยเล็กเองนี่นา ว่าให้เรียกว่า..เฮียเฉยๆ..อ่ะๆ อย่านะ อย่าเถียงน๊า เดี๋ยวหยิกปากเลย " หมวยเล็กเถียงเฮียสืบคอเป็นเอ็น พร้อมกับคอยหลบมะเหงกที่จะลงมาใส่หัวตอนไหนไม่รู้
".. เฮ้อ..เฮียละอ่อนอกอ่อนใจกะหมวยจริงๆน๊า .." เฮียสืบ (แอบ)ส่ายหน้าด้วยความรำคาญ (ถึงจะแอบยังไงก็เห็นแหละว๊า เชอะ)
.... ในท้องถนนที่เริ่มคราคร่ำด้วยผู้คน แม้ไม่มากมายนัก แต่ด้วยความเป็นห่วงเป็นใยอาการของเจเจ๊ก็ทำให้พวกเราร้อนใจไปตามๆกัน
".. เฮียๆ เลี้ยวไม ทางนี้อ่ะ นั่นมันโรงบาล ที่รับตัดขนสุนัขอ่ะ อ่านดิ เขาเขียนว่า รับตัด ตกแต่งขนสุนัข อ่านดีๆ เราพาเจเจ๊ไปหาหมอคนนะคะ ไม่ใช่หมอ....."
..แฮ่.. หมวยเล็กรีบบอกเฮียเมือเฮียเริ่มเขว เลี้ยวผิดซอยคะ คงตื่นเต้นๆๆ อิอิ
".. เออๆๆ..รู้แล้ว โทษที..โทษอ่ะเจเจ๊ ผมไม่ตั้งใจ..' เฮียสืบทำสีหน้าเจียมเจี๊ยม สำนึกผิด
"..เอาน่ะ จะหมอหมาหรือหมอคน ขอให้หมอหล่อไว้ก่อน " เจ๊มัสของเราไม่ทิ้งคอนเซ็ปเดิม 55555
.....ตัดฉับ มาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง(ที่ไหนม่ะบอกหร๊อก)
".. โห..หู๊ววว..เฮียสืบๆ นี่มันห้องผุ้ป่วยในโรงบาล หรือว่า โรงแรมระดับ(ไก่ย่าง)ห้าดาวกันแน่เนี๊ยะ หือ ..ว๊าววว..ทำไม เลิศหรูอลังการซะอย่างกะห้องพักในโรงแรมเลยเนอะ .." หมวยเล็กตะลึงงันกับความหรูหราเลิศเลอของห้องรับรองผู้ป่วยระดับ วีไอพี
".. ใช่ซิ จะไม่หรูได้ไง ทั้งโรงบาลมีห้องแบบนี้แค่สองห้อง ไว้ต้อนรับระดับวีไอพีไง คืนละสองหมื่นเชียวนะ รู้ป่าว " คำพูดของเฮียสืบทำให้หมวยเล็กถึงบางอ้อ.. มิน่าๆๆ เนอะ
" ..ยัยหมวย แล้วเราน่ะนะ อย่าพูดเสียงดังไป ทำตัวมาจากบ้านน๊อก บ้านนอกไปได้ พูดไรเบาๆหน่อยได้ไหม สอน....." เฮียกำลังจะต่อประโยคที่ว่า..
" ..สอนไม่จำ.." หมวยเล็กรุ้ตัวเอง ต่อให้เสร็จสรรพ อิอิ ได้ผล เฮียสืบขว้างค้อนมารอบสอง (เอาตะปูเก็บก่อน อิอิ )
" .. อย่าพูดมาก ไปๆ เข้าไปดูเจเจ๊ก่อน ป่านนี้นอนร้องไห้แล้วมั้ง " เฮียกลัวหมวยพูดมากไปกว่านี้ รีบดันหลังให้เข้าไปในห้องรับรองผู้ป่วย
"..ก็จริงๆนี่เฮีย ถ้าหมวยได้นอนเล่นห้องแบบนี้นะ ให้หมวยนอนป่วยสัก10คืนก็ยอมล่ะ ถึงจะได้ ก็จะได้ตายตาเหลือก เอ๊ย ตายแบบตาหลับ ว่า ครั้งหนึ่งเราได้นอนห้องหรูๆ อิอิ "
"..แหะ..แหะ.ไม่พุดก็ได้อ่ะคะ โทษที เผลอพูดมากไปนี๊ดด.." หมวยเล็กจำต้องหุบปากโดยปริยาย เมื่อสายตาเฮียมองมารอบที่สอง
"..ฮือๆๆๆ.." นั่นเจเจ๊ของพวกเราเป็นไรไปอีก เห็นหน้าสองสุดที่รักสองคนแทนที่จะดีใจ กลับร้องไห้ซะนี่ พี่เรา
".. ฮือๆๆๆ.. อาตี๋ๆ อ่ะ มาให้เจเจ๊กอดหนอ่ย เจเจ๊กลัวเข็มอ่ะ ตี๋รู้ทั้งรู้ ยังจะพาเจเจ๊มาหาหมออีก ฮือๆๆ..พรืดดดด."
เสียงสุดท้ายนั่น เจเจ๊ของเราสั่งน้ำมูกพรืดเดียวเต็มหัวไหล่เฮียสืบ 5555 (หมวยเล็กแอบขำ อิอิ) เจเจ๊เราถือโอกาสซบไหล่เฮียสืบสั่งขี้มูก
อืม..ช่างเป็นแผนที่แยบยล เสียนี่กระไร... อิอิ
.....ย้อนหลังไปเมื่อปลายปี 50 พวกเราต่างเป็นห่วงเจเจ๊กันทตั้งแต่เจเจ๊เริ่มมีอาการแปลกๆ ปวดท้องโดยไม่มีสาเหตุ แต่เจเจ๊ก็ทนทำงานเรื่อยมา หาหมอที่ไหนๆก็ยังไม่ทุเลา หลายครั้งหลายครา เจเจ๊เริ่มชาชินกะอาการปวดท้อง บางครั้งทำงานจนลืมว่า ตัวเองปวดท้องอยู่ อิอิ
มีอยุ่ครั้งหนึ่ง เฮียสืบแนะนำให้ลองรักษากับหมอบ้าน หมอสมุนไพร
".. เจ๊ ลองทานยาหม้อดูไหม เป็นยาสมุนไพรน่ะ หมอบ้านใส่หม้อดินแล้วกินแต่น้ำ ก็เอาสมุนไพรพื้นบ้านนี่แหละ เอามาต้มกิน " เฮียสืบ พูดเหมือนน่าเชื่อถือมากๆ
"..เหรอ แล้วอาการหายดีเลยเหรอ เป็นปกติหรือเปล่า หายแน่นะ.." เจเจ๊ของหมวยเล็กเริ่มคล้อยตามคำชักจูง
"..หายซิ รับรอง แต่ถ้าจะหายแบบเด็ดขาดนะ ถ้าเจ๊กินยาหมดหม้อเมื่อไหร่นะ เจ๊ต้องเอาหม้อดินใบนั้นไปถ่วงน้ำทันที เข้าใจป่ะ.." เฮียสืบเริ่มฉายแววเจ้าเล่ห์ออกมาแระ อิอิ
".. อ้าว ทำไมต้องเอาไปถ่วงน้ำด้วยละ ไม่เข้าใจซิ.." เจเจ๊พาซื่อตามเฮียสืบ 55555
".. อ๊าวววว..เจ๊จะเก็บหม้อดินของแม่นาคทำไม อ่ะ ก็ไปยืมเขามาเป็นหม้อยา กินเสร็จแล้วก็ต้องคืนเจ้าของซิเจ๊ 55555555555.."
เฮียสืบระเบิดเสียงหัวเราะก้องด้วยความสะใจ ที่ สามารถแกล้งเจ๊มัสของเราได้สำเร็จ หมวยเล็กก็พลอยขำไปด้วย ก๊ากกกกก
..... หวืออออออออออ...โพล๊ะ...ตุ๊บ..เสียงวัตถุบางอย่างลอยผ่านศรีษะเฮียสืบกับหมวยเล็กไปอย่างเฉียดฉิว ไปกระทบฝาผนังก่อนที่จะตกลงบนพื้นในที่สุด
ส่วนที่ต้องบอกว่า เสียงอะไรนั่น ก็เพราะว่า ทั้งหมวยเล็กทั้งเฮียสืบ ต่างก็รู้กันแล้วว่าหากเฮียสืบพูดจบแล้ว ผลที่ตามมาจะเป็นเช่นไร 555555
ราสองพี่น้องต่างพร้อมใจกันหลบสิ่งแปลกปลอมในมือเจเจ๊ ไม่มองว่าอะไรหรอกคะ ขอหมอบก่อน กลัวโดนลูกหลง 555555
พวกเราก็รู้ว่า เจเจ๊กลัวเข็มจนฝังใจเพราะสมัยเด็กๆนั้น โดนเพื่อนเกเรแกล้ง เข้ามาก็ถามว่า ..เธอๆ ไหนดูแขนเธอซิ นิ่มป่ะ พี่มัสเราก็พาซื่อคะ ตอบว่า นิ่ม อะ ลองจับดูดิ ..ไอ้คนเกเร ไม่จับเฉยๆซิคะ เอาเข็มมาจิ้มซะ เนื้อปูดออกมาเลยค่ะ เจ
เจ๊ตกใจจนเป็นลม พอฟื้นขึ้นมาร้องหา โอเลี้ยง 5555 เจเจ๊อยากกินโอเลี้ยงอ่ะหมวยเล็ก ขำกันทั้งบ้านคะ อิอิ
อ่ะๆ มาฟังกันต่อคะ อิอิ
หลังจากปลายปีที่แล้วเจเจ๊มีอาการแบบเดิมอีก คือ มีอาการปวดท้อง จุก เสียด กินอะไรนิดหน่อย ก็จุก คับแน่น ท้องอืด เหมือนมีลมดันในกระเพาะ เอ ..แต่ลมจะดันช่วงไหนไม่รุ้ด้วยนะ คำว่า ลมดัน พอเฮียกะหมวยถามทีไร เจเจ๊แกเขิน ดึงผมบนหนังศรีษะร่วงเป็นกระจุก(เขินจัด)
หลังจากที่เฮียสืบกับหมวยเล็กลาก(คอ)เจเจ๊ไปหาหมอให้ชันสูตร เอ๊ย ไปให้หมอวินิจฉัยโรค ผลการวินิจฉัยของหมอครั้งแรก ท่านฟันธงมาว่า..
".. คุณมัสลิน นั้น มีอาการของถุงน้ำดีอักเสบ ต้องเข้ารับการผ่าตัดโดยด่วน.."
"..ห๋า..ผ่าตัดเหรอคะ.." เจ๊มัสลิน หรือเจเจ๊ของพวกเรา โวยวายลั่นพร้อมกับนับนิ้วมือ ไม่พอคะ แถมยังยกเท้ามาช่วยนับ
".. เจ๊ ทำไร ผมให้ยืมนิ้วนับเอาป่ะ .." เฮียสืบคงรำคาญ
"..ก็ถ้าเจ๊ผ่าตัด เจ๊ก็มีอาการไม่ครบ 32 ประการน่ะซิ ไม่นะ ไม่ผ่า ฮือๆๆๆ.."
..โถ..ทำไปได้ นับนิ้วเพื่อนับว่า กลัวไม่ครบ 32 ประการ....
..ปู๊ดดดดดดดด... สงสัยเจ๊ร้องไห้เยอะไปหน่อย ความดันลมเริ่มทำงานอีกแระ อิอิ ตัวใครตัวมันล่ะคะ กิ๊วๆๆ
....... แต่สุดท้าย ด้วยความที่ห่วงลุกน้อง ห่วงลิงน้องๆสองตัว อิอิ ห่วงภาระกิจที่ต้องรับผิดชอบหลายอย่าง ทำให้เจเจ๊ตัดสินใจเข้าพบหมออีกครั้งในวันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมานี่เอง (หลังจากน้องสาว หมวยเล็ก ขึ้นเขียงเตียงผ่าตัดไปแล้วเมื่อปลายปีนี้ พอมาต้นปี เจเจ๊ก็เอากะเขามั่ง อิอิ )
เสาร์ที่ 1 มี.ค.51....
เจเจ๊ ตัดสินใจขอพบคุณหมอเพื่อให้หมอทำการวินิจฉัยโรคให้ละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ขอแบบละเอียดสุด หมอที่เก่งที่สุด ได้ระดมมาเพื่อทำการวินิจฉัยอาการของเจเจ๊โดยเฉพาะ
ท่านศาสตรดาจารย์มาเองคะ เครื่องมือที่ดีที่สุด ทันสมัยที่สุดได้เตรียมพร้อมเพื่อการนี้เพื่อนำมาใช้กับเจเจ๊ รวมทั้งห้องรับรองผู้ป่วยคืนละสองหมื่นนั่นแหละคะ อย่างที่บอกกล่าวตอนแรก เป็นห้องพักผู้ป่วยที่มีห้องรับรองแขก ห้องรับแขก ห้องน้ำ ห้องครัว ห้องอบซาวน์น่าด้วย
เฮ้อ..เยอะแยะไปหมด หมวยเล็กถึงบอกไงว่า ถ้ามีวาสนาได้นอนห้องแบบนี้ ถึงตายก็นอนตายตาเหลือก เอ๊ย ตาหลับแระ อิอิ
ตอนเช้า หลังจากที่เฮียสืบกะหมวยเล็กส่งเจเจ๊เข้าโรงพยาบาลแล้ว ทั้งหมอทั้งพยาบาลช่วยกันควานหาเส้นเลือด เพื่อฉีดเข็มให้น้ำเกลือ แต่คงเป็นเพราะเจเจ๊ตื่นเต้น เลยทำให้ระบบการทำงานของเส้นเลือดผิดปกติ ทำให้เส้นเลือดตีบตัน เจ๊คงตื่นเต้นจนเป็นลม
ส่วนอาการปวดท้องยิ่งปวดหนักขึ้นเรื่อยๆ แต่เจเจ๊ก็ทนไม่ยอมฉีดยา ไม่ยอมรับมอน์ฟีนจากหมอ เพราะเจ๊รู้ว่า ยังไงซะความเจ็บปวดเหล่านี้ มอร์ฟีนก็คงต้านไม่อยุ่คะ คุณหมอเลยต้องให้ยาปฎิชีวนะแล้วรอดูอาการสักพัก
แต่ในระหว่างนั้น เจเจ๊ก็ยังต้องทำงาน ต้องดูแลลิงสองตัวคือ เฮียสืบกะหมวยเล็กด้วย สมแล้วที่หญิงเล็ก แต่เป็นหญิงเหล็กจริงๆ ใจของเจเจ๊แกร่งมากๆ ก็บอกแล้ว เครื่องยนต์คูโบต้า ยังอาย อิอิ
".. เฮียเป็นไร ทำหน้าเหมือนลิงโดนเหยียบหาง ." หมวยเล็กรู้ว่า เฮียคงกังวลเกี่ยวกับอาการป่วยของเจ๊คนเดียวของเฮีย พี่สาวเขานี่ เนอะ
"..เออ..ถ้าเฮียเป็นลิง แกก็เป็นลิงด้วย เพราะแกเป็นน้องชั้นว่ะ " ยังดีแฮะ เฮียไม่ทุกข์ ไม่ซึมเศร้าแระ ก็ด่าน้องนุ่งได้แล้วนี่นา สบายใจแระ
"..หมวยเล็กรู้น่ะ เฮียเป็นห่วงเจ๊ ใช่ป่าวละ แต่เฮียเชื่อดิ คนดีผีคุ้มครอง แหะ..แหะ.." หมวยเล็กชวนคุย อยากให้เฮียสบายใจ
"..เฮ้ยๆ เมื่อกี้ว่าไรนะ คนดีผีคุ้มครอง มีด้วยเหรอ เคยได้ยินแต่คนดี พระคุ้มครอง เฮ้อ.." เฮียส่ายหน้าด้วยความระอา แกมรำคาญ อิอิ
อังคาร ที่ 11 มี.ค......
พวกเราสองพี่น้องพาเจเจ๊ไปโรงพยาบาลแต่เช้า เพราะมีนัดกะคุณหมอไว้คะ ไปนอนรอเพื่อให้อาหารย่อยให้หมดทั้งวัน ไม่ต้องทำไรกันละ
หมอให้ดื่มน้ำที่ผสมยาระบายเป็นลิตรๆ (จำไม่ได้ว่ากี่ลิตรแระ)สรุป กินน้ำที่ผสมยาระบาย พร้อมทั้งกินยาถ่ายอีก 2-3เม็ด เพื่อทำการล้างท้อง
ตกดึกคืนนั้น เจเจ๊ก็ไม่ต้องหลับต้องนอนกันละคะ คลานเข้าออกห้องน้ำกันทั้งคืน ประมาณ 12 ครั้งมั้งคะ
ครั้งสุดท้าย คลานออกมาจากห้องน้ำ ผมเผ้ากระเซอะกระเซิงเหมือนผีบ้า หน้าซีด ปากซีด เหมือนแมวที่โดนรถเฉี่ยวข้างถนน เจเจ๊ พุดได้คำเดียว แย่แระ ทวารบาล(บาน) 555555
รุ่งเช้า หมอก็ให้ยานอนหลับอีก เพื่อส่องกล้อง พวกเราสองพี่น้องรอลุ้นตื่นเต้นๆว่า ส่องกล้องหรือส่องอะไรกันแน่หว๊า อิอิ
"..เฮียๆ หมอเขาจะนำคลิปฉาวของเจ่เจ๊ไปเผยแพร่ป่ะคะ " หมวยเล็กเริ่มปากดีแกแระ หุหุ
หมวยเล็กถามเสร็จก็วิ่งจู๊ดดดด ไปเข้าห้องน้ำยืนหัวเราะคนเดียว 55555
สุดท้าย คุณหมอระดับท่านศาสตราจารย์ออกมาพูดคุยอธิบายสาเหตุที่แน่ชัดแล้วว่า เกิดจากอะไร ..
สำไส้เป็นหลุมลึกประมาณ 1 เซ็นต์ ทำให้กากอาหารที่ไม่ย่อยก็เข้าไปอุดตันส่วนที่เป็นหลุม ไปตกค้างคาตรงหลุมนั้น ทำให้เกิดการอักเสบ เจ็บปวด
..ภาษาปะกิต หมอเรียกไร น๊า เอ่อ..คุณหมอเรียกว่า Diverticula หาใช่เกิดจากถุงน้ำดีอีกเสบไม่
อิอิ เจเจ๊เกือบซวย เกือบโดนตัดถุงน้ำดีแระพี่เรา
ส่วนสาเหตุที่คุณหมอชุดแรกวินิจฉัยโรคผิดพลาด เป็นเพราะว่า ลำไส้ของเจเจ๊ได้โค้งงอไปอยู่ในตำแหน่งเดียวกันกับถุงน้ำดี และเมื่อตรวจด้วยเครื่อง MRI ทำให้ทราบตำแหน่งนั้น คิดกันว่า เกิดจากถุงน้ำดี ซึ่งคุณหมอบอกว่า หากผ่าต้ดเอาถุงน้ำดีออกไปแล้ว ก็ต้องนำลำไส้มาไว้ข้างนอกเพื่อให้ลำไส้ได้ทำงานแม้ไม่สมบุรณ์เหมือนเดิมก็ตาม
คิดดูซิคะ ว่า เวลาไปนั่งทาน KFCในห้าง เดินหิ้วลำไส้ไปด้วย ทำไงกัน ผู้คนคงแตกตื่น 55555
แต่เจเจ๊โชคดี ที่ได้เจอหมอเก่งๆค่ะ ระดับศาสตราจารย์ เครื่องมือก็ทันสมัย
เฮ้อออ..เกือบซวยไหมล่ะเจเจ๊
สุดท้ายเจเจ๊เลือกรักษาด้วยวิธีการกินยาคะ ดีนะคะที่ไม่ยอมให้หมอผ่าตัดถุงน้ำดี เจเจ๊ต้องกินยาสม่ำเสมอ พอจะทุเลาได้ อาจไม่หายขาด แต่เจเจ๊ก็มีความสุขในชีวิต ใช้ชีวิตได้ตามปกติสุข ยังออกเดินทางไปท่องโลกภายนอกได้อีกนานคะเจเจ๊
เจเจ๊ได้มีกำลังใจที่ดี สุขภาพจิตดี ก็ไม่เป็นปัญหา
เฮ้อออออ....
นิทาน เรื่องนี้ สอนให้รุ้ว่า คำวินิจฉัยครั้งแรกผิดพลาดกันได้
เอาน่ะ ผิดครั้งแรก ถือว่า เป็นครู
ผิดครั้งที่สอง เป็นอาจารย์
ผิด่ครั้งที่สามเป็น ท่านผอ.
ผิดครั้งที่สี่ ไล่ออกไปเป็นภารโรง เลยดีกว่า อิอิ
..................................................
T H E E N D