13 ตุลาคม 2550 01:37 น.
ฉางน้อย
17 ก.ย.50.....
ยัยวาได้เข้ารับการผ่าตัดสำคัญครั้งแรกในชีวิต
เป็นการผ่าตัดด้านจักษุ ก็แปลว่า ผ่าเกี่ยวกะดวงตานั่นแหละน่ะ
ผ่าเสร็จ พี่หมอ หรือ อาหมอไม่รู้แหละ บอกว่า ห้ามใช้สายตา ให้พักผ่อนสายตาเลย ห้ามอ่านหนังสือ
อย่าเพิ่งทำงาน และ ห้ามเล่นเน๊ต
ข้อห้ามอื่นๆยัยวายอมรับได้ ชอบซะด้วยซิ แต่ข้อห้ามสุดท้ายนี่ซิ ยากเกินทำใจยอมรับได้ 55555
ช่วงนี้ได้แต่นอนแกร่วในห้อง ไม่ได้ทำไรเลย
เหงาๆ หงอยๆ ไม่มีเพื่อนคุย ไม่มีใครโทรหา ได้แต่คิดถึงใครบางคน(ที่เขาอาจไม่คิดถึงเรา)
เฮ้อออออ.. คิดแล้วเศร้า ยัยวาเอ๋ย สงสารใจตัวเองจัง อิอิ
เฮ้อออ..ทำไงดีเนี่ยะ การ์ดอวยพรวันเกิดของใครบางคน ของคนนั้นยังไม่ได้ส่งให้ถึงมือเขาด้วยซิ
19 ก.ย. 50.....
อ่ะๆ จำได้ๆเสมอๆว่า วันนี้เป็นวันสำคัญของใครคนหนึ่ง
วันนี้เป็นวันเกิดของใครคนนั้น คนที่อยู่ในใจยัยวาเสมอมา
เขาอาจเป็นคนพิเศษของใครอีกหลายคน แม้ยัยวาไม่ใช่คนพิเศษของเขา แต่ยัยวาเองก็หวังเพียงว่า
ขอให้เขามีสุขภาพร่างกาย ที่แข็งแรง ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ
ไม่อยากให้เขากินเหล้า กินเบียร์เยอะ อยากให้เขารักษาสุขภาพตัวเองบ้าง อย่าห่วงคนอื่นมากนัก
ขอให้เขาสุขใจ แม้ว่าเขาอาจไม่คิดถึงเรา
แต่การที่เราคิดถึงเขาก็สบายใจแล้วมิใช่หรือ (อิอิ ปลอบใจตัวเองแหละ เนอะๆ )
.... ค่ำคืน 19 ก.ย. เวลา 21.30 น. ยัยวาทนไม่ไหวแล้ววุ้ยค่ะ
แอบเปิดเน๊ต เอาน่ะ แค่นิดเดียวเอง เดี๋ยวก็ปิดแล้วนี่นา
เจ้าพระคุ๊นน ขออย่าให้พี่สาวมาเคาะประตูห้องนอนตอนนี้เลยน่ะ
กลัวโดนด่าดิคะ อะไรกัน ตายังไม่ทันหายดี แต่ยายแอบเปิดเน๊ตเล่นอีกแล้ว 5555
ว่าแล้วเชียว เจออีเมล์ของใครคนนั้นพอดี อีเมล์ของคนที่ยัยวากำลังคิดถึง
อ่านอีเมล์ไปก็(แอบ)อมยิ้มไป สาระสำคัญตรงที่ว่า..
.
" วันที่ 19 - 22 ก.ย.นี้ พี่ไม่อยู่บ้านนะ ไป กทม.กลับถึงเย็นวันเสาร์แหละ ค่อยคุยกันนะ"
นี่ไง อีเมล์ของใครคนนั้น คนที่ฉัน หรือยัยวารอคอย
ลงท้ายอีเมล์แสนปลื้มใจว่า " ดูแลตัวเองให้ดีนะ "
เย้ๆๆ..ในที่สุดเขาก็ยังคิดถึงเรา คิดถึง เป็นห่วงยัยวา(มั้ง) อิอิ
ยัยวา ตัดสินใจโทรหาพี่เค้าที่ กทม. เอาไงฟ่ะ เป็นไงเป็นกัน 5555
(ทำยังกะตัดสินใจย้ายไป3จ.ชายแดนภาคใต้เลย เนอะ 5555)
........ " สวัสดีคะ ขอสายคุณ......ค่ะ "
" อ่อ.. ลุงไม่อยู่ค่ะ ออกไปทานข้าวนอกบ้านไม่ทราบคุณอะไรโทรมาคะ "
เสียงหลานสาวหวานจ๋อย อิอิ
" คะ ขอบคุณค่ะ ฝากบอกลุง.....ว่า ยัยวาโทรมาแล้วกันค่ะ "
ยัยวาวางสาย พลางคิด คนไรฟ่ะ ข้าวในบ้านมีกินไม่ได้ ต้องไปกินนอกบ้าน แหมๆ
เวลา 23.23 น. .....
กำลังอ่านหนังสือเพลินๆ เสียงมือถือร้องขึ้นมา อ่ะๆ ใครอีกว๊า โทรมาดึกๆ...
" ว่างายยยย... เป็นไงบ้าง สบายดีไหม ? "
เสียงปลายสายทางโน้นทักทายมา
เจ้ยยยยยยยย..ตกใจๆ แต่เสียงคุ้นหูมานานนี่นา จำได้ๆๆ
แต่ที่ตกใจ เพราะไม่คาดคิดว่า พี่จะโทรหายัยวานี่ 55555
..... พี่เค้าทักทาย ถามข่าวเรื่องการผ่าตัด ถามทุกข์สุข ต่างๆนานา
เราคุยกันจนกระทั่งเวลาล่วงเลย ตี 1 กว่าๆ เสียงแบตเตอร์รี่ร้องเตือนว่า แบตฯเริ่มอ่อนแล้ว
พี่เค้าบอกว่า งั้น ถ้าสายตัด ก็ไม่ต้องโทรหาพี่แล้วนะ ปล่อยให้ตัดไปเลยแล้วกัน
" ค่อยส่งการ์ดอวยพรย้อนหลังไปให้แล้วกันนะคะ " ยัยวารีบบอกกลัวสายตัดไปซะก่อน
" การที่เราได้พูดคุยกันในค่ำคืนนี้ถือว่าเป็นของขวัญที่วิเศษสุดสำหรับพี่แล้วล่ะ "
" ขอบคุณสำหรับของขวัญที่จับต้องไม่ได้ แต่มีคุณค่าในใจพี่มากมายนะ ขอบคุณจริงๆ
ขอบคุณที่กาลเวลาทำให้เราได้มาเจอกัน ให้เราได้มารู้จักกันในสิ่งที่ดีๆ "
ยัยวา อึ้งไปกับคำพูดของพี่คนนั้น พูดอะไรไม่ออก นอกจากคำว่า
" คิดถึงนะคะ ..รักษาสุขภาพด้วย..."
" จ้า... ว่าแต่ตัวเองเถอะ ดูแลตัวเองดีๆล่ะ คิดถึงนะ ..."
นี่ไง คำนี้อีกแล้ว หลงยิ้มชื่นใจอยู่คนเดียวอีกแล้วยัยวาเอ๋ย อิอิ
..... สายตัดทิ้งไปนานแล้ว แต่ยัยวายังกำโทรศัพท์แนบอก
คล้ายจะให้คำพูดทุกถ้อยคำของเขาซึมซาบไปในหัวใจของเธอ....
อย่างน้อย เขาก็คงรับรู้ความคิดถึงของยัยวาบ้างล่ะ
อย่างน้อย เขาก็คงคิดถึงยัยวาบ้างล่ะ (ยัยวาแอบเข้าข้างตัวเองอีกแล้วน๊า)
ใครบอกว่า คืนเหงา เศร้าใจล่ะ แต่ยัยวานี่ไง แม้ค่ำคืนนี้จะเหงา แต่บอกแล้วไงคะ อุ่นใจ ในความเหงา
ขอบคุณๆ ขอบคุณที่คิดถึงกัน ขอบคุณที่ห่วงใยกันค่ะ
.................................
( ฉางน้อย ทะเลไร้คลื่น
9 ตุลาคม 2550 23:04 น.
ฉางน้อย
เรื่องมันมีอยู่ว่า ขณะที่พิกเล็ทเดินตามหมีพูห์ไปต้อย ๆ
รอยเท้าคู่เล็ก ๆ ย่ำไปบนหิมะ เคียงข้างกับรอยเท้าของพูห์ไปตลอดทาง
เป็นความอบอุ่นในหัวใจที่ทั้งสองทิ้งเอาไว้เบื้องหลัง
ทั้งคู่คงเดินมาด้วยกันนานพอสมควร และคงไม่ได้คุยอะไรกันเลย
พิกเล็ทเลยต้อง"ขอเสียง"ด้วยการเรียก "พูห์"
เมื่อพูห์ขานรับและถามกลับว่า "มีอะไรหรือพิกเล็ท"
พิกเล็ทกลับเกาะมือพูห์ไว้ ก่อนตอบว่า
"เปล่า ไม่มีอะไร แค่อยากมั่นใจว่าเราเดินมาด้วยกันเท่านั้นเอง"
ภาพนี้ ถ้อยสนทนานี้ เรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง
สังเกตไหมว่าพูห์เดินนำหน้า
ควรเป็นพูห์หรือเปล่าที่น่าจะเป็นฝ่าย"ขอเสียง"พิกเล็ท ว่ายังเดินตามตัวเองมาหรือไม่
นั่นหมายถึงว่า เป็นความกังวลในใจพิกเล็ทเอง
ที่เกรงว่าพูห์จะลืมเพื่อนตัวเล็กๆอย่างเขา
ในชีวิตเราทุกคนคงเคยผ่านพบมิตรภาพแสนดี
แต่มีกี่คนที่รักษามันเอาไว้ได้คงมั่นไม่หวั่นไหว
วันคืนแห่งชีวิตกลืนกินและฉุดดึงเรารุดไป
หันกลับมามองข้างหลังอีกทีอาจจะเศร้าใจ
หากพบว่าคนที่เราไว้ใจ ไม่มีใครเดินตามเรามาอีกแล้ว
....ไม่อยากเดินข้างหน้าเพราะเกรงว่าฉันจะลืมเธอ
ไม่อยากตามหลังเช่นกัน กลัวตามไม่ทัน
กลัวเธอทำฉันหล่นหาย อยากให้เราเดินเคียงกันไป
อยากอุ่นใจมั่นใจ ว่าตลอดการเดินทางชีวิตอันยาวไกล
เรายังมีกันและกันไปตลอดทาง เราจะเดินไปด้วยกันตลอดกาล....
################
.......อ่านแล้ว มีความรู้สึกที่ดีๆเกิดขึ้นอีกเยอะคะ
อยากมีเพื่อนแบบนี้เยอะๆๆๆๆ