15 กุมภาพันธ์ 2551 22:10 น.

:+:.ขึ้นเขียง เตียงผ่าตัด.:+:

ฉางน้อย

   เช้าวันจันทร์ ที่ 17 ก.ย. 50 มีนัดกับคุณหมอที่ รพ.ศิริราชตอนเวลา  08.30น. ฉางน้อยก็เตรียมตัวไปยื่นบัตรคิวแต่เช้าตรู่ พี่สาวแกล้งแซวว่า แหมๆ รีบไปโห่ก่อนไก่ เอ๊ย รีบไปก่อนไก่โห่ซะอีกนะ ( ก็คนเค้าตื่นเต้นนี่นา ทำไงได้ นิ อิอิ )

ณ.ตึกสยามมินทร์ ชั้น3 แผนกจักษุ เวลา 06.30 น. ก็ไปนั่งรอเจ้าหน้าที่หน้าเคาร์เตอร์ อ่ะๆ ยังมีคนไปก่อนฉางน้อยอีกแน่ะ 
     
07.00 น.  เจ้าหน้าที่เริ่มมานั่งประจำหน้าเคาร์เตอร์ เขาบอกว่า รอเวลาคุณหมอขึ้นตรวจ ( ส่วนฉางน้อยรอเวลาขึ้นเขียง อิอิ หวาดเสียว วุ้ยค่ะ อิอิ )

 09.30 น. เจ้าหน้าที่คนเดิมก็เรียกผู้ผ่าตัดทุกคนเซ็นชื่อ แต่บังเอิญว่าคุณหมอที่ผ่าตัดฉางน้อยนั้น ติดคนไข้กรณีพิเศษ ประสบอุบัติเหตุเลยต้องรีบผ่าตัดผู้ป่วยท่านนั้นก่อน 

 ส่วนฉางน้อยเลยไปเดินเล่น นั่งเล่นที่ชั้นล่างก่อน ทานข้าว แล้วขึ้นมานั่งรอที่ชั้น 3 ต่อ

13.00 น.  เอาล่ะวุ้ย เจ้าหน้าที่หน้าเคาร์เตอร์เรียกให้เปลี่ยนเสื้อผ้า รอขึ้นเขียง เอ๊ย ขึ้นเตียงผ่าตัดแระ อิอิ

     ก็เข้าห้องผ่าตัดเป็นชุดผู้ป่วยของรพ.ศิริราช แหมๆ เท่ชะมัด อิอิ

ห๊า..อะไรนะคะ ต้องถอดชุดชั้นในด้วยเหรอคะ ?

แหมๆ..พี่ขา ไม่ต้องถอดก็ได้มังคะ ? ฉางน้อยพยายามยิ้มต่อรองกะพี่พยาบาลคนสวย อิอิ

น้องคะ ลิงตัวล่างไม่ต้องถอดคะ แต่ชะนีตัวที่โหนข้างบนต้องถอดออกค่ะ (อ่ะๆ อะไรหว่า ลิงกะชะนี เพิ่งรู้ว่า ที่นี่ เป็นเขตอนุรักษ์พันธ์สัตว์ป่าด้วยเหรอเนี่ยะ งง น๊า )

 พี่พยาบาลคนสวยอธิบายต่อไปว่า ..เสื้อชั้นในต้องถอดออกเพราะว่า เสื้อชั้นในมักมีโลหะด้วย ตามตะขอหรือส่วนต่างๆของเสื้อ เวลาคุณหมอจี้ด้วยเครื่องไฟฟ้า กระแสไฟอาจวิ่งผ่านโลหะเข้าสู่ร่างกายได้นะคะ

     อ่อ... เพิ่งทราบความหมายของคำว่า ลิงกะชะนีแระ อิอิ หลงคิดว่า ที่รพ.นี้เป็นเขตอนุรักษ์พันธ์สัตว์ป่าซะอีกแน่ะเรา อิอิ 


     เจ้าหน้าที่พยาบาล ก็นำแฟ้มประวัติมาพูดคุย ซักถามกับฉางน้อย ครั้นจะปล่อยให้เขาถามเราฝ่ายเดียวก็กระไรอยู่ เนอะ ว่าไหม ฉางน้อยเลยถามพี่พยาบาลให้หายข้องใจว่า ..


     ".. เอ่อ .พี่คะ หมอที่ผ่าตัดใช้เวลานานไหมคะ ? "

     ".. อ่อ ไม่นานหรอกค่ะน้อง "

     ".. เอ่อ  พี่คะ หมอฉีดยาชา เจ็บไหมคะ ? "

     ".. อ่อ คงไม่เจ็บหรอกคะ แค่มดกัด "

ฉางน้อยอ้าปากจะถามต่อ   .. เอ่อ   พี่คะ .........

พยาบาลหันมามองตาเขียวปั๊ด ประมาณว่า  stop you mouth please

หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ หยุดถามได้ไหม ชั้นรำคาญ ไป๊..ขึ้นเขียง เอ๊ย ขึ้นเตียงผ่าตัด


โอ..พระเจ้าช่วยกล้วยตาก  ไหนลองหยิกตัวเองดิ อุ้ย เจ็บดิ 

(แล้วแต่ใครจะอุทานกล้วยทอด กล้วยตาก หรือ กล้วยปิ้งแล้วแต่ศรัทธา อิอิ ) โอ ..ฉางน้อยไม่ได้ฝันไปใช่ไหมเนี่ย เคยเห็นแค่ในหนัง ในละคร ไม่คิดว่าเราจะมีวันนี้กะเขาด้วยนี่นา 

   วันที่ฉางน้อยต้องขึ้นเขียง เตียงผ่าตัด แงงงงงงง.....เริ่มกลัวนิดๆ

  แหมๆ แค่แผลผ่าตัดที่ตานิดเดียวเองทำไมหมอพยาบาลเยอะแยะไปหมด ตั้ง 6 ท่านแน่ะ (นี่แค่ผ่าตานะ สงสัยถ้าผ่ายายคงเป็น20ล่ท่านะกะละมัง เอ๊ย ละกระมัง อิอิ )

 ฉางน้อยฝืนยิ้มทำใจดีสู้พี่พยาบาล ( แหม จะบอกว่าทำใจดีสู้เสือก็กระไร เนอะ ไม่มีเสือสักตัว มีแต่สาวพยาบาลคนสวย อิอิ )

  อ่ะ เอาอะไรมารัดข้อมือซ้ายด้วยอ่ะ ดูดิ เอาที่หนีบผ้ามาหนีบปลายนิ้วชี้เค้าอีกแน่ะ

อ๋อ..อันนี้เขาเรียกว่า เครื่องตรวจวัดความดันหัวใจคะ ไม่ต้องกลัวนะคะ...ยังกะสาวพยาบาลคนสวยรู้ความคิดของฉางน้อย เธอตอบซะเสร็จสรรพ อิอิ

 อ้าว แล้วไม ต้องเอาผ้ารัดข้อมือขวากับขอบเตียงด้วยล่ะ .....นั่นๆๆ ยังรัดข้อเท้าเค้าอีกอ่ะ เค้าเริ่มกลัวจริงๆแล้วน๊า 

 
 หมอคนที่ผ่าตัดมาแล้ว " ใจเย็นๆนะคะ อย่าเกร็งคะ ฉีดยาชาก่อนนะคะ 2 เข็ม "

 หมอพูดพลาง มือก็ดึงเปลือกตาล่างจิ้มเข็มแหลมๆลงไป

 ..อู๊ยยย...เจ็บนะเฟ้ย " ป่าวคะ ประโยคนี้ฉางน้อยคิดในใจต่างหาก ไม่กล้าคิดนอกใจให้คุณหมอได้ยิน กลัวหมอจะทุบเอาง่ายๆ อิอิ

 
สักพัก ยาชาคงเริ่มออกฤทธิ์ (แต่ไม่เกี่ยวกะคำว่า ศรีดวง อิอิ ) ฉางน้อยได้ยินเสียงหมอสั่งผู้ช่วยให้ช่วยหยิบเครื่องมือเครื่องไม้วุ่นวายไปหมด หูได้ยินหมดทุกอย่าง แต่มือ เท้าขยับไม่ได้เพราะโดนมัด (คงกลัวฉางน้อยจะเจ็บแล้วเผลอตัวกระโดดถีบหมอ อิอิ )

 แกร่กๆๆ..เสียงเครื่องมืออะไรสักอย่างขูดเนื้อในเปลือกตาล่าง เสียงหมอสั่งให้หยิบโน่นหยิบนี่มาอีก อ่ะน่ะ เป็นชื่อศัพท์เทคนิคทางการแพทย์ ฉางน้อยไม่ค่อยฉลาดด้วยดิคะ อิอิ 

 จี๊ดๆๆ..ครึ่กๆๆ... โห ทำไรอีกเนี่ยะ ได้กลิ่นเหม็นเหมือนเนื้อไหม้ๆ เนื้ออะไรสักอย่างที่โดนเผาไฟเลย .. อ่ะ เริ่มเจ็บนิดๆแล้วล่ะ

 " เจ็บไหมคะ ถ้าเจ็บบอกหมอนะ จะได้ฉีดยาชาเพิ่ม " เสียงคนใดคนหนึ่งถามขึ้น

   " เจ็บค่ะ "  ( แต่ไม่ได้เจ็บแผลที่หมอทำนะ กลัวเจ็บตอนหมอจะฉีดยาชาต่างหาก เลยบอกว่าเจ็บไว้ก่อน กลัวเข็มวุ้ย อิอิ )

  " ใจเย็นๆนะคะ รอให้หมอจี้ด้วยเครื่องจี้ไฟฟ้าสักแป๊บคะไม่นานค่ะ " 

 ( โห นี่ขนาด..จี้..ธรรมดานะเนี่ยะยังเจ็บซะขนาดนี้ ถ้า หมอ..ปล้น..จะเจ็บขนาดไหน เฮ้อออ.. ไปจนได้ยัยฉางน้อย 555 )

 โอย..เจ็บนะ (ได้แค่คิดในใจจริงๆ) พี่มัสขา หมอมังจะฆ่าน้องฉางผิงของพี่มัสแล้วค่ะ   เจ็บจัง เจ็บจริง แต่ขอบคุณพี่มัส ที่ช่วยเหลือเป็นกำลังใจมาตลอด

หู๊ย..เจ็บๆๆ...คุณลุ๊งๆๆ คุณลุงเจ้าขา หมอมังจะฆ่าหลานป่วนจังของคุณลุงแล้ว มาให้เห็นหน้าอีกสักครั้งดิ อิอิ ( ว่าไปนั่นยัยป่วนจังเอ๋ย อิอิ )

 นึกถึงอีเมล์ฉบับนั้นของคุณลุง มีกำลังใจเยอะ อิอิ อย่ามีจิตง่วนป่วนจัง ยิ้มได้แระ 5555

 รู้สึกว่า เริ่มมีเลือดไหลออกเยอะขึ้น เพราะรู้สึกว่า หมอซับให้บ่อยๆ เหมือนเป็นของเหลวไหลบริเวณเปลือกตาล่างด้วย เลือดแน่นอน 

  
นึกถึงคำพูดบางประโยคของพี่มัส พี่สาวใจดี ก็นึกอะไรขำๆ เลยเผลอหัวเราะออกมาด้วย  ผู้ช่วยหมอคงพากันแปลกใจอ่ะน่ะ ว่า ร้องครางโอยๆเมื่อกี้ แต่ตอนนี้ยิ้มออก หัวเราะได้แระ พวกเขาก็พากันหัวเราะ 

 ฉางน้อยเลยบอกว่า  " พอดีคิดอะไรขำๆน่ะค่ะ เลยหัวเราะเฉยๆ หนูไม่ได้บ้า อิอิ "

   " ทนเจ็บอีกนิดนะคะ เหลืออีกนิดเดียวแล้วค่ะ " 

 แกร่กๆๆ..โห อะไรกันอีกล่ะเนี่ยะ เสียงเหมือนเย็บถุงผ้าอะไรสักอย่าง 

 อ่อ ..หมอเขาเย็บเปลือกตาล่างต่างหาก 

   "  ไปเล่นซนอะไรมาล่ะค่ะ ถึงมานอนให้หมอผ่า ? "เสียงหมอชวนคุย

  " ไม่บอก..บอกก็กลัวดิ .."  ฉางน้อยคิดในอีก(อีกแล้ว) ก็เค้ายัง งอน หมอนี่งอนหมอต่างหาก ทำเค้าแรงๆแล้วมาทำเป็นพูดดีกะเค้าอีกนี่

  " เอาล่ะค่ะ ใกล้เสร็จแล้ว เดี๋ยวหมอปิดตาด้วยผ้าก๊อซหนาๆให้นะคะ "

  "  เย้...ไชโย..เสร็จซะอีก รอดตายแล้ววุ้ย เรา ฉางน้อย อิอิ "

   ผลการผ่าตัดเสร็จสิ้น หมอก็เข็นเตียงมาให้ฉางน้อยนอนด้วยแหละ ดีๆ โส นะ หน้า นอนเล่นให้หมอเข็นซะให้เข็ด อยากทำเราเจ็บนี่ อิอิ

ที่ไหนได้ เพิ่งรู้ทีหลัง หมอเขากลัวฉางน้อยไม่จ่ายค่าผ่าตัดต่างหาก ตั้ง 8,000กว่าบาทแน่ะ หมอก็เลยไม่ให้ฉางน้อยเปลี่ยนชุดคนไข้มาเป็นชุดของเราเอง 55555

 
 ขอบคุณ..พี่มัส พี่สาวที่ใจดี ขอบคุณสำหรับกำลังใจดีๆเสมอมา ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง อะแฮ่มๆๆๆ... อิอิ

   ขอบคุณ..คุณลุงเจ้าของอีเมล์ อย่ามีจิตง่วนป่วนจัง อิอิ  ขอบคุณที่บอกว่า แม้ไม่ได้มาเยี่ยมด้วยตัวเอง แต่ฝากฟ้ามาเยี่ยมแทนแล้วกันนะ จะยังไงก็แล้วแต่ สาวน้อยป่วนจังของคุณลุงก็ขอบคุณมากๆค่ะ

   ขอบคุณ..คุณลุงใจดีอีกท่าน ที่บอกว่าจะไปรับไปส่ง แต่บังเอิญธุระด่วน (ติดกิ๊ก 55555 ) แต่ขอบคุณที่ยังโทรหากันตลอดของวันผ่าตัด

  ขอบคุณ..พี่หนึ่งที่ให้กำลังใจ โทรหาน้องสาวคนนี้หลายครั้ง

  ขอบคุณ..เพื่อนๆพี่ๆน้องๆลุงๆป้าๆน้าๆอาๆ ในบ้านกลอนไทยแห่งนี้ ที่ทักทายฉางน้อย ขอบคุณญาติสนิทมิตรสลาย เอ๊ย มิตรสหาย อิอิ ขอบคุณๆๆๆๆค่ะ

 
    ...................................

      ( ฉางน้อย ทะเลไร้คลื่น )


52.swf				
15 ธันวาคม 2550 00:48 น.

:+:.. มีไหมใครสักคน ?..:+:

ฉางน้อย

มีไหมใครสักคน?...เคียงข้างกายยามเหนื่อยล้า

มีไหมใครสักคน?...จับมือเดินไปด้วยกันยามที่ท้อแท้

มีไหมใครสักคน?...ไว้คอยปลอบโยนยามที่อ่อนแอ

มีไหมใครสักคน?...คอยเช็ดน้ำตายามที่พ่ายแพ้

มีไหมใครสักคน?...เกี่ยวก้อยริมหาดยามเช้าด้วยกัน

มีไหมใครสักคน?...นั่งแอบอิงพิงหลังฟังเสียงคลื่นด้วยกันในยามสาย

มีไหมใครสักคน?...ไว้นอนหนุนตักพักเหนื่อย นอนนับเดือนนับดาวด้วยกันในยามดึกของค่ำคืนหนึ่งๆ

... คิดนะ ฉันเคยคิด

... หวังนะ ฉันเคยหวัง

... ฝันนะ ฉันเคยฝัน

    ....แต่สุดท้าย ได้แค่คิด ...ได้แค่หวัง...ได้แค่ฝัน

แค่นี้  ก็สุขใจแล้วสำหรับคนที่ชอบเพ้อฝันอย่างฉัน

สุขที่ได้คิด ...สุขที่ได้หวัง...สุขที่ได้ฝัน

แม้รู้ว่า ... ไม่มีวันเป็นจริงได้...


...คงไม่ผิดที่จะคิด

คงไม่ผิดที่จะฝัน

ขอเพียงมีความจริงใจให้กัน

เพียงแค่นั้นก็สุขใจ...

          :+:+:+:+:+:+				
13 ตุลาคม 2550 01:37 น.

.. อุ่นใจ..ในคืนเหงา..

ฉางน้อย

          17 ก.ย.50.....

ยัยวาได้เข้ารับการผ่าตัดสำคัญครั้งแรกในชีวิต

เป็นการผ่าตัดด้านจักษุ ก็แปลว่า ผ่าเกี่ยวกะดวงตานั่นแหละน่ะ

ผ่าเสร็จ พี่หมอ หรือ อาหมอไม่รู้แหละ บอกว่า ห้ามใช้สายตา ให้พักผ่อนสายตาเลย ห้ามอ่านหนังสือ 
อย่าเพิ่งทำงาน และ ห้ามเล่นเน๊ต 

ข้อห้ามอื่นๆยัยวายอมรับได้ ชอบซะด้วยซิ แต่ข้อห้ามสุดท้ายนี่ซิ ยากเกินทำใจยอมรับได้ 55555

ช่วงนี้ได้แต่นอนแกร่วในห้อง ไม่ได้ทำไรเลย

เหงาๆ หงอยๆ ไม่มีเพื่อนคุย ไม่มีใครโทรหา ได้แต่คิดถึงใครบางคน(ที่เขาอาจไม่คิดถึงเรา) 

เฮ้อออออ.. คิดแล้วเศร้า ยัยวาเอ๋ย สงสารใจตัวเองจัง อิอิ

เฮ้อออ..ทำไงดีเนี่ยะ การ์ดอวยพรวันเกิดของใครบางคน ของคนนั้นยังไม่ได้ส่งให้ถึงมือเขาด้วยซิ


19 ก.ย. 50.....

อ่ะๆ จำได้ๆเสมอๆว่า วันนี้เป็นวันสำคัญของใครคนหนึ่ง

วันนี้เป็นวันเกิดของใครคนนั้น คนที่อยู่ในใจยัยวาเสมอมา 

เขาอาจเป็นคนพิเศษของใครอีกหลายคน แม้ยัยวาไม่ใช่คนพิเศษของเขา แต่ยัยวาเองก็หวังเพียงว่า

ขอให้เขามีสุขภาพร่างกาย ที่แข็งแรง ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ

ไม่อยากให้เขากินเหล้า กินเบียร์เยอะ อยากให้เขารักษาสุขภาพตัวเองบ้าง อย่าห่วงคนอื่นมากนัก 

ขอให้เขาสุขใจ แม้ว่าเขาอาจไม่คิดถึงเรา

แต่การที่เราคิดถึงเขาก็สบายใจแล้วมิใช่หรือ (อิอิ ปลอบใจตัวเองแหละ เนอะๆ )


.... ค่ำคืน 19 ก.ย. เวลา 21.30 น. ยัยวาทนไม่ไหวแล้ววุ้ยค่ะ 

แอบเปิดเน๊ต เอาน่ะ แค่นิดเดียวเอง เดี๋ยวก็ปิดแล้วนี่นา

เจ้าพระคุ๊นน ขออย่าให้พี่สาวมาเคาะประตูห้องนอนตอนนี้เลยน่ะ 

กลัวโดนด่าดิคะ อะไรกัน ตายังไม่ทันหายดี แต่ยายแอบเปิดเน๊ตเล่นอีกแล้ว 5555

               ว่าแล้วเชียว เจออีเมล์ของใครคนนั้นพอดี อีเมล์ของคนที่ยัยวากำลังคิดถึง

อ่านอีเมล์ไปก็(แอบ)อมยิ้มไป สาระสำคัญตรงที่ว่า..
.

        " วันที่ 19 - 22 ก.ย.นี้ พี่ไม่อยู่บ้านนะ ไป กทม.กลับถึงเย็นวันเสาร์แหละ ค่อยคุยกันนะ"

นี่ไง อีเมล์ของใครคนนั้น คนที่ฉัน หรือยัยวารอคอย

ลงท้ายอีเมล์แสนปลื้มใจว่า " ดูแลตัวเองให้ดีนะ "


เย้ๆๆ..ในที่สุดเขาก็ยังคิดถึงเรา คิดถึง เป็นห่วงยัยวา(มั้ง) อิอิ


ยัยวา ตัดสินใจโทรหาพี่เค้าที่ กทม. เอาไงฟ่ะ เป็นไงเป็นกัน 5555

(ทำยังกะตัดสินใจย้ายไป3จ.ชายแดนภาคใต้เลย เนอะ 5555)


........ " สวัสดีคะ ขอสายคุณ......ค่ะ "

" อ่อ.. ลุงไม่อยู่ค่ะ ออกไปทานข้าวนอกบ้านไม่ทราบคุณอะไรโทรมาคะ "

 เสียงหลานสาวหวานจ๋อย  อิอิ

" คะ ขอบคุณค่ะ ฝากบอกลุง.....ว่า ยัยวาโทรมาแล้วกันค่ะ "

ยัยวาวางสาย พลางคิด คนไรฟ่ะ ข้าวในบ้านมีกินไม่ได้ ต้องไปกินนอกบ้าน แหมๆ 


เวลา 23.23 น. .....

กำลังอ่านหนังสือเพลินๆ เสียงมือถือร้องขึ้นมา อ่ะๆ ใครอีกว๊า โทรมาดึกๆ...


" ว่างายยยย... เป็นไงบ้าง สบายดีไหม ? "

เสียงปลายสายทางโน้นทักทายมา 

เจ้ยยยยยยยย..ตกใจๆ แต่เสียงคุ้นหูมานานนี่นา จำได้ๆๆ

แต่ที่ตกใจ เพราะไม่คาดคิดว่า พี่จะโทรหายัยวานี่ 55555

..... พี่เค้าทักทาย ถามข่าวเรื่องการผ่าตัด ถามทุกข์สุข ต่างๆนานา

เราคุยกันจนกระทั่งเวลาล่วงเลย ตี 1 กว่าๆ เสียงแบตเตอร์รี่ร้องเตือนว่า แบตฯเริ่มอ่อนแล้ว

พี่เค้าบอกว่า งั้น ถ้าสายตัด ก็ไม่ต้องโทรหาพี่แล้วนะ ปล่อยให้ตัดไปเลยแล้วกัน


" ค่อยส่งการ์ดอวยพรย้อนหลังไปให้แล้วกันนะคะ " ยัยวารีบบอกกลัวสายตัดไปซะก่อน


" การที่เราได้พูดคุยกันในค่ำคืนนี้ถือว่าเป็นของขวัญที่วิเศษสุดสำหรับพี่แล้วล่ะ "

" ขอบคุณสำหรับของขวัญที่จับต้องไม่ได้ แต่มีคุณค่าในใจพี่มากมายนะ ขอบคุณจริงๆ
ขอบคุณที่กาลเวลาทำให้เราได้มาเจอกัน ให้เราได้มารู้จักกันในสิ่งที่ดีๆ "



ยัยวา อึ้งไปกับคำพูดของพี่คนนั้น พูดอะไรไม่ออก นอกจากคำว่า 

" คิดถึงนะคะ ..รักษาสุขภาพด้วย..."

" จ้า... ว่าแต่ตัวเองเถอะ  ดูแลตัวเองดีๆล่ะ คิดถึงนะ ..." 


นี่ไง คำนี้อีกแล้ว หลงยิ้มชื่นใจอยู่คนเดียวอีกแล้วยัยวาเอ๋ย อิอิ

..... สายตัดทิ้งไปนานแล้ว แต่ยัยวายังกำโทรศัพท์แนบอก

คล้ายจะให้คำพูดทุกถ้อยคำของเขาซึมซาบไปในหัวใจของเธอ....


อย่างน้อย เขาก็คงรับรู้ความคิดถึงของยัยวาบ้างล่ะ 

อย่างน้อย เขาก็คงคิดถึงยัยวาบ้างล่ะ (ยัยวาแอบเข้าข้างตัวเองอีกแล้วน๊า)


ใครบอกว่า คืนเหงา เศร้าใจล่ะ แต่ยัยวานี่ไง แม้ค่ำคืนนี้จะเหงา แต่บอกแล้วไงคะ อุ่นใจ ในความเหงา 

ขอบคุณๆ ขอบคุณที่คิดถึงกัน ขอบคุณที่ห่วงใยกันค่ะ 

.................................

( ฉางน้อย ทะเลไร้คลื่น           				
9 ตุลาคม 2550 23:04 น.

๑๑๑...เราจะเดินไปด้วยกัน...๑๑๑

ฉางน้อย

                       เรื่องมันมีอยู่ว่า  ขณะที่พิกเล็ทเดินตามหมีพูห์ไปต้อย ๆ 

รอยเท้าคู่เล็ก ๆ ย่ำไปบนหิมะ เคียงข้างกับรอยเท้าของพูห์ไปตลอดทาง 

เป็นความอบอุ่นในหัวใจที่ทั้งสองทิ้งเอาไว้เบื้องหลัง 


       ทั้งคู่คงเดินมาด้วยกันนานพอสมควร และคงไม่ได้คุยอะไรกันเลย 

พิกเล็ทเลยต้อง"ขอเสียง"ด้วยการเรียก     "พูห์" 

เมื่อพูห์ขานรับและถามกลับว่า     "มีอะไรหรือพิกเล็ท" 

พิกเล็ทกลับเกาะมือพูห์ไว้ ก่อนตอบว่า 

"เปล่า ไม่มีอะไร แค่อยากมั่นใจว่าเราเดินมาด้วยกันเท่านั้นเอง" 


ภาพนี้ ถ้อยสนทนานี้ เรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง 


สังเกตไหมว่าพูห์เดินนำหน้า 

ควรเป็นพูห์หรือเปล่าที่น่าจะเป็นฝ่าย"ขอเสียง"พิกเล็ท ว่ายังเดินตามตัวเองมาหรือไม่ 

นั่นหมายถึงว่า เป็นความกังวลในใจพิกเล็ทเอง 

ที่เกรงว่าพูห์จะลืมเพื่อนตัวเล็กๆอย่างเขา 

ในชีวิตเราทุกคนคงเคยผ่านพบมิตรภาพแสนดี 

แต่มีกี่คนที่รักษามันเอาไว้ได้คงมั่นไม่หวั่นไหว 


วันคืนแห่งชีวิตกลืนกินและฉุดดึงเรารุดไป 

หันกลับมามองข้างหลังอีกทีอาจจะเศร้าใจ 

หากพบว่าคนที่เราไว้ใจ ไม่มีใครเดินตามเรามาอีกแล้ว 


....ไม่อยากเดินข้างหน้าเพราะเกรงว่าฉันจะลืมเธอ 

ไม่อยากตามหลังเช่นกัน กลัวตามไม่ทัน

 กลัวเธอทำฉันหล่นหาย อยากให้เราเดินเคียงกันไป 

อยากอุ่นใจมั่นใจ  ว่าตลอดการเดินทางชีวิตอันยาวไกล 

เรายังมีกันและกันไปตลอดทาง เราจะเดินไปด้วยกันตลอดกาล....

                
                      ################

.......อ่านแล้ว มีความรู้สึกที่ดีๆเกิดขึ้นอีกเยอะคะ

อยากมีเพื่อนแบบนี้เยอะๆๆๆๆ                                            				
29 กรกฎาคม 2550 23:51 น.

%%%...แอ๊บแบ๊ว...%%%

ฉางน้อย

    "แอ๊บแบ๊ว" เป็นอาการทางจ(ริ)ตชนิดหนึ่ง
มักเกิดขึ้นในเพศหญิงช่วงแรกสาวเป็นต้นไป

แต่เดี๋ยวนี้เริ่มลุกลามในผู้ชาย กะเทย และเพศใกล้เคียงด้วย

โรคนี้จะมีอาการควบคู่ไปกับภาวะแทรกซ้อนที่แสดงออกทางอวัยวะต่างๆของร่างกาย ดังนี้                                                 				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟฉางน้อย
Lovings  ฉางน้อย เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟฉางน้อย
Lovings  ฉางน้อย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟฉางน้อย
Lovings  ฉางน้อย เลิฟ 1 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงฉางน้อย