19 กรกฎาคม 2547 05:42 น.
ฉันเอง
ฉันรักการอ่านหนังสือเป็นชีวิตจิตใจเพราะว่ามันคืออาหารสมองของฉัน
มันทำให้รู้เรื่องอีกมากมายที่เกิดขึ้นในชีวิตจริงแต่ฉันไม่เคยรู้เลยว่ามันมีอย่างนี้ด้วยหรือ
หนังสือที่ฉันอ่านนั้นไม่ใช่นิยาย ไม่ใช่ว่ารังเกียจหรือดัดจริต ก็ความชอบของคนเรามันไม่เหมือนกัน
ฉันชอบอ่านสารคดี หนังสือประวัติของคนที่เขาประสพความสำเร็จในชีวิต แต่ฉันได้อ่านมันไม่มาก
เพราะว่าหนังสือแต่ละเล่มค่อนข้างแพงสำหรับคนระดับฉัน ซึ่งไม่มีรายได้มากมายอะไร
ฉันไปบ้านเพื่อนและฉันก็เก็บหนังสือที่เขาทิ้งไว้ขึ้นมาอ่าน มันคือหนังสือสรรสาระ
ยิ่งอ่านไปฉันวางหนังสือไม่ลงเลยเพราะว่ามันดีมากเลยนะ เสียดายที่เจ้าของเขาไม่รู้คุณค่าของมัน
ฉันเก็บมาได้หลายเล่มและฉันก็เก็บมาไว้จนถึงวันนี้ เวลาที่เดินไปเจอที่ร้านหนังสือมือสอง
ถ้ามันไม่แพงนักฉันพอจะซื้อได้ ฉันก็ซื้อเอามันมา แม้แต่หนังสือขายหัวเราะฉันยังเก็บเอาไว้เลย
มันทำให้ฉันยิ้มหรือหัวเราะได้ มันทำให้จิตใจเราเบิกบานมากขึ้น ฉันเก็บอะไรหลายอย่าง
หนังสือการตกแต่งบ้านที่แสนแพง ฉันก็ไม่ได้ซื้อ แต่ถ้าฉันเจอแบบบ้านที่ไหนสวยๆ
ฉันก็จะเอามาเก็บไว้ฉันมีความสุขที่ได้มองมัน มองดูแปลนบ้าน เนื้อที่ในการใช้สอยและแม้กระทั่ง
การโฆษณาพวกวัสดุก่อสร้างฉันก็ยังเก็บเอาไว้ เพื่อที่จะได้ดูว่ามันแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน
คุณสมบัติอย่างไหนที่ดีกว่าและทนทานกว่า แบบบ้านที่ฉันชอบอาจจะไม่ตรงกับคนอื่น
ฉันชอบบ้านที่เรียบๆ เน้นเนื้อที่การใช้สอย บางหลังแลดูสวยงามแต่ทว่าการใช้สอยมีน้อย
มันก็แล้วแต่ฐานะทางการเงินที่แต่ละคนจะเอื้อมอำนวย ว่าจะสร้างได้อย่างไร
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือความรักความอบอุ่น ถึงคุณจะมีบ้านใหญ่โตสักแค่ไหน แต่วันนึง ๆ
คุณไม่มีเวลาให้ครอบครัว ทำแต่งาน งานและงาน จนลืมที่จะคิดถึงคนที่อยู่บ้าน
คุณใช้เงินเลี้ยงลูกต้องการอะไรเอาเงินไปซื้อ คุณจะรับรู้บ้างไหมว่าเด็กเขาไม่ต้องการเงิน
แต่เขาต้องการความรักจากพ่อแม่ มีเวลาให้กับลูก จะได้ไม่เกิดช่องว่างระหว่างวัย
ถ้าคุณไม่หันมาสนใจลูกคุณในตอนนี้ คุณอาจจะเห็นลูกคุณอีกครั้งในข่าว ทีวี
หรือไม่ก็หนังสือพิมพ์ที่พาด ข่าวฮือฮา มันสมกันไหมกับสิ่งที่คุณทำมาตลอด
อย่างเลี้ยงลูกด้วยเงิน ใช้ความรักของคุณที่ไม่ต้องซื้อหาด้วยเงินตรา
ถึงแม้ว่างานชิ้นนั้นมันจะยิ่งใหญ่สำหรับคุณ แต่คุณต้องเวลาให้ลูกบ้าง
ถ้าคุณได้รับความสำเร็จในชีวิต แล้วลูกคุณต้องตกเป็นทาสยาเสพติด
คุณจะทำอย่างไร แบ่งเวลาให้ลูก มั่นโทรหากัน มีเวลาเมื่อไรทานข้าวร่วมกัน
เขามีปัญหาอะไรถามเขา ให้คำแนะนำเขา เขาจะได้รู้สึกว่าพ่อแม่ไม่ทอดทิ้งเขา
19 กรกฎาคม 2547 05:38 น.
ฉันเอง
มีเพื่อนรุ่นน้องของฉันเขาบอกว่าคนอย่างฉันไม่น่าที่จะเขียนอะไรได้เป็นเรื่องเลย
เพราะว่าบุคคลิกภายนอกของฉันนั้นมันต่างกับตัวหนังสือที่เขียนออกมาอย่างสิ้นเชิง
ฉันไม่รู้สึกว่ามันจะแปลกตรงไหน เพราะสิ่งที่เขียนนั้นมันวนเวียนอยู่ในสมองและ
รอบๆตัวฉัน มันจึงไม่ต้องมีพลอตเรื่องอะไร ฉันเขียนง่ายๆตามสไตล์ของฉัน
ฉันไม่ได้ไปลอกเรียนแบบใคร แต่ความคิดของคนเราบางครั้งมันก็ใกล้เคียงกันก็มี
บางคนก็คิดในเรื่องเดียวกัน แต่การเขียนออกมาอาจจะแตกต่างกันแล้วแต่มุมมอง
ฉันไม่ใช่นักประพันธ์มืออาชีพ ฉันจึงไม่ได้สนใจว่ามันจะต้องอย่างโน้นอย่างนี้
จะต้องเป็นไปตามวิชาการ หรือหลักการเขียนว่าจะต้องเริ่มต้นอย่างไร จบอย่างไร
สิ่งที่ฉันเขียนออกมาเพราะว่าฉันอยากเขียน ฉันมีความสุขเมื่อฉันได้เขียนมันออกมา
ถ้าให้ฉันไปหลอกคนอื่นเขาสำหรับฉันแล้ว มันยากยิ่งกว่าที่ฉันจะเขียนเองเสียอีกนะ
ฉันไม่เคยต้องร่างเรื่องหรืออะไรทั้งสิ้น ฉันนึกอะไรฉันก็เขียนออกไป ฉันชอบวิธีการอย่างนี้
การที่ฉันจะไปคุยกับคนอื่นที่เขามีความคิดไม่ตรงกัน หรือความสนใจเราแตกต่างกัน
บางครั้งก็จะเป็นความน่ารำคาญเสียมากกว่า ฉันจะเก็บข้อมูลของฉันเอาไว้ในหัว
เมื่อใดที่ฉันจะเขียนมันก็จะพรั่งพรูออกมา ถ้าให้ฉันมานั่งเขียนหนังสือเอาเอง
มันคงไม่ทันตามความคิดของฉัน เพราะความคิดมันล้ำหน้าไปก่อนมือของฉัน
เพราะฉะนั้นการใช้คอมจึงมีประโยชน์ต่อฉันมาก เพราะเวลาที่ฉันคิดอะไรฉันก็จะ
พิมพ์ออกมาซึ่งมันทันกับความคิดของฉัน สิ่งที่ฉันเขียนในตอนนี้มันอาจจะไปอยู่ตามเวบ
หรือไม่ก็มันก็อาจจะเก็บเอาไว้และฉันก็จะ zip มันเอาไว้ในแผ่น มันเป็นความทรงจำของฉัน
บางคนเขาก็อยากอ่านแต่บางคนเขาก็อาจจะรำคาญก็ได้ที่เราเขียนเรื่องอะไรเอามาลง
แล้วแต่ละบุคคลนะ จะให้ฉันเขียนเป็นเรื่องสั้นหรือนิยายฉันบอกแล้วฉันทำไม่ได้หรอกนะ
ฉันเขียนตามที่ฉันคิด และความคิดของฉันมันก็ไม่เคยหยุดนิ่งเลยนะ นอกจากเวลานอน
มีเรื่องอะไรมากมายที่ฉันได้พบเห็นมา และหลายสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวฉันเองถ้ามันมีประโยชน์
และสามารถนำไปใช้ได้ฉันก็อยากจะเขียนมัน แต่ถ้าสิ่งที่ฉันเขียนคนอื่นอาจจะรำคาญแล้ว
หละก็ฉันต้องขอโทษด้วยแล้วกัน ก็หันไปอ่านอย่างอื่นแทนที่เขียนชื่อเอาไว้น่าสนใจมาก
พอคลิกเข้าไปอ่านไม่มีอะไรเลย นอกจากประโยคนั้นประโยคเดียวที่ดึงดูดให้คนสนใจ
แต่ไม่มีเนื้อหาหรือว่าสาระอะไรเลย แล้วเขาเขียนลงมาทำไมกันนะ คนคลิกเข้าไปดูกันเยอะ
มันก็คงเหมือนหนังสือหละมั้ง ถ้าเราเห็นภายนอกรูปเล่มมันหน้าอ่านหน้าซื้อแต่พอเรา
เข้าไปอ่านแล้วมันไม่คุ้มค่าเหมือนปกนอกเลย หนังสือบางเล่มดูไม่น่าอ่านเอาเสียเลย
แต่พอเข้าไปอ่านแล้วเรากลับวางมันไม่ลง มันมีอะไรที่เราไม่รู้อีกเยอะแยะ และมันก็ทำ
ให้เราตาสว่างขึ้นมา ทั้งที่บางครั้งเราก็สงสัยสิ่งนั้นมานานแล้ว ขอบคุณที่มีหนังสือดีๆให้อ่าน
21 มิถุนายน 2547 14:14 น.
ฉันเอง
คิดว่าลืมเธอได้แล้วแต่ในความเป็นจริง
เธอยังคงเป็นเงาติดตามฉันตลอดมา
แม้ว่าในบางครั้งที่ฉันพยายามที่จะลบเธออกไป
แต่พอเกิดอารมณ์อ่อนไหวในใจฉันก็ยังมีเธอ
บ่อยครั้งที่จะโทรไปหาเธอแต่ฉันก็หักห้ามใจไว้
ทั้งๆที่คิดถึงเธออย่างมากมายแต่มันไม่มีประโยชน์อะไร
เพราะว่าข้างกายเธอนั้นมีใครครอบครองอยู่
ต้องโทษตัวเองที่เผลอใจไปรักเธอจนหมดหัวใจ
แต่ในวันนี้มันไม่เหลืออะไรมีแต่ความทรงจำ
เป็นความทรงจำที่เจ็บปวดอย่างแสนสาหัส
สำหรับเธอแล้วเธอคงไม่เจ็บปวดเหมือนฉัน
เพราะว่าฉันยังอยู่ที่เดิมมันเหมือนกับว่าเป็นการตอกย้ำ
ฉันไม่มีทางที่จะไปไหนเพราะว่ามันเป็นที่ซุกหัวนอน
มันยังมีภาพในอดีตวนเวียนอยู่ถึงแม้ว่าในบางครั้ง
ที่ฉันพยายามลืมเธอแต่ก็ไม่เคยทำได้สำเร็จ
เธอจะรู้บ้างไหมว่าฉันคิดถึงเธอตลอดเวลา
น้ำตามันยังไหลอยู่ทุกครั้งที่เขียนข้อความของเธอ
เป็นเพราะว่าฉันรักเธออย่างมากมาย
ยังจำรอยยิ้มและไออุ่นจากเธอและคำหวานๆ
ที่เธอเคยพูดอยู่เป็นประจำจนมันฝังอยู่ในใจ
ถ้าฉันได้ยินจากปากคนอื่นมันคงจะเลี่ยน
แต่สำหรับเธอแล้วฉันมีความสุขเมื่อได้ยิน
แต่ตอนนี้ทุกอย่างได้เปลี่ยนแปลงไป
เหมือนกับเราไม่เคยรักกันมาก่อน
เวลาที่เราโทรหากันไม่มีถ้อยคำหวานๆให้กัน
และการโทราของเราก็เหมือนค่อนข้างเป็นทางการ
ไม่เหมือนเธอคนเก่าที่ฉันรักเธอและเธอก็รักฉัน
ฉันรู้ดีว่าเธอไม่ต้องการรื้อฟื้นมันขึ้นมาอีก
เธอต้องการไม่ให้ไฟกองนี้มันดับลงไปไม่ให้มันครุขึ้นมาอีก
เธอทำได้แต่ใจของฉันมันยังคิดถึงเธออยู่เสมอ
มันรวดเร็วมากนะในการที่เราต้องจากกัน
และต่อแต่นี้ไปมันก็เป็นเรื่องในอดีต
21 มิถุนายน 2547 14:06 น.
ฉันเอง
ตอนนี้เธอคงจะนอนหลับสบาย
เธอคงจะมีความสุขกับเจ้าตัวเล็กนะ
เจ้าตัวเล็กนี่หละเป็นที่ยึดใจของเธอ
ก่อนหน้านี้เธอเคยนอนกอดฉันไม่เคยห่าง
เธอรู้ไหมฉันไม่มีใครนอนกอดฉันเลยนะ
ฉันต้องนอนกอดหมอนข้างแทนเธอ
มันต่างกันมากมายเลยนะแต่จะทำอย่างไรหละ
ฉันต้องยอมรับความเป็นจริงทั้งที่ไม่ต้องการ
แต่นี้ไปคงไม่อ้อมกอดจากเธออีกแล้วนะ
และฉันก็คงจะไม่ใครให้กอดด้วย
เธอรู้ไหมเธอทำให้ฉันเสียนิสัยจากฉัน
ที่ไม่เคยกอดใครไม่เคยเดินจูงมือใคร
เธอทำให้ฉันเคยชินแล้ววันนึงมันก็ขาดหายไป
มันเป็นช่วงระยะสั้นๆแต่มันก็ทำให้ฉันมีความสุข
ทำให้ฉันได้รับรู้ว่าอ้อมกอดและไออุ่นเป็นอย่างไร
ฉันแทบจะไม่เคยได้รับเลยนะตั้งแต่เด็กจนโต
เธอเป็นคนที่ทำให้ฉันได้รู้จักว่ามันเป็นอย่างไร
และเธอก็อีกนั่นแหละที่ทำให้ฉันต้องเจ็บปวด
ฉันไม่โทษเธอหรอกนะอย่างน้อยๆฉันก็ได้รับมัน
ถึงจะเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆแต่ฉันก็ไม่เคยลืม
ต้องขอบใจเธอด้วยนะที่ทำให้ฉันรู้ว่าความรักความอบอุ่นเป็นอย่างไร
21 มิถุนายน 2547 13:55 น.
ฉันเอง
ฉันนั่งมองแก้วเหล้าของเธอที่ฉันขอเป็นที่ระลึก
เธอบอกว่ามีคนขอเธอหลายคนแล้วแต่เธอไม่ให้
แต่เธอให้ฉันมาและฉันก็รักษามันอย่างดี
คนอื่นอาจจะไม่เห็นค่าของมันแต่สำหรับฉันแล้ว
มันมีความหมายสำหรับฉันอย่างมากเลยนะ
ฉันนำมาใส่ผลไม้อย่างสวยงามและตั้งที่เด่นที่สุด
สิ่งที่เธอขอจากฉันก็คือโซฟาตัวนั้นที่มันมีความหลัง
เราเคยนั่งดื่มด้วยกันกินข้าวด้วยกันและฉันก็นอนหนุนตักเธอ
ถ้าเป็นคนอื่นฉันคงไม่ให้หรอกนะแต่นี่เป็นเธอ
เวลาที่เธอนั่งเธอจะคิดถึงฉันบ้างหรือเปล่าหนอ
คนที่เคยคอยชงเหล้าให้เธอที่เคยใกล้ชิดเธอ
แม้แต่เตียงนอนที่เขานอนคนเดียวแต่เราสองคน
ก็นอนได้และยังมีที่ว่างเพราะเราไม่เคยห่างกัน
มันเป็นช่วงความสุขระยะสั้นๆแต่ฉันไม่เคยลืม
แม้แต่ตอนที่ฉันต้องกลับมาอยู่ที่บ้านของฉัน
เธอก็ขอยืมคอมเอาไว้ถ้าเป็นคนอื่นฉันไม่ยอมเด็ดขาด
แต่นี่เป็นเธอฉันยอมให้แม้ว่าเธอจะทำของของฉันแตก
ถ้าเป็นคนอื่นฉันคงต้องโวยวายเพราะว่าฉันถนอมมัน
มันอาจจะเป็นลางสังหรณ์ตั้งแต่แรกแล้วก็ได้นะ
แต่ฉันไม่ได้คิดถึงมันเพียงแค่ไม่เป็นไรเพราะรักเธอ
ตอนนี้ฉันได้ข่าวว่าเธอยำคอมฉันเสียเละแล้ว
ฉันยังไม่รู้เลยว่าถ้ากลับมามันจะมีสภาพอย่างไร
เพราะตอนที่ฉันซื้อตอนนั้นยังโง่อยู่ยังไม่รู้จักคอมดี
แต่ตอนนี้ฉันพอจะรู้เรื่องมันบ้างแล้วหละ
ช่างมันเถอะนะเธอมีค่ามากกว่าของของฉัน
แล้วเธอหละเวลาใช้เคยคิดถึงเจ้าของบ้างหรือเปล่า
มันรู้สึกว่านานเหลือเกินนะที่เราไม่ได้เจอกันเลย
ฉันไม่อยากไปหาเธอเพราะว่าฉันรู้ดีว่าเธอลำบากใจ
และเธอก็ไม่มาหาฉันเพราะว่าเธอก็ลำบากใจเหมือนกัน
รอให้ทุกอย่างมันเข้าที่เสียก่อนนะฉันคงจะได้เจอเธอ