12 สิงหาคม 2548 00:04 น.
จิรัฐิติกาล
(วสันตดิลกฉันท์ 14)
มิ่งขวัญพระแม่ดุจประสิทธิ์.................สิริกิติ์ ธ ทรงภาส
สิบสองลุอัษฎมะมาส...........................รชินีนุกูลไทย
ขอองค์ประภัสสรสวัสดิ์........................ปรมัตถ์นิรัติสัย
กอบเกื้อสินิทธทะนุภัย.......................ปริเยศสกลราษฎร์
มากล้นสล้านคณปการ.......................ชยชาญ ณ เนืองนาถ
ทุกข์ร้ายขจัดประขยปราศ...................พิสมัยจะแซ่ซ้อง
เหล่าข้าพสกนิกรใคร่..........................ลุถวายละล่ำร้อง
องค์มาตุเรศภทรพร้อง........................สิวะคงไผทเทอญ
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า
จิรัฐิติกาล
17 มิถุนายน 2548 16:46 น.
จิรัฐิติกาล
นอกเหนือเงาลางเลือนบนความมืดมิด
จากลิขิตที่ปลายฟ้าเหยียบความฝัน
ตัวตนหนึ่งนิ่งเงียบในเฉียบพลัน
เราเท่านั้นท่วมทุกข์ต้องเผชิญ
ฉันคือคนพ่ายแพ้ในความตั้งมั่น
จะทนฝันให้เดียวดายใครสรรเสริญ?
ไม่มีสิ่งใดเกิด...แค่บังเอิญ
ยอมมันเถิดตั้งมั่นเกินก็ทรุดพัง
ให้ความบ้าท้าตายเข้าสิงสู่
ใครจะสู้ฝืนทนไปก็ช่าง
มาร่วมรับความจริงน่าชิงชัง
อยู่ในความมั่งคั่งของโลกนี้
เหนือใจคิดโสมมที่บ่มสร้าง
ความปล่อยว่างสันดานยังคงที่
ล้มลงร่วงทาบสู่เบื้องธรณี
เหลวแหลกนี้มอบสู่ชีพสามัญ
ที่สุดแล้วคือสูญสิ้นทุกสิ่ง
ฉันละทิ้งซึ่งมุ่งหวังจะสร้างสรรค์
ได้ซึมทราบทุกสิ่ง ณ จุดนั้น
สร้างคืนวันอันเปล่าว้างเพื่อหยัดยืน
4 ธันวาคม 2547 15:48 น.
จิรัฐิติกาล
(สัททุลวิกกีฬิตฉันท์ 19)
น้อมจิตกายนฤมลถวายมนสการ
บาทองค์พระเดชชาญ ยุคล
ห้าธันวามหมิ่งสุขวัญชยผจญ
ทรงโปรดประชาชน สราญ
องค์สมเด็จศิระเจ้าพระภูมิพลหาญ
ทวยราษฎร์ถวายญาณ พิทักษ์
ผ่านพ้นกาลนวมินทร์ตระการ ธ อภิรักษ์
ถือธรรมะเป็นหลัก ภิบาล
บำรุงศาสนชาติทนุนหุตการณ์
สร้างโศจิยืนนาน ไผท
ราษฎร์สรรเสริญนฤเบศพิไลดุจไถง
ทรงปัดปะเป่าภัย พิพัฒน์
ขอใต้ร่มกตทศพิธจรณะจัด
เป็นโพธิสมภัทร์ อเนก
ข้าลูกหลานพระบิดรฉลองพิทยเสก
ขออาศิร์วาทเรข นิรันดร์
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า นายมนพงศ์ ขำศิริ
1 มกราคม 2547 17:49 น.
จิรัฐิติกาล
(สัททุลวิกกีฬิตฉันท์)
อัญเชิญเทพยดาประสบประสิทธผล
สร้างปาฏิหาริย์ดล ประชา
ล่วงเข้าหนึ่งมกราลุกาลมหหล้า
สนั่นเสกสวัสดิ์พา พิทักษ์
นำความสุขชยศักดิศรีถกลจักร
เลือกสรรสุจิตรัก เจริญ
ยั่งยืนพิทยเปรมเกษมพิชิตเทอญ
ขอลาภดำเนิน ตระการ
มารใดกรายรุกได้ผจญมติสะท้าน
เต็มพร้อมจะสำราญ ตลอด
มากมายด้วยสติย่อมประจักษ์ทิพยยอด
อำนวยภยันต์วอด สุขี
8 เมษายน 2546 12:08 น.
จิรัฐิติกาล
มืดสลัวกลัวใจไฟยังจ้า
เสียงฟ้าผ่าซ่าซัดลมพัดหวน
ฝนไม่โปรยเพราะโรยแรงทนทบทวน
เสียงแห้งครวญฟืนฟางครางกลัวเพลิง
หนึ่ง, ไม้ตายกลางป่ามาตามกล้า
ซับเสียงพร่าคร่าครื่นครืนหื่นพนเหลิง
ดินแตกเปลือกเลิกลอกออกเอิกเริง
เสียงเปรี้ยงเปิงเสี่ยงเสียดฝ่าลงดิน
สอง, ไม้ไหม้เพลิงลุกปลุกนรก
หญ้าที่ปกหกท้องป่าห่าทุ่งปลิ้น
ไฟมอดหล้าฟ้ามาตรใหญ่ใฝ่เมินหิน
เสียงแซ่เซ็งนินนาทแน่จะลาม
สาม, เกลื่อนแสงเลงร่วงรุ้งโกเมนเพชร
อัคคีเล็ดรุกล่วงโชติเขตขาม
ถ่านเชื้อดำนำแดงแรงช่วงตาม
เสียงตอช้ำวิทาลน์วากนภา
สี่, เกินดับอัคนิรุทรในป่าใจ
ไฟ - ฟืน - ไพร รวมเป็นเถ้าลอยเวหา
เผาเป็นเสี่ยงละลายหมดมนตรา
เสียงวายุปะโล่งเตียน...ไม่เหลือรอย
อัคคีใจหม่นไหม้ โลภะ นำเฮย
อวัสถาโมหะ หลีกได้
หลงผิดลุโทสะ จักครอบ งำนา
เพลิกลุก, ฟืนเลี่ยงไร้ อย่าให้ใส่เติม