27 ตุลาคม 2551 21:37 น.
จิตรำพัน
กระแสลมพรมพัดสะบัดหญ้า
ยอดพริ้วพาไหวเอนเด่นไสว
ดอกสล้างกลางทุ่งท้าแรงไกว
ประหนึ่งใจของข้าท้าแรงตรม
ดอกหญ้าบานสราญชื่นยืนหยัดเนิ่น
มองสวยเพลินเกินค้นยลเรื่องขม
เมื่อมองพิศจิตแกร่งมั่นอารมณ์
สู้แม้ล้มขมขื่นไม่ท้อใจ
แม้นโดนเหยียบย่ำหยามตามกระหน่ำ
แม้นเจ็บช้ำกลัดในไม่หวั่นไหว
ข้าจะลุกฉุกขืนยืนต่อไป
ต่อชีพไว้ในธรณีด้วยมั่นคง
ประกาศไว้ข้าก็หนึ่งซึ่งชีวิต
จะมาริดราญรอนด้วยลุ่มหลง
ว่าต่ำต้อยไร้ราคาพาปลิดปลง
ขอหยัดยงคงซึ่งเกียรติศักดี
อันตัวเรานั้นเล่าไฉนนั่น
จะทนกลั้นหวั่นไหวไม่หลีกหนี
จะสู้แรงถาโถมโหมฤดี
ด้วยสตีแลปัญญามากเพียงใด
ใต้ความเงียบเหยียบเรื่องไว้หลายหลาก
ใต้หน้ากากมากทุกข์ใจหวั่นไหว
ใต้รอยยิ้มน้ำตาพาช้ำใน
ใต้สดใสคือเศร้าเร้าชีวา
พยายามข่มเศร้าด้วยสติ
พยายามข่มวิถีด้วยเสาะหา
พยายามกอบกู้ใจศรัทธา
พยายามนำปัญญาชี้ทางตน
จะยืนหยัดจัดใจให้อยู่ได้
ให้ยิ่งใหญ่ในวิถีลี้สับสน
เหมือนดอกหญ้าที่สวยและอดทน
แม้นผจญใจท้อบางเพลา
....................................................................................................
ดอกหญ้าแม้จะไร้ค่า...ในสายตาบางคน
แต่เขาย่อมมีเกียรติและศักดิ์ศรีในชีวิต
แม้จะโดนคลื่นลมโหมกระหน่ำ โดนเหยียบย่ำสักเพียงไหน
แต่ก็ยังสามารถฟื้น และงอกเงยขึ้นมาใหม่ได้ ด้วยพลังชีวิตที่แข็งแกร่ง
คนเราล่ะ...เมื่อเปรียบกับดอกหญ้ากลางทุ่ง
เมื่อเจออุปสรรค...จะทำฉันใด
สำหรับจิตรำพัน...ขอเพียงมีคนเข้าใจ ส่งกำลังใจมอบให้อยู่เสมอ
เท่านี้ก็สุขใจ