26 ตุลาคม 2545 08:35 น.
จากความฝันสู่ความจริง
ตอนที่ 5 : บอกรัก
ผมตื่นเช้ามากที่สุดก็คือวันที่ที่บ้านผมมีงานทำบุญขึ้นบ้านใหม่ แต่วันนี้ผมกลับตื่นเช้ากว่านั้นคือ ตี 3 ตื่นมาเพราะความฝันที่ผมกับปิ่นแยกทาง ความฝันนั้นทำเอาผมเหงือแตกพลักๆเลยเพียงเพราะผมยังไม่ได้บอกรักปิ่น พอผมตื่น ขึ้นมาก็คิดว่า มันก็จริงที่ผมไม่เคยบอกเลย แต่ทำยังไงดีละครับก็ผมไม่ค่อยจะกล้า บอกเลย แต่แค่ผมกับปิ่นอยู่ใกล้กันก็พอแล้ว แต่ก็นั้นแหละทำให้ผมกังวล แต่ผมก็ พยายามจะสลัดความคิดนี้โดยไปอาบน้ำ หาอะไรทำไปอ่านหนังสือแทนไปเห็นหนังสือ เรื่อง "กลอนสือรัก" ที่ผมซื้อมาจากร้าน พี่สินเมื่อ 2 อาทิตย์ก่อน มาอ่าน มีอยู่ 15 หน้า เป็นกลอนที่เขาเอาไว้ส่ง PAGER มันก็ดีหรอกนะ แต่ว่าปิ่นก็ไม่มี PAGER ซะหน่อย แต่ก็ดี
ในหนังสือมีเกี่ยวกับนิยามรักมากมาย บางทีสิ่งนี้ก็เป็นสิ่งที่เป็นคำตอบที่ต้อง ค้นหากันเอง ผมอ่านไปเรื่อยจนเวลาผ่านไป ชั่วโมงครึ่ง ผมก็ไปปลุกเจ้าชิดมัน เจ้าชิดทำหน้างั้วเงียและมองไปที่นาฬิกาและก็ทำหน้าแปลกใจ
"ทำไมมึงตื่นเร็วจังวะ"
"ไม่รู้วะแต่ตื่นได้แล้วเว้ย"
"เออๆ เดี่ยวเราไปอาบน้ำก่อน"
และผมก็เดินไปข้างล่างหาอะไรกิน ผ่านหน้าห้องติดต่อที่พัก เฮียสุชาติก็ออกมา พอดี
"เอ้า อาเอก มีจดหมายถึงลื้อ"
แล้วเฮียสุชาติก็ไปหยิบจดหมายมาจากโต๊ะทำงานของแก พอผมได้เห็นชื่อผู้ส่ง ผมก็ถึงกับประหลาดใจ เพราะคนที่เขียนจดหมายมาเป็นเพื่อนผมสมัยเรียนมัธยม คือเก๋ เก๋เป็นเพื่อนผู้หญิงคนเดี๋ยวในกลุ่มผม ซึ่งเก๋เป็นคนที่นิสัยแก่นๆหน่อย ซึ่งเก๋เป็นคนที่ช่วยใน ด้านประสานงานกับอาจารย์ที่ปรึกษา ผมจึงรีบเปิดซองจดหมายอ่านดู
ถึงเอกสิทธิ์
สวัสดีจ๊ะเอก สบายดีไหมนี้ตอนนี้เรามาเรียนที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่นี้อากาศดี มากเลย นี้ตอนแรกเราไม่รู้ว่าเธอไปพักหอ แต่พอเราโทรไปที่บ้านถึงได้รู้ที่อยู่นี้แหละ เป็นไงกับการเรียนที่ม.บูรพา สะดวกสบายดีไหม เราว่านะจะสบายดีนะเพราะอยู่ติดกับ ทะเล เจ้าชิดเป็นไงบ้านยังเป็นเสื้อผู้หญิงอยู่หรือเปล่า จากการคาดเดาเราเจ้าชิดยังเป็นอยู่ แน่ๆเลย เอกก็ค่อยห้ามๆมันบ้างแล้วกันนะ แล้วตอนนี้เอกมีคนที่รู้ใจหรือยัง ตอนที่เรียน มัธยมนายก็ดูไม่สนใจใครเลยนิ รีบๆหาเข้าไว้นะ จะได้ไม่เหงาเวลา
ไม่รู้จะเขียนอะไรแล้ว ก็ขอให้นายโชคดี เรียนได้ตลอดรอดฝั่ง นะ อย่าโดน retry ละ ถ้าโดน retry จะสมน้ำหน้าให้ดูเลย โชคดีนะ
รักเละคิดถึง
วรรณิสา
ป.ล. ว่างๆเอาน้ำทะเลมาฝากด้วยนะ
ผมปิดจดหมายลง และก็เดินขึ้นไปบอกเจ้าชิด ซึ่งกำลังจะเดินออกจากห้องพอดีพอผมบอกเรื่องจดหมายจากเก๋ มันก็รีบเอามาอ่าน
" อะไรวะ พูดถึงเราแค่นี้หรอ และยังมาพูดประชดอีก ไม่แฟร์เลยนิหว่า "
" เก๋ไม่ได้ประชดหรอก เขาเป็นห่วงแกมากกว่าวะ"
" แต่ก็น่าจะเขียนถึงเรายาวกว่านี้หน่อยแหละหน่า"
แล้วมันก็ส่งจดหมายคืนมา ผมก็เอาไปเก็บที่ห้อง และก็ไปมหาลัยกัน ผมกับเจ้าเอกเดินไปเรื่อย เพราะวันนี้ไม่ได้รีบอะไร เจ้าชิดแวะที่ร้านขายขนม ซื้อพวกขนมขบเคี้ยว ไป
"นายจะซื้อไปกินด้วยหรือไง"
"เปล่า เราซื้อไปฝาก จ๋อม"
นั้นสินะ ทำไมผมถึงไม่ซื้อไปฝากปิ่นบ้าง ก็คงจะดี แต่กำลังจะไปหาซื้อก็ได้ยิน เสียงเรียกมาจากข้างหลัง
" เอก ชิด รีบขึ้นรถเร็ว"
พอผมกับเจ้าชิดหันไป ก็เห็นเจ้าวิทย์ เรียกมาจากในรถของอาประวิทย์ ผมกับเจ้าชิดก็รีบวิ่งขึ้นรถไป
" สวัสดีครับคุณอา "
" เออๆ สวัสดี ตื่นแต่เช้าดีนิ ทั้งสองคน"
"ตอนแรกก็ไม่ได้ตั้งใจจะตื่นเช้าหรอกครับ แต่เจ้าเอกมันดันปลุกตั้งแต่ตี 3"
"ตี 3 เลยหรอ" ประวิทย์ทำหน้าไม่เชื่อ "ทำไมตื่นเช้าขนาดนั้นเลยละ"
"ไม่รู้เหมือนกัน คงฝันร้ายมั้ง" ผมพยายามตอบอย่างเลี่ยงๆ
และพวกเราก็ไปถึงมหาลัยตั้งแต่ 6 โมงครึ่ง หลังจากคุณอากลับไปแล้ว พวกเราก็เดินไปแถวๆ ตึกนิเทศศาสตร์ ตามคำชวนของเจ้าชิดมัน พอไปถึงเจ้าชิดก็ มองไปรอบหาจ๋อม และมันก็รีบเดินตรงเข้าไปที่กลุ่มของจ๋อม ซึ่งมีปิ่นและ นกนั่งอยู่ด้วย
"สวัสดีจ๊ะ จ๋อม เรามีขนมมาฝาก"
"อุ๊ย! ขอบใจมากชิด แต่วันหลังไม่ต้องซื้อมาก็ได้ เกรงใจ"
และผมก็มองไปยังปิ่นซึ่งกำลังก้มหน้าก้มตาเขียนอะไรอยู่ก็ไม่รู้
"สวัสดีนะ ปิ่น ทำอะไรอยู่หรอ"
"อ้าว! เอก สวัสดี พอดีเรากำลังเขียน รายงานส่งอาจารย์นะ"
"ส่งวันไหนหรอ"
"ส่งสิ้นเดือนค่ะ"
"โอ้โห จะส่งอาจารย์คนแรกเลยหรอ ขยันจัง"
"อืม.." แล้วปิ่นก็ก้มหน้าก้มตาเขียนรายงานต่อไป
ผมมองไปยังเจ้าประวิทย์ ซึ่งยังยืนอย่างเก้ๆกังๆ ซึ่งนกก็ดูจะไม่ชอบท่าทางของ ประวิทย์เลย และสุดท้ายก็ทนไม่ได้
" เราไปก่อนนะปิ่น เดี่ยวเจอกันที่ห้องเรียนนะ"
และนกก็รีบเดินออกไป เจ้าวิทย์ได้แต่มองตามหลังของนก จนลับสายตาและก็หันมาถอนหายใจ
เฮ้ย! เป็นอะไรหรอประวิทย์ ผมทัก
นายชอบนกหรือไง ผมลองแหย่ๆดู
เปล่า! เราไม่ได้ชอบซะหน่อย แล้วมันก็หันหน้าหลบกลับไป
ดูเจ้าวิทย์ทำ มันโกหกไม่เก่งเลย พวกผมก็แทบจะรู้ถึงความคิดของเจ้าวิทย์ทุกอย่างแล้ว แต่เจ้าวิทยิ์ยังปฏิเสธเฉยเลย เฮ้อ! แล้วเมื่อไรความรักของเจ้าวิทย์จะสมหวังซักทีละเนี้ย
แต่ผมก็คิดถึงเรื่องของผมกับปิ่น เพราะผมยังไม่เคยบอกว่าชอบปิ่นเลยซะจริงๆ ตอนแรกผมก็เคยคิดว่า ไม่จำเป็นเลยกับคำว่ารัก ที่จะบอกใครที่เรารัก แค่ความรู้สึกดีๆก็น่าจะพอแล้ว แต่เมื่อไม่นานมานี้ พี่สินเคยบอกว่า หากเรารักใครก็ควรบอกไปเลย ไม่ควรจะเก็บไว้คนเดียว เพราะหากโอกาสที่เราจะบอกเขานั้น มันไม่ได้ตรงเวลาเหมือนรถไฟลอยฟ้า หรอก หากเราพลาดโอกาสนั้นไปแล้ว เราไม่สามารถจะย้อยเวลาได้อีกเลย ความรักชังลำบากใจจริงหนอ
เอก........เอก...........เป็นอะไรไปหรอ
ผมสะดุ้งจากเสียงที่ได้ยิน ปิ่นหยุดเขียนรายงานและมองหน้าผม
เป็นอะไรไปหรือเอก นั่งมองหน้าเราแล้วหลับในหรือไง
เปล่า! เราก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยนะ
อืม......... แล้วปิ่นก็ก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไปส่วนผมก็ยัง อดคิดไม่ได้ว่าจะพูดอย่างไรถึงความรู้สึกนี้กับปิ่นดี คิดไปคิดมา ก็มองนาฬิกา แล้วก็ต้องตกใจ เพราะเวลาผ่านไปเร็วมา จน 8.20 แล้ว เหลืออีก 10 นาที ผมต้องรีบไปเข้าเรียนแล้ว ผมก็บอกลาปิ่น และรีบวิ่งไปที่ห้องเรียน โดนอาจารย์ดุเอาชุดใหญ่เลย ว้า! ในที่สุดก็ยังไม่ได้บอกรักปิ่นซะที
***********************************************
10 ตุลาคม 2545 09:26 น.
จากความฝันสู่ความจริง
ตอนที่ 4 : ความผิดหวัง
เป็นอะไรหรือวะ ชิด ทะเลาะกับจ๋อมมาหรือไง
ผมถามออกไปด้วยความเป็นห่วงแต่มันก็ไม่ตอบนั่งก้มหน้านิ่ง ผมเลยเดินไปซื้อน้ำมาเลี้ยงมัน มันรับน้ำแต่ก็ยังคงนั่งเงียบต่อไป
มีอะไรก็บอกมา ถ้านายไม่บอกแล้วเราจะรู้ไหมเนี้ย ผมถามเพราะเริ่มรำคาญ พอพูดไปได้สักครู่มันค่อยๆ เงยหน้ามา
ตอนนี้จ๋อมมีแฟนใหม่แล้ว
นายรู้ได้ไง จ๋อมเค้ามาบอกขอเลิกหรือไง
เปล่า แต่ตอนเช้าเราไปรอจ๋อมที่หน้ามหาลัย รอได้สักครู่ก็เห็นรถเก๋งสีขาว ขับเข้ามาและก็เห็นจ๋อมนั่งในรถด้วยนะซิวะ
แล้วทำไมนายปักใจว่าจ๋อมเขามีแฟนใหม่ละ
ถ้าไม่ใช่แฟนแล้วใครจะมาส่งจ๋อมถึงที่นี้ละ มันพูดเสร็จก็เริ่มน้ำตาคลอเบ้า ผมก็เห็นว่าเริ่มจะท่าไม่ดี ก็เลยชวนมันไปเดินเล่นดีกว่า
ผมกับเจ้าชิดตั้งแต่เป็นเพิ่นกันมาไม่เคยเห็นมันอกหักเลยส่วนมันจะเป็นคนหักอกผู้หญิง มากกว่า แต่ตอนนี้มันดูจะเสียใจมาก แต่ผมก็ยังไม่ปักใจเชื่อว่าจ๋อมเขาจะมีแฟนใหม่เพราะเห็น รักกันจะเป็นจะตายระหว่างชิดกับจ๋อม
เราเดินกันไปสักครู่เจ้าชิดดูจะอาการดีขึ้น แต่ซักพักมันหยุดเดินและดูเหมอลอย สายตามันมองไปตรงที่สวนหย่อมเล็ก เห็นจ๋อม ปิ่นและนก กำลังนั่งติววิชากันอยู่
เอก เราไปก่อนนะ
เฮ้ย จะไปไหนหรอ
เรารู้สึกไม่ดีเลย อยากไปเดินเล่นที่อื่น
พูดจบมันก็เดินกลับ ผมได้แต่ งงและก็เดินเข้ามาหาปิ่น
และ ชิดไปไหนละค่ะ จ๋อมถามด้วยความสงสัย เมื่อกี้ยังเห็นเดินมากับเอกอยู่
เลย
ไม่รู้เหมือนกัน คงมีธุระมั้ง ผมตอบแบบเรียบ กะว่าจะถามจ๋อมซักหน่อยเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่ แต่ยังไม่ได้ถาม ทั้งสามสาวก็ขอตัวกลับก่อนเพราะพวกเธอว่าจะไปกินไอศครีมที่หน้ามหาลัย ผมว่าจะไปด้วยแต่คิดอีกทีไปหาเจ้าชิดดีกว่าไปปลอบใจมันก่อน
หลังจากลากับปิ่นแล้ว ก็เริ่มเดินหาเจ้าชิด มันไม่รู้เดินไปไหนเดินเร็วชะมัด
ลองถามเพื่อ ที่คณะไม่มีใครเห็นเจ้าชิด จนเย็นผมกลับมาที่หอ เคาะประตูห้องนอนเจ้าชิดมัน ก็เงียบไร้เสียงตอบ ผมเป็นห่วงมันเพราะมันคงจะพึ่งเคยอกหักครั้งแรกกลัวมันจะคิดมาก
ไอ้อาการอกหักผมก็เคยเป็น ตอนนั้นผมเรียนอยู่ในระดับม.ปลาย ผมเรียนเป็นโรงเรียนเอกชน ผมเคยแอบชอบเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งมาก ผมพยายามจะสนิทกับเธอให้มากกว่านี้ แต่นั้น ก็ทำให้ผมรู้ว่าผมไม่ดี พอที่จะไปชอบเธอเพราะเธอมีเพื่อนชายที่ สนิทกันมาก และเขาก็ยังเป็นหนุ่มรวยและหน้าตาดีกว่าผมมากมันรู้สึกเหมือนตัวเองไม่มีความหมายต่อใครทั้งนั้น อยากอยู่คนเดียว แต่โชคดีที่ตอนนั้นผมยังอยู่กับพ่อแม่ ท่านคอยปลอบใจผมทำให้ผ่านช่วงนั้นมาได้ แต่นี้เจ้าชิดมันอยู่คนเดียวเดี๋ยวมันจะคิดมากเกินไป
ผมนอนไม่ค่อยหลับเลย รอฟังเสียงประตูห้องเจ้าชิดเปิด แต่มันก็เงียบสนิท จนผมเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหรก็ไม่รู้
วันนี้ผมก็ยังตื่นสายเช่นเคยรีบไปเปลี่ยนชุดเลยตรงไปยังมหาลัย แวะร้านขายขนมปังซื้อนมและขนมปังไปกิน ระหว่างทาง ผมไปถึงที่มหาลัย ผมเข้าห้องเกือบสาย โดนอาจารย์เทศน์ พอผมมานั่งมองไปรอบๆห้องก็ยังไม่เจอเจ้าชิด
มันเป็นอะไรของมันกันแน่ ผมคิดในใจ แต่สักครู่เจ้าชิดมันก็เข้ามาในห้อง อาจารย์มองดูเจ้าชิด ซึ่งแต่งตัวเหมือนเมื่อวานยังกับไม่ได้กลับบ้าน และก็เข้ามาเรียน อาจารย์อึ้ง ไปสักครู่ก็สอนต่อ เจ้าชิด มันดูซึ่มๆ หนักกว่าเมื่อวานอีก พอเลิกเรียนผมก็ตรงไปถามเจ้าชิดซึ่งนอนฟุบอยู่กับโต๊ะ พอไปสะกิดเรียกมัน เจ้าชิดเงยหน้าขึ้นมาทำหน้างัวเงีย รู้สึกได้กลิ่นแอลกอฮอล์ออกมาจากปากเจ้าชิด
แก กินเบียร์ด้วยหรือวะ
มันไม่ตอบ ผมก็เลยพยุงมันไปห้องน้ำ ไปล้างหน้าซะหน่อย หลังจากล้างหน้า
ล้างตามันเสร็จ ผมก็พามันมาที่ม้านั่งหน้าคณะ ระหว่างที่ผมพยุงมันอยู่มันก็พร่ำพรรณนาไปต่างๆนานา ประมาณว่าไม่มีใครรักมัน ไม่มีใครต้องการมัน พอมานั่งที่ม้านั่ง มันก็นั่งเงียบครื่ม ไม่พูดไม่จา มองเหมอไปทางตึกคณะนิเทศฯ ผมก็ได้แต่ตบไหลและเราก็นั่งยังงั้นจน 4 โมงเย็น ผมก็ลากมันกลับ แต่ชิดบอกจะอยู่ต่อ ผมก็ยื้อกับเจ้าชิดอยู่ได้สักครู่มันก็ยอมไป ผมก็เลยต้องไปเรียกรถแท็กซี่มารับไปที่หอ และพาเจ้าชิดไปนอนที่ห้องของมันเอง และผมก็ไปนอน ระหว่างที่ผมกำลังจะนอน ผมคิดว่าหากเป็นผมและปิ่น ผมควรจะทำอย่างไร
ผมตื่นขึ้นมาวันนี้เป็นวันเสาร์ผมไม่มีเรียน เลยลงไปหาอะไรทาน และก็ขึ้นมาหาชิดที่ห้อง ลองเปิดเข้าไปดูชิดหายไปแล้ว ผมพยายามหามันรอบ หอพักแล้วก็ไม่เจอ เลยเดินไปตามชายหาด ไปเจอเจ้าชิดนั่งเหมออยู่
"เป็นไงบ้าง ชิด สบายใจขึ้นบ้างหรือยัง"
"ก็ดีขึ้นแล้วละ แต่มันยังรู้สึกไม่สบายใจยังไงไม่รู้วะ"
"แล้วนายไปถามจ๋อมให้รู้เรื่องหรือยังละ"
"ยังเลย เราไม่กล้าไปหาจ๋อมอีกเลย เพราะกล้วว่าจ๋อม จะพูดว่าเขาคือแฟน จ๋อม"
"นายก็ได้แต่เดาละว้า แต่ที่เราดูๆจ๋อมก็ไม่ได้สนิทกับใครนอกจากนายนี่หว่า"
"มันก็จริง แต่วันนั้น จ๋อมนั่งรถมากับเจ้าหนุ่มคนนั้นจริงๆ นะเว้ย"
"เราเชื่อนายนะ แต่เขาอาจเป็นแค่เพื่อนของจ๋อมก็ได้"
"แต่เรารู้สึกว่า.."
"นายก็ได้แต่รู้สึก ทำไมไม่ไปถามจ๋อมเองเลยละ แล้วนี้บ้านจ๋อมเขาอยู่ไหนละ"
"ถัดจากนี้ไปไม่เท่าไหรหรอก"
"งั้นเราก็ไปถามจ๋อมให้รู้เรื่องเลยไป"
ผมและเจ้าชิดก็เดินมาถึงหน้าบ้านของจ๋อม บ้านจอมเป็นตึกแถว ซึ่งเปิดกิจการ เป็นร้านขายของชำ ตอนเราไปถึงมีเด็กมาซื้อขนม อยู่หนึ่งกลุ่มใหญ่ โดยมีคนขายเป็น จ๋อมเองนั้นแหละ พอเดินมาถึงหน้าร้านเจ้าชิดรีบหันหลังกลับและ รีบเดินหนนี แต่จ๋อมเหลือบเห็นก่อนจึงทัก
" ชิดจะรีบไปไหนหรอ มานั่งกินน้ำก่อนซิ"
จ๋อมเรียกเสร็จก็รีบขายขนมให้เด็ก แล้วรีบไปเปิดน้ำอัดลม ส่วนเช้าชิดก็เดินเก้ๆกังๆเข้าไป ผมก็เดินตามเจ้าชิดเข้าไป
" ขายดีไหมจ๋อม " ผมทัก
"ก็ดีช่วงนี้เด็กชอบมาซื้อขนม เพื่อสะสมแลกของเล่นนะ"
" ก็ดีนะ "
"ชิด ทำไมหมู่นี้ชิดชิบหลบหน้าจ๋อมตลอดเลย มีอะไรหรอ"
ชิดได้แต่นั่งก้มหน้านิ่ง ไม่พูดอะไร ผมก็เลยถามให้แทน
"คือ เจ้าชิดมันหึงจ๋อมนะ"
"หึงเรื่องอะไร?" จ๋อมทำหน้างง
"ก็เมื่อสองวันก่อน ชิดเห็นมีคนมาส่งจ๋อมที่มหาลัยนะ"
"ออ...นั้นพี่ชายจ๋อมเอง พี่เขาไปเรียนต่อที่กรุงเทพ นานจะกลับมาที และวันนั้พี่เขาจะกลับไปกรุงเทพเลยแวะมาส่งจ๋อมนะ"
พอเจ้าชิดได้ยินยังงั้นเท่านั้นแหละ ก็เงยหน้าขึ้นมาทำหน้าดีใจ
"จริง หรือจ๋อม"
"จริงสิ ชิดอะ คิดมากไปได้"
"ก็เราไม่รู้นี่"
"ไงเจ้าชิด นายคิดมากทำไมวะ" ผมพูดและก็ตบไหล่เจ้าชิดมันเบาๆ
"จ๋อม ไปหาอะไรมาให้กินหน่อยสิ เราหิวจะตายอยู่แล้ว" ผมพูด
"ได้ๆ รอแป็บหนึ่งนะ"
และจ๋อมก็ไปสั่งร้านก๋วยเตี๋ยวข้างๆ ได้ เล็กแห้งและน้ำมาอย่างละชาม
"ชามแห้งนี้ของ เอกนะ และชามน้ำนี้ก็ของชิดนะ"
"จ๋อมนี้รู้ใจชิดจริงๆเลย" นั้น เจ้าชิดทำฟอร์ม ผมรู้นะว่ามันไม่ได้ชอบกินก๋วยเตี๋ยวน้ำ เอาซะเลย
"แหมก็คนเป็นแฟนกันนี้หน่า" แล้วจ๋อมก็เดินหน้าแดงหายไปหลังร้าน
คนมันมีแฟนก็ดียังงี้ละมั้ง มีคนคอยเอาใจ แต่ก็ละครับ ผมก็มีเหมือนกัน เพียงแต่ผมกับปิ่นยังไม่ค่อยทำตัวเป็นแฟนกันเปิดเผยเท่านั้นเอง แต่ผมก็ไม่เคยบอกรัก ปิ่นเลยแฮะ
***********************************************