29 ตุลาคม 2550 12:55 น.
จันทร์ไร้เงา
ชีวิตหนึ่งมีตัวตนอยู่บนโลกกลม-กลมใบใหญ่
สองมือสองเท้าก้าวตะกายต่อไฟฝัน
สร้างชีวิตก่อกำเนิดเกิดผูกพัน
สร้างบุญคุณเวรกรรมทำกันมา
เมื่อประสพพบเจอทางลำบาก
เฝ้าแต่โทษโกธาด่าดินฟ้า
อาจมีบ้างบางครั้งที่ผ่านมา
โชคชะตาให้ความสุขกับชีวี
หนึ่งชีวิตของคน-คนหนึ่ง
ที่เกลือกกลั่วมอมเมาลาปศักดิ์ศรี
ยศฐาชูหน้าตาค่ามากมี
หากเรามองดูให้ดีมีอาจม
ลิขิตฟ้าหรือที่ส่งท่านให้มาเกิด
หรือกิเรสโลบส่งมาเกิดให้สุขสม
แม้สังขานไม่อาจรั้งให้มั่นคง
จะมั่วมาลุ่มหลงอยู่ใย
ฟังคำเราเถิดท่านทั้งหลาย
เกิดเพียงหนึ่งตายเพียงหนึ่งท่านอย่าเสียดาย
การเกิด คือ บาปเวรที่เสื่อมสูญสลาย
การตาย คือ การกลับสู่ความจีรัง
18 ตุลาคม 2550 16:57 น.
จันทร์ไร้เงา
ฉันไม่รู้ว่าฉันทำอะไรอยู่ ณ ที่ตรงนี้
ในมุมทึบ-ทึบของห้องที่ไม่มีแสงสว่าง
ไร้ซึ้งแสงแห่งรุ่งอรุณหรือดวงดาวจะนำทาง
ส่องสว่าให้ความมืดละลายหายไป
ฉันไม่รู้ว่าทำไมจึงนั่งลงร้องไห้ ณ ที่ตรงนี้
บนทางที่แสนจะมืดมนไร้สิ่งใดจะเคลื่อนไหว
ไม่มีแม้สายลมโบกโบยพัดสะบัดฝุ่นลอยหลิ่วไป
คงมีแค่เพียงสายน้ำที่รินใหลออกจากตา
ฉันไม่รู้ว่าเหตุใดจึงยังคงคิดถึงเธอ
ทั้งที่เธอไม่เคยจะพร่ำเพ้อละเมอหา
ไม่รู้ทำไม่จึงปล่อยให้ตัวเองจมอยู่ใต้เงาแห่งน้ำตา
ทำไมปล่อยให้ตัวเองดูไร้ค่าอย่างไม่ใยดี