31 มกราคม 2547 15:50 น.

อธิษฐาน

จันทร์เพ็ญ จันทนา

 อยากเพียง...อธิษฐาน
แต่ไม่มีคำหวาน มาวอนขอ
คำซื่อ-ซื่อ เหล่านี้...หากดีพอ
ก็จะขอ อ้อนคำ ตามหัวใจ

ตั้งใจ...อธิษฐาน
ณ ขอบฟ้า ก่องตระการ มีใครไหม
ใครที่พอได้ยินและห่วงใย
ว่าโลกนี้ ยังมีใคร อีกหนึ่งคน

ตั้งสัตย์...อธิษฐาน
จะผันผ่าน วันเดือนปี อีกกี่หน
พบผู้คน อีกมากมาย หลายหลายคน
ขออย่าให้ ใจนั้นหม่น ตามเวลา

ด้วยแรง...อธิษฐาน
ใจสดใส สะอาดสะอ้าน ถึงวันหน้า
เหมือนเด็กน้อย ที่สดใส วิ่งไปมา
ในวิญญา ในหัวใจ ไปนิรันดร์

ปีเก่า ถึงปีใหม่
จะยังคงมีไฟ และ มีฝัน
ไฟเพื่อสร้าง คุณค่า สารพัน
และฝันนั้น เพื่ออุ่นเอื้อ...เติมเชื้อไฟ!

				
29 มกราคม 2547 22:38 น.

ดวงตาวัน

จันทร์เพ็ญ จันทนา


แต่เช้าจนค่ำ...
พบเจอกันประจำ พร้อมแสงจ้า
ตะวันรุ่ง ตะวันแรง ตะวันลา
ตะวันล้า บ้างไหม ในบางวัน?

เธออุ่นแสง อาบส่อง ต้องชีวิต
เธอเป็นมิตร ผู้ให้ ไม่ไหวหวั่น
อยากจะรู้ในดวงตากล้าแกร่งแกร่งนั้น
เธอซ่อนฝัน อะไรไว้ บ้างไหมนะ!

นานแค่ไหน เธอได้เห็น ความเป็นอยู่
การกอบกู้ ริเริ่ม เสียสละ
การแก่งแย่ง ต่อสู้ ประทุ-ประทะ
ชัยชนะ และพ่ายแพ้ แต่ละยุค

หรือเธอเห็นจนชาชินสิ้นสงสัย
เมื่อโลกยังเป็นไป ทั้งโศก-สุข
รู้สึกร้อน-หนาวไหม ยามใครทุกข์
รู้สึกสนุกบ้างไหม ในบางที

หรือเมื่อรักเป็นตะวันอันยิ่งใหญ่
ต้องรับได้ เต็มพันธะ และหน้าที่
เป็นตะวัน ให้ได้...และให้ดี
สมศักดิ์ศรี สมภาระ แห่งตะวัน

คงเป็นความธรรมดา ประสาชีวิต
ไม่ใช่ความ ถูก-ผิด...เพียงพลิกผัน
เปลี่ยนแปลง คือคุณค่า แห่งสามัญ
ไม่ยึดตึด ไม่ตีบตัน...ไม่ตื่นตาม
......
ดวงตาแห่งความเข้าใจ...ในชีวิต
ไม่ใช่ความถูกผิด เพียงเปลี่ยนผัน
ซึมซับความธรรมดา ในสามัญ
ไม่ยึดตึด ไม่ตีบตัน...จึงเติบโต!
				
28 มกราคม 2547 22:50 น.

คำฝาก ของคนสร้างตึก

จันทร์เพ็ญ จันทนา

ในเมืองแห่งแสงสีที่สดใส
ข้าหม่นหมอง ข้าร้องไห้ ตั้งหลายหน
ในเมืองแห่งความหลายหลากมากผู้คน
ข้าอ่อนแรง ดิ้นรน...จนอ่อนใจ

คิดถึงข้าวเต็มนา ปลาเต็มน้ำ
คิดถึงคลองเคยว่ายดำ น้ำใสใส
คิดถึงบ้านที่ลาร้างมาห่างไกล
คิดถึงใครบางคนที่เฝ้าคอย

ทั้งดินทั้งฟ้า
เจ้าจะรู้ไหมว่า ข้าเหงาหงอย
ชีวิตที่เป็นอยู่ดูล่องลอย
ตัวข้าเล็กกระจ้อยร่อยอยู่กลางกรุง

อยากจะคืนภูมิลำเนา แหล่งกำเนิด
ผืนแผ่นดินถิ่นเกิด และท้องทุ่ง
กลิ่นจำปี มะลิลา หอมจรุง
ฝากความมุ่งหวังไป กับสายลม

ฝากคิดถึงแม่พ่อและน้องพี่
อยู่ทางนี้ ใจจะขาดด้วยขื่นขม
ยังไม่ลืมทุกถ้อยร้อยคำคม
สอนสั่งสมสูงค่ากว่าเงินทอง

ฝากคิดถึงเถาตำลึงที่ริมรั้ว
ทั้งสายบัวสันตะวาในนาหนอง
ฝากห่วงแม่โสนน้อยที่ริมคลอง
ฝากปกป้อง ผักบุ้งน้ำ ตามคันนา

ภาพเจ้าทุยลุยลายยังไม่ลบ
เสียงเขียดกบยังเจื้อยแจ้วให้แว่วหา
หอมควันไฟจากเตาฟืนยังไม่ซา
ยังหวังว่ายังมีหวัง.จึงยังทน

ในเมืองแห่งแสงสีที่สดใส
ข้าหม่นหมองข้าร้องไห้ตั้งหลายหน
ในเมืองแห่งความหลายหลากมากผู้คน
ข้าอ่อนแรง ดิ้นรนจนอ่อนใจ

มีภาพของพ่อแก่ และแม่เฒ่า
คอยปลอบใจให้คลายเศร้าพร้อมก้าวใหม่
ข้าฝากตัวไว้เมืองกรุงที่ศิวิไลซ์
ข้าฝากรักและห่วงใยไว้บ้านนา


				
20 มกราคม 2547 20:12 น.

หิมะ หรือ ทะเล

จันทร์เพ็ญ จันทนา

ใครใครเรียกฉันว่าน้ำ
ตอกย้ำกันมาแต่ไหน
เป็นน้ำดื่มด่ำชื่นใจ
เป็นมิตรกับใครทุกคน

เยือกเย็น เป็นไป ในชีวิต
ซึมซับ ถูกผิด เหตุผล
ทุกวัน ฉันยัง เวียนวน
เป็นน้ำของคน ทั่วไป

แต่แล้วอยู่มาวันหนึ่ง
ฉันทึ่งในความแปลกใหม่
เมื่อสภาวการณ์เปลี่ยนไป
ฉันแปรสภาพได้...ฉันโชคดี!

มองไปรอบข้าง อย่างพิศวง
ไฉนคนจึงงวยงง กับฉันนี่
เป็นหิมะ เป็นทะเล ก็ตามที
แต่คนเดิม คนนี้ ก็ฉันไง

ฉันยังใจดี กับชีวิต
เหตุไฉนจึงคิดผลักไส
ฉันไม่กร้าว กรายกร้ำาทำร้ายใคร
มองหิมะ ด้วยหัวใจ...จะรู้จริง!
				
18 มกราคม 2547 23:21 น.

ลมหายใจ...ที่ไม่แพ้

จันทร์เพ็ญ จันทนา

จะสิ้นลมหายใจ เมื่อไหร่ไม่รู้
และจะมีชีวิตอยู่...ถึงวันไหน
อยากจะรู้ แต่ไม่รู้ จะถามใคร
ถ้าสิ้นลมเมื่อไร คงได้รู้!

แต่ในวันที่หัวใจ ยังไหวเต้น
และร่างกายยังเป็น ยังคงอยู่
ปลุกสำนึก ถามสำนึก แล้วตรึกดู
เราจะมีชีวิตอยู่ ในรูปใด

ถ้ารักดี ทำดี ได้ดีตอบ
ก็คงจะยิ่งชอบ ตอบว่าใช่
ถ้ารักดี ทำดี ดีไม่ได้
ไม่เป็นไร อย่าให้ร้าย ก็แล้วกัน

ถ้าได้ร้าย...แม้ว่าไม่อยากได้รับ
จะซึมซับทำไม ให้ไหวหวั่น
โลกน่าอยู่และยังดี ทุกวี่วัน
เพราะคนดี รู้เท่าทัน...ไม่ท้อแท้

จะสิ้นลมหายใจ เมื่อไหร่ไม่รู้
ขอชื่นชู คนรักดี ที่แน่วแน่
คนที่ลมหายใจ ไม่ยอมแพ้
คนที่เป็นเพชรแท้...แน่และจริง!
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟจันทร์เพ็ญ จันทนา
Lovings  จันทร์เพ็ญ จันทนา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟจันทร์เพ็ญ จันทนา
Lovings  จันทร์เพ็ญ จันทนา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟจันทร์เพ็ญ จันทนา
Lovings  จันทร์เพ็ญ จันทนา เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงจันทร์เพ็ญ จันทนา