16 กรกฎาคม 2544 03:24 น.
จันทร์เพ็ญ จันทนา
ใจสี่ห้อง หน้าที่... จอสี่เหลี่ยม
ต้องตระเตรียม ต้องจัดวาง ต้องสร้างสรรค์
ทำและทำ อย่างนี้ ทุกวี่วัน
จึงเหนื่อยบ้าง เหมือนกัน ในวันนี้
คิดถึง...ทะเล
อยากไปฮา ไปเฮ อย่างเต็มที่
ถึงจะไปเหว่ว้าบ้างก็ยังดี
ทะเลยังรอเรานี้หรือเปล่านะ
ถ้าว่างเมื่อไร
จะแวะไปให้หายคิดถึง...จริงจริงจ้ะ
เท้าสัมผัสพื้นทราย...ไร้ภาระ
ใจสัมผัสชัยชนะ...แห่งเสรี
ฟ้าสวยทะเลงาม
ลมทะเลไยพัดตาม...มาถึงนี่
มาทวงถาม เมื่อไหร่หนา...เวลาจะมี
ชวนไปแต่งบทกวี...ที่ทะเล!
12 กรกฎาคม 2544 22:21 น.
จันทร์เพ็ญ จันทนา
รู้ว่าเธออาจหน่ายในหลายสิ่ง
จนอยากทิ้งอยากหนี...ไปที่อื่น
อยากบอกลาประสบการณ์วันและคืน
อยากบอกลาความหวานชื่น ในวันวาน
อยากบอกลาอุดมการณ์เคยฝันใฝ่
แล้วไปสร้างฝันใหม่ที่แสนหวาน
อยากบอกลาความท้อ ทรมาน
ที่ไม่สนองความต้องการได้เพียงพอ
เธอเป็นเพชรที่มีค่ามหาศาล
ใครใครก็ต้องการ ก็ร้องขอ
แต่เธอจ๋า อยากเพียงรั้ง ให้เธอรอ
อย่าเพิ่งทุกข์ อย่าเพิ่งท้อ ในวันนี้
ย้อนมองวันวาน นั้นสักนิด
วันที่เริ่ม ชีวิต กับที่นี่
จากใจนิด มือน้อย ค่อยค่อยมี
สร้างเป็นสิ่งดีดี ได้เพราะใคร
ก็เพราะไฟเพราะฝันอันเปี่ยมค่า
ก็เพราะรักศรัทธาที่ยิ่งใหญ่
ฝันตรงนี้ จะถูกสร้าง ได้อย่างไร
หากพรุ่งนี้ และต่อไป ไม่มีเธอ?
ก็เพราะไฟเพราะฝันอันเปี่ยมค่า
ก็เพราะรักศรัทธาที่ยิ่งใหญ่
ฝันตรงนี้จะถูกสร้าง อย่างแกร่งไกร
หากพรุ่งนี้ และต่อไป ... ยังมีเธอ
8 กรกฎาคม 2544 06:54 น.
จันทร์เพ็ญ จันทนา
"เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง...ซึ่งยิ่งใหญ่
เป็นหัวใจ เป็นความรัก อันศักดิ์สิทธิ์
เป็นชีวิต ที่สูงค่า กว่าชีวิต
เป็นมิ่งมิตร เป็นสายใย ไม่จืดจาง
ไม่จืดจาง ไม่ลางเลือน ในความรัก
ทั้งแน่นหนัก ทั้งจริงใจ ไม่เคยห่าง
ตราบชั่วดิน สิ้นฟ้า ชีวาวาง
ลูกจะสร้าง สิ่งดีแท้...อย่างแม่ทำ"
8 กรกฎาคม 2544 06:43 น.
จันทร์เพ็ญ จันทนา
หลายครั้ง
ชีวิตอยู่กับความหลัง ในวันเก่า
อยู่กับภาพ ในใจ ในวัยเยาว์
เป็นม่านเงา อีกมิติ ของชีวิต
วันนั้น เมื่อทำอะไร
อาจจะไม่เข้าใจ ว่าถูก-ผิด
แต่วันนี้ เมื่อไตร่ตรอง มองและคิด
เคารพทุกความถูก-ผิดที่ผ่านมา
เป็นความจริง เป็นความจำ ถึงความใส
แม้จะไม่ยิ่งใหญ่ แต่มีค่า
ผ่านความหมาย วันวาน ผ่านเวลา
จึงติดตรา และติดตรึง ถึงวันนี้
คิดถึงวันวาน
ที่วิ่งเล่นและเบิกบาน อย่างเต็มที่
จากสนามกว้างสะอาด อากาศดีดี
แต่วันนี้ ต้องวิ่งตามสนามชีวิต
8 กรกฎาคม 2544 06:39 น.
จันทร์เพ็ญ จันทนา
เรียกว่าบังเอิญ...ก็คงใช่
กับโลกที่กว้างใหญ่เหลือที่
กับมนุษย์ตัวเล็กขนาดนี้
กลับพอดิบพอดี...มาพบกัน
จะว่าพรหมลิขิต...ก็อาจเชื่อ
เพราะเหนือกว่าความคาดฝัน
คนมากมาย แต่ทำไม เราพบกัน?
ยิ่งกว่านั้น ยังร่วมเดิน เส้นทางเดียว
จะว่าโชคชะตา....ก็น่าคิด
มหัศจรรย์ของชีวิต ติด-ยึด-เหนี่ยว
แต่ละก้าว รวมเป็นก้าว ที่กลมเกลียว
แต่ละเดี่ยว มาร่วมเด่น เป็นวงกลม
เป็นวงกลมที่กลมเกลี้ยง หากคมกล้า
เป็นความหมาย ของเวลา ที่เพาะบ่ม
เป็นความงาม ของไมตรี ที่ชื่นชม
ยังนิยม ยังคงเชื่อ ในเยื่อใย
แล้ววาระการจากลา...ก็มาถึง
เมื่อ ส่วนหนึ่ง" ถึงเวลาของวงใหม่
รับรู้ค่า และครรลอง ต้องเป็นไป
ทั้งเสียใจ และดีใจ เคล้าคละกัน
เสียใจกับเวลาต้องลาจาก
ประมวลภาพ การพลัดพราก แล้วไหวหวั่น
ดีใจกับวงใหม่ อีกวงนั้น
ว่าจะมีส่วนสำคัญ ไปเพิ่มเติม
บอกลาส่วนของวงกลม ที่เติบกล้า
ขอบคุณทุกช่วงเวลา นับแต่เริ่ม
จะวันนี้ วันไหน...ให้เหมือนเดิม
ย้ำและเสริม ยังเต็มที่... เป็นพี่น้อง"