30 กันยายน 2544 10:25 น.
จันทร์เพ็ญ จันทนา
คน ตึก คน
ต่ำ สูงเสียดฟ้า เดินดิน
เลือดเนื้อ และสิ่งปลูกสร้าง
ตึกสูง
ใจสับสน
มากมายผู้คน
แต่ดูเหมือนว่าไม่มี
ตึกสูง
ดูหรูหรา
อะไรอะไรก็ดูตรึงตรา
แต่ดูเหมือนว่าไม่มี
ตึกสูง
ไหนล่ะคนอยู่ใกล้
ตึกยิ่งสูงก็ยิ่งไกล
ดูเหมือนใกล้ แต่ไม่มี
ตึกสูง
ใจอยากจะสูงตาม
บอกใจให้พยายาม
ให้สูงตามอย่างพอดี
ตึก คน ตึก คน
ไม่มี ชีวิต ไม่มี ชีวิต มี
ทุกซอก ทุกซอย
ชีวิตน้อยน้อย
ยังดิ้นรน ในตึกนี้
30 กันยายน 2544 10:13 น.
จันทร์เพ็ญ จันทนา
สายน้ำ หลั่งไหล
วันวานผ่านไป จบสิ้น
ดูดกลืนผืนฟ้า แผ่นดิน
สูญกลิ่น ไอรัก
เหลือรอย สับสน
ทุกข์ทนช้ำทรวงหน่วงหนัก
มีชีวิตเอาไว้เพื่อให้รัก
ก็ยากนัก เข้าใจ
หากสวรรค์มีตา
โปรดจงฟังข้าได้ไหม
เสียงหัวเราะผู้สมหวังดังไกล
ข้าร้องไห้ใครยิน
เกินหยั่ง เข้าถึง
รู้ซึ้งซึ่งรักทั้งสิ้น
ดื่มสุรา ขอดน้ำตากิน
ไหลรินหลั่งลง
ตัดสายน้ำ น้ำยิ่งไหล
ครั้นเมื่อตัดใจ ยิ่งหลง
เส้นทางกำหนดคดตรง
ปิดปลงตามกัน
โลกยังวุ่นวาย
ใยยังหมายคืนสู่สวรรค์
หยุดในความเป็นนิรันดร์
อ้อมอกฝันอมตะ ชั่วฟ้าดิน
4 กันยายน 2544 04:56 น.
จันทร์เพ็ญ จันทนา
หนึ่งความฝัน หนึ่งใจรัก จากเมืองเหนือ
สู่เพลงเหงื่อ เนื้องาน อันล้ำค่า
ปลุกชีวิต คืนวิญญาณ แห่งล้านนา
ด้วยเนื้อหา แทรกเจือ เนื้อชีวิต
เสียงสะล้อซอซึง จึงซึมซ่าน
ผสมผสาน โฟล์คซอง ประสาทประสิทธิ์
ให้คำเมือง คำม่วน ควรค่าคิด
สะท้อนทิศ สายธาร ตำนานไทย
คิดถึง "สาวมอเตอร์ไซค์" "สาวโรงบ่ม"
ทั้ง"อุ๊ยคำ" เฉียบคม..."สาวเชียงใหม่"
"ลุงต๋าคำ" ขี่"สามล้อ"มารอใคร
"มิดะ" "เจ้าดวงดอกไม้" "น้อยไจยา"
ทั้ง"แม่ค้าปลาจ่อม" ที่ลาจาก
"ผักกาดจอ" คงคิดมาก คะนึงหา
"ของกิ๋นบ้านเฮา" ซบเซาซา
"พี่สาวครับ" พี่ชายข้า...อยู่หนใด
เขาสืบทอดภาพวิถีชีวิตถิ่น
แม้วันนี้ เขาสานศิลป์ ดินแดนไหน
ชื่อ"จรัล" อันแปลว่า "เดินไป"
ยังจรัส จรุงใจ ให้จดจาร
"มโนเพ็ชร" อันหมายว่าใจเพชร
ยังดีเด็ด ด้วยศรัทธา มหาศาล
"รางวัลแด่คนช่างฝัน" ยังฝันนาน
พร้อมขับขาน ก้องอยู่ใน...หัวใจชน
2 กันยายน 2544 11:40 น.
จันทร์เพ็ญ จันทนา
สังคมล้วน ต้องการ คนที่กล้า
คนฟันฝ่า คนสรรค์สร้าง ทางใหม่ใหม่
เพียง"ก้าวแรก" ที่เราเริ่ม ประเดิมไป
อาจยิ่งใหญ่ ให้ประจักษ์ ในสักวัน
เหมือนรอยเท้า บนพื้นทราย ให้จำจด
จะปรากฏ ตามที่ใจ ใฝ่และฝัน
แม้น้ำซัด รอยอาจจาง บ้างเหมือนกัน
แต่รอยนั้น จะตราไว้...ในใจชน
25 สิงหาคม 2544 10:40 น.
จันทร์เพ็ญ จันทนา
ภุชงคประยาตฉันท์ 12
อยุธย์ยิ่งชะลอหล้า กระจ่างฟ้าอนรรฆนันท์
สลายราบริปูพลัน ทะลายไทย พิลาปไทย
เพราะเราเองมิร่วมจิต สมานมิตรสมัครใจ
ธำรงชาติพิทักษ์ชัย อธิปัตย์ประเทศปรวน
กาพย์สุรางคณางค์ 28
สู่ยุคกรุงแก้ว ตำนานขานแล้ว
เรียนรู้คู่ควร
ไร้รักล่มชาติ พินาศทั้งมวล
รักชาติเชิดชวน คืนสามัคคี
โคลงสามสุภาพ
เสียกรุงสองครั้งผ่าน เราลูกหลานรุ่นนี้
อย่าปล่อยชาติป่นปี้ ร่วมกู้ใจกรุง
ฝันเห็นขอบฟ้าคราม งดงามเรืองเรื่อรุ้ง
ขจรเกียรติเกริกชื่อฟุ้ง เฟื่องด้าวแดนไทย
กลอนแปดสุภาพ
พลังแห่งสามัคคีที่สามารถ
จักเชื่อมชาติชูชนจนเติบใหญ่
อีกช่วยหมุนกงล้ออธิปไตย
ให้ก้าวไปสู่เบื้องหน้า สง่างาม
จากหนึ่งมือสู่มือกระชับมั่น
สานสัมพันธ์เรืองรองเป็นสองสาม
สู่ร้อยมือร้อยใจไทยทั่วคาม
เพื่อยังความยิ่งใหญ่...ให้แผ่นดิน