29 มิถุนายน 2549 14:34 น.
จันทร์เพ็ญ จันทนา
อาบน้ำ-แต่งตัวเสร็จ แล้วหรือจ๊ะ?
งั้นมามะ ดูของฝาก แม่เตรียมให้
นานนาน มาบ้านที แม่ดีใจ
เลยเตรียมของยกใหญ่ให้แก้วตา
มะม่วงเปรี้ยว มะม่วงสุก มะม่วงมัน
แม่ใส่ถุงรวมกันสองโลกว่า
มะม่วงเราปลอดภัย ไม่ฉีดยา
เอาไว้กิน ยามเหนื่อยล้า จากทำงาน
น้ำพริกเผา ต้มยำ เพิ่งตำเสร็จ
ทั้งแกงเผ็ด แกงส้ม ผสมผสาน
ใส่ตู้เย็น เอาไว้ กินได้นาน
ได้ลองลิ้มขี้คร้าน จะติดใจ
ยามจะกิน ก็ง่ายง่าย ใส่เนื้อ-ผัก
น้ำแกงเดือดพลั่กพลั่กแล้วค่อยใส่
ซดร้อนร้อน คล่องคอ อย่าบอกใคร
นะลูกนะ กินได้ ตั้งหลายมื้อ
กล้วยน้ำว้า ก็มี หวีใหญ่ใหญ่
อย่าอายเลย นะทรามวัย ที่จะถือ
พริกขี้หนูสดใหม่สองกำมือ
เรามีของ ไม่ต้องซื้อ เขาแพงแพง
นี่ขนุนจำปาดะเนื้อดี๊ดี
อาจจะหนักไปหน่อยนี่ แม่เฉือนแบ่ง
มะละกอแขกดำ เนื้อแด๊งแดง
แม่จัดแจงใส่กระเป๋า เจ้าแล้วนะ
อาจจะถือพะรุงพะรังบ้างนิดหน่อย
ถึงกรุงเทพฯ ก็อร่อย ทั้งนั้นหละ
ทั้งอาหาร เสื้อผ้า สัมภาระ
ถือดีดีนะลูกนะ ให้ระวัง
ทั้งรถราก็มากมายอย่าประมาท
ลูกพลั้งพลาด แม่คงช้ำ น้ำตาหลั่ง
รักษาเนื้อ รักษาตัว สะตุ้งสะตังค์
แม่นี้อยู่ข้างหลัง จะอวยชัย
จะสวดมนต์ภาวนา จิตแน่วแน่
ให้ลูกแม่ อนาคต สุขสดใส
ให้แคล้วคลาดโดยตลอด ให้ปลอดภัย
ไม่ว่าอยู่ที่ไหน ให้คนรัก
คุณธรรมความดีเป็นที่ยึด
ความประพฤติทั้งหลายให้แน่นหนัก
อยู่กรุงเทพฯ ไกลแท้ แม่ห่วงนัก
ไกลจากอกแม่ปกปักยากเต็มที
นี่หลวงพ่อองค์น้อย ห้อยคอเถิด
ชีวิตลูกจะประเสริฐสมศักดิ์ศรี
เป็นคนดี นะลูกนะ เป็นคนดี
ทั้งกายใจ ไร้ราคี พระคุ้มครอง
เป็นคนดี นะลูกนะ เป็นคนดี
จำเริญจำเริญ ขวัญชีวีแม่คุ้มครอง
29 มิถุนายน 2549 13:13 น.
จันทร์เพ็ญ จันทนา
ฝนตกทุกวัน
ฉันก็ยังตื่นตระหนก
ฟ้าร้อง ฝนตก
สะท้อนอก สะท้านใจ
ชอบฝน...กลัวเสียงฟ้า
น่าแปลกไปไหม
เกลียดตัว กินไข่
เกลียดปลาไหล กินน้ำแกง
ชอบชีวิตที่เดินไป
แบบไร้การขันแข่ง
เกลียดการยื้อแย่ง
ขอแข่งแค่ตัวเอง
เลือกเป็นคนดี
ที่เป็นคนเก่ง
ไม่เด่น ไม่เบ่ง
ธรรมดา ธรรมดา
.......................
คงจะโชคดี
หากแม้นเลือกได้
ดี-งาม ตามใจ
ธรรมดา ธรรมดา
23 กรกฎาคม 2547 23:22 น.
จันทร์เพ็ญ จันทนา
ชีวิตที่ว้างว้าง อยู่อย่างนี้
ในหลายครั้ง และบางที...ฉันร้องไห้
ไม่รู้ว่า จะก้าวย่าง ไปทางใด
เงียบเชียบในหัวใจ ไร้ชีวิต!
อ่อนแรง อ่อนล้า จนน่ากลัว
หากภาระ ที่พันพัว ยังตามติด
ตั้งคำถาม กับความหมาย คำว่า มิตร
แล้วความเหงาก็สะกิด...ฉันร้องไห้
13 กรกฎาคม 2547 00:13 น.
จันทร์เพ็ญ จันทนา
หลายครั้ง...
ชีวิตอยู่กับความหลัง ในวันเก่า
อยู่กับภาพ ในใจ ในวัยเยาว์
เป็นม่านเงา อีกมิติ ของชีวิต
วันนั้น เมื่อทำอะไร
อาจจะไม่เข้าใจว่าถูกผิด
แต่วันนี้ เมื่อไตร่ตรอง มองและคิด
เคารพทุก ความถูกผิด ที่ผ่านมา
เป็นความจริง ความจำ ถึงความใส
แม้จะไม่ยิ่งใหญ่ แต่มีค่า
ผ่านความหมายวันวาน ผ่านเวลา
จึงติดตรา และติดตรึง ถึงวันนี้
คิดถึงวันวาน...
ที่วิ่งเล่นเบิกบาน อย่างเต็มที่
จากสนามกว้างสะอาด อากาศดีดี
แต่วันนี้ต้องวิ่งตาม สนามชีวิต
12 กรกฎาคม 2547 23:35 น.
จันทร์เพ็ญ จันทนา
เคลื่อนไหวแต่ละที มีชีวิต
ประจงแต่ง วิจิตร งามสง่า
หวานหู หวานคำ จำนรรจา
ท่วงทำนองลีลา น่ายล-ยิน
เป็นชีวิต ที่เกิด มาเชิดหุ่น
มาเชิดชู ค้ำจุน คุณค่าศิลป์
ให้คนเรียกขานว่า ศิลปิน
จรรโลงจินต์ เสริมส่ง จรรโลงใจ
มหรสพ แห่งชีวิต ประสิทธิ์ประสาท
เคยประกาศ ศักดิ์ศรี ที่ยิ่งใหญ่
สืบทอด สายธาร วิญญาณไทย
หวังสืบเนื่องต่อไป อีกเนานาน
ย่างขยับ ขับขาน ผ่านสมัย
ก็หวังว่า ปัญญาไทย ยังส่งผ่าน
ออกโรงแต่ละหน คนต้องการ
ยิ่งฝึกฝน จนเชี่ยวชาญ ชำนาญมือ
มีชีวิต ที่ มีหวัง อยู่หลังหุ่น
เกียรติ-ศรัทธา ยังเป็นทุน ที่ยึดถือ
โลกจะปรับ คนจะเปลี่ยน ยังฝึกปรือ
เพื่อสร้างสื่อ ละครเล็ก เอกลักษณ์
แต่ความจริงนอกโรง มักโหดร้าย
หุ่นรำร่าย คล้ายเป็นสุข คนทุกข์หนัก
ท่าอ่อนช้อย แต่ใจช้ำ ตรากตรำนัก
เมื่อคนเขา ไม่รักไม่อยากดู!
ศิลป วิถีไทย เคยได้ปลื้ม
เดี๋ยวนี้คนเขาลืม น่าอดสู
หรือถึงคราวโรงชีวิต ปิดประตู
เพราะว่าการดำรงอยู่ ช่างยากเย็น
สะพานศิลป์ที่สร้างสรรค์ มันสั่นไหว
สั่นไปถึงหัวใจ ในยุคเข็ญ
ความแน่วแน่ แพ้กรรม ความจำเป็น
ต้องทนเห็น หุ่นเดียวดาย ในตู้โชว์
อนุรักษ์ ชีวิตไว้ในตู้โชว์!
ป.ล. ดูสัมภาษณ์ทางทีวี ทราบว่าคณะหุ่นละครเล็ก โจ-หลุยส์ ของครูสาคร ยังเขียวสด (ที่สืบทอดมานับร้อยปี และมีเพียงคณะเดียวในประเทศไทย ปัจจุบันเปิดแสดงที่สวนลุมไนท์บาซาร์) อาจต้องถึงเวลาปิดตัวลง ในระยะเวลา 2 เดือนนี้...สะท้อนใจบอกไม่ถูก