16 กันยายน 2551 18:56 น.
จักรพรรดิหยก
เพชรน้ำค้างกลางไพรไล้พฤกษา
ทวยเทวาประโคมศรีดนตรีศิลป์
อัคระสกุณาถลาบิน
นทีรินรอยร่องยลท้องธาร
สุรเสียงเรียงร้อยล่องลอยล้วน
พนายวลทาบไท้ไศลสาร
ดุสิตเสกผ่านภิภพบรรจบกาล
คล้องกังวาลหิรัญศรีมณีไพร
16 กันยายน 2551 16:47 น.
จักรพรรดิหยก
บรรพชนเฝ้ามองแล้วร้องให้
ลูกหลานไทยแบ่งข้างช่างอดสู
ตีกันเองฆ่ากันเองมิเคยดู
ไทยทั้งนั้นญาติโกโหติกา
คนรุ่นก่อนเขารักษาไว้อย่างไร
ก็เพื่อไทยเป็นไทในใต้หล้า
อย่าให้เขาตายเปล่าที่แล้วมา
บรรพบุรุษผู้กล้าเขาจ้องมอง
อายบ้างใหมหลานไทยของทวดปู่
สามัคคีตรองดูเถิดชนผอง
ดาบฟาดฟันผู้รุกไทยเป็นก่ายกอง
แม้นตัวต้องวายชนม์มิพ้นภัย
มาวันนี้หากไทยไม่สมาน
คงถึงวันโศกศัลย์วันสมัย
ทุกตัวขุนข้าทัพคงอาลัย
นี้หรือไรบ้านเมืองอันเรืองรอง
14 กันยายน 2551 17:09 น.
จักรพรรดิหยก
สุริโยโย้เย้หักเหแสง
เปลี่ยนจากแดงแสงโสมส่องสาดสาย
ลาลับล่วงสนธยาฟ้าพร่างพราย
มุ่งสู่ใต้ท้องนทีที่รุ้งราง
ส่งโลกหล้าให้จันทราได้โอบกอด
สองมือสอดแลประคองตราบฟ้าสาง
ดวงดารากล่มเกลามิเหงาจาง
วิถีทางจักรวาลอันงดงาม
13 กันยายน 2551 20:38 น.
จักรพรรดิหยก
โลหิตหลั่งโลกา ไหลช้าช้ารอความตาย
พายุกระสุนร้าย กระหน่ำร่างวีรชน
ยิงเขาเพื่ออะไร ตอบได้ใหมขอสักหน
สิทธินั้นเพื่อมวลชน หรือสะใจจึงลงมือ
วีรชนไม่ใช่หมา จึ่งเข่นฆ่ามิหารือ
ชีวิตหมดแรงยื้อ เขาสิ้นลมมิสมควร
ด่าวดิ้นมิยินดี บ้านเมืองนี้เลยเรรวน
น้ำตาปนเลือดล้วน ทาบผองไทยใครรับกรรม
13 กันยายน 2551 18:15 น.
จักรพรรดิหยก
เป็นปักษารือมัจฉาในวารี
เป็นอินทรีย์เทวาหรืออื่นใหน
เป็นสิ่งดีเป็นดีดีก็เป็นไป
โลกาไซร้ซ้องแซ่แด่ตัวตน
เลือกจะเป็นรักจะเป็นใครห้ามได้
ทางของใครช่างเขาอย่าได้สน
ไม่ทำดีไม่ทำชั่วก็พอทน
แต่ถ้าชั่วทั้งตัวตนคงบรรลัย