23 มกราคม 2552 19:20 น.
จักรพรรดิหยก
แขวะไป แขวะมา สภาไทย
แฉพุง แฉลำไส้ มีกี่ขด
ย้ายยัก หักงอ ทรยศ
มารยา โป้ปด หมดราคา
มาโกง มากิน ผืนดินนี้
ช่างด้าน สิ้นดี ยังมีหน้า
งีบหลับ พับนก ตกสภา
เป็นหุ่น เป็นกา เ ขาชักใย
กี่ปี กี่ชาติ มิอาจเปลี่ยน
พวกบ้า เพี้ยนเพี้ยน มาเวียนว่าย
ในระบอบ กรอบเขื่อง การเมืองไทย
ออกมา เข้าไปใหม่ ไทยรักกัน
ยิ่งคิด ยิ่งเบื่อ เหมือนเถือหนัง
เอาเกลือ ยัดหยั่ง ยังสุขสันต์
การเมือง เรื่องเน่า กระเด้ากัน
พวกบ้า พัลวัน ฟันกันเอง
23 มกราคม 2552 18:31 น.
จักรพรรดิหยก
ขี้กลัว ตัวขลาด ขาดความกล้า
ไม่สู้ อีกสักตา ก็ทำได้
ไม่อายหมา มองตา ก็ตามใจ
ทอดถอน นอนหน่าย ไม่ยอมทำ
กล้ายืน กล้าล้ม ขื่นขมปาก
ทนสู้ ลำบาก เช้าจรดค่ำ
พึ่งดวง ห่วงสบาย ไส้ระกำ
ตับบอด ตลอดคำ มิจำเริญ
17 มกราคม 2552 01:54 น.
จักรพรรดิหยก
ฉันยืน ฝืนทน บนทางนี้
ทางที่ ตัวฉัน เลือกไม่ได้
ฉันทำ ฉันพลาด มามากมาย
สุดท้าย มิเหลือ สักสิ่งอัน
ฉันเหงา ฉันเหงา มิเบานัก
ไม่มี ใครรัก จริงทั้งนั้น
ยิ้มนอก ชอกใน แสนสากรรจ์
ที่เห็น เพียงฉัน มาลวงตา
13 มกราคม 2552 17:16 น.
จักรพรรดิหยก
กอดอก หลับตา พาไปฝัง
ผืนเสื่อ เนื้อหนัง ผุสลาย
ผ้าขาว ไร้ริม ชิมความตาย
ดินกลบ จบวัย ในโลกา
คนเอ๋ย ใยเลย เจ้าบอบบาง
เนื้อหุ้ม ซี่ก้าง ทั้งซ้ายขวา
เนื้อเน่า ผมเผ้า ในเงาตา
หมดงาม ตามประสา มิเหลือดี
เหลือแต่ เวรกรรม ที่ทำไว้
ดีชั่ว รู้แก่ใจ ชดใช้หนี้
จารึก บันทึก ที่พึงมี
ด้านชั่ว ด้านดีดี ที่ผ่านมา
รูปกาย สิ้นไป ไม่จีรัง
ความดี อยู่ยั้ง นานยิ่งกว่า
คนเอ๋ย มิคุ้มเลย ถ้าเกิดมา
ทำชั่ว สาปด่า ว่าควรตาย
5 มกราคม 2552 11:25 น.
จักรพรรดิหยก
รือฉัน เป็นเช่น แมลงเม่า
แสงสี ทอดเงา ที่ตรงนั้น
บินไป เล่นไฟ แต่โดยพลัน
ตัวฉัน เลยมอด มรณา
อันสุรา เมรัย ในกองฟอน
เหมือนฟาง สุมซ้อน มิรอช้า
ควันฟุ้ง ยุ่งยับ ดับชีวา
สำลัก โรยรา มาช่วยที
ฉันมา ค้นหา ความสำราญ
ดื่มกิน มิเนานาน ที่มุมนี้
ลางใด เกิดอะไร ฉันไม่มี
ไม่รู้ ว่าวันนี้ จะมีภัย
กรีดร้อง โหยหวน ล้วนลาลับ
แม้นดับ คืนชีพมา หาได้ไม่
โศกา นาฏกรรม ที่นำไป
โทษใคร ได้อะไร ใครรับกรรม
ขอให้ทุกดวงวิญญาณจงพักผ่อนเถิด สู่สุขคตินิรันดร์ในภพใหม่ตลอดกาล