30 ตุลาคม 2553 20:44 น.
จอมปราชญ์แดนอาคเนย์
ลมพัดฉ่ำระกำไกลถึงใต้หล้า
เหมือนถึงคราลาไกลละให้โหย
ค่อนคืนนั้นหวั่นนักรักร่วงโรย
ผกาโปรย...หล่นละอองพ้องก้านใบ
เจ้าหว่านรักหว่านโปรยให้โหยหา
เหมือนบัญชาให้เคลิ้มลอยคล้อยไฉน
มนต์รักเอยเผยร่างกลางฤทัย
พอครวญใฝ่....ก็กลับลอยคล้อยตามลม
หอมเจ้าชวนหวนชื่นระรื่นนัก
พลางหลงภักดิ์รำพันสรรเสกสม
ผลิดอกไว้เพียงคืนยื่นระทม
เจ้าเถลิงลมไกลกู่สู่เวหา
รักบานเบ่งที่ใจดั่งไฟสุม
สองสาวหนุ่มสวรรค์สร้างบางเสน่หา
กุมแขนเกี่ยวเหนี่ยวนั้นมั่นอุรา
สวรรค์บัญชาคืนนิทรา...เจ้าลาไกล
....แบบว่า
ภาพจาก...http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/920/3920/images/win.jpg
4 ตุลาคม 2553 10:41 น.
จอมปราชญ์แดนอาคเนย์
สายลมแห่งอาคเนย์ช่างเหหัก
วกวนนักเกลียวกระแสแลสุดสาย
ล่อหลอกให้คนใจหินสิ้นเชิงชาย
ยิ่งบรรยายคล้ายระทมผสมสุนทรีย์
นั่งเดียวดายทอดอารมณ์ดมกลิ่นทุ่ง
ให้หอมคลุ้งกลิ่นน้ำนาพาสุขขี
เมฆลอยต่ำมาโอบไอไล้อินทรีย์
ใจเหลือที่จะเถลิงลมชมทุ่งทอง
โอ้พระพายใยปลิวพัดสะบัดล่อ
ลู่ลมคลอสะทือนนักจมปลักหมอง
มาเร่งเร้าให้หวามวาบกำซาบครอง
แล้วลอยล่องลมอาลัยไปลับตา
ทุ่งกุลาครานี้มีรอยช้ำ
พระพายทำให้หลงเพลินเกินไขว่หา
ลมกระซิบเบาเบาเร้าวิญญา
เราเจียนบ้า..โอ้พระพายใย..ทรมาน
.อิอิ...แบบว่า
(ภาพจาก http://fwmail.teenee.com/etc/img1/m232300.jpg)
29 กรกฎาคม 2553 16:57 น.
จอมปราชญ์แดนอาคเนย์
เห็นดาราจ้าเฉิดฉายประกายกล้า
ละมุลตา ณ ยามนี้ที่เฉิดฉันท์
สายลมเร้าเคล้าโชยพัดสะบัดพลัน
พริบตานั้น...เผลอรำพันฉันรักเธอ
ถอดหัวใจให้ลอยล่องสู่ท้องฟ้า
เห็นเมฆาลอยแผ่วเบาเฝ้าพร่ำเพ้อ
เหม่อมองจันทร์พลันนิมิตติดภาพเธอ
ชวนละเมอเหมือนกระต่ายหมายภิรมย์
มองลงมาเห็นธาราถูกคลื่นซัด
มัจฉาหัดล้อคลื่นเล่นเย็นสุขสม
ว่ายกรีดกรายแสนสุขใจในอารมณ์
เนิ่นนานนมอยู่อย่างนั้นจวบวันลา
ผ่านสู่ไพรแดนดงพงพณาสี
ถ้วนราตรีมีหิงห้อยร้อยพฤกษา
เกี้ยวพรรณไม้ด้วยแสงไฟอาบนัยน์ตา
พลันทิวา ณ ครานั้นสวรรค์รำไร
...แบบว่า ไม่รู้จะเข้ากับชื่อกลอนหรือเปล่าก็ไมรู้
ภาพจาก...http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/613/4613/blog_entry1/blog/2007-07-02/comment/65018_images/30.jpg
9 มิถุนายน 2553 17:11 น.
จอมปราชญ์แดนอาคเนย์
เพ็ญพโยมโลมดินสิ้นศรีศักดิ์
เสมือนภักดิ์ผ่อนบำเรอละเมอถึง
บูรพานั่น...จันทร์หงายคล้ายรำพึง
สาดแสงถึงแดนประจิมพริ้มสายตา
คลื่นลมแรงปะทะผิวสยิวนัก
สุดจะหักใจหลงปลงสเน่หา
หนึ่งสาวงามข้ามเขตรักปักมนตรา
ทอดสายตาเป็นสะพานสานไมตรี
โอ้ฝั่งของไม่เป็นรองผองมนต์เสน่ห์
ซ้อนสนเท่ห์ในเล่ห์รักลุ่มสักขี
ริมท่าน้ำ ณ ยามดึกนึกเปลี่ยวฤดี
เพียงสายนทีกับสองเราเคล้ากายา
จวบราตรีพี่สะท้านกาลอุษาสาง
เห็นแสงจางส่องนทีพี่หลงผวา
แอบสะอื้นกลืนระทมข่มน้ำตา
ต้องร้างลาน้องคนงามยามรุ่งอรุณ
โขงพยาน..สานใจไม่สิ้นสูญ
ศรีโคตรบูรณ์หน่อเนื้อคอยเกื้อหนุน
ให้รักงามท่ามอุษาคเนย์เห่การุณ
อ่อนละมุลแม้จำพรากจากแสนไกล
.แบบว่า....ยิ่งกว่าจินตนาการอีก...อิอิ
6 มิถุนายน 2553 08:45 น.
จอมปราชญ์แดนอาคเนย์
ลืมเสียแล้ว...ไฉนเลยที่เคยพร่ำ
ว่าดื่มด่ำกับคำหวานประมาณไหน
ลืมเสียหมดทิ้งรันทดไว้ภายใน
ลืมหรือไรที่อาวรณ์และอ่อนโยน
ลืมคิมมันต์เสียแล้วแก้วตาพี่
ลืมสายนทีที่รินไหลถิ่นไกลโพ้น
ลืมกลิ่นสาปท้องทุ่งปรุงกลิ่นโคลน
เคยตะโกนก้องเนินเพลินภิรมย์
ดอกลูกลาวคราวนี้มีแต่เฉา
มีแต่เหงาราวประดามาทับถม
จากเหลืองทองหมองดินสิ้นอารมณ์
เจ้าลอยลมลับไป..ไกลท้องนา
ลืมเสียเถิด..ผืนดินถิ่นแห่งนี้
ลืมดนตรีสีซอคลอเถิดสา
ลืมผ้าซิ่นโฮลสไบไกลกายา
ลืมเถิดหน้า..ของชายขแมร์...แม่จงลืม...อิอิ
...แบบว่า...โทษทีครับ...ที่จองนานไปหน่อย