14 กุมภาพันธ์ 2553 18:31 น.
จอมปราชญ์แดนอาคเนย์
เมื่อรักแล้ว..เหมือนใจได้ซาบซ่าน
ได้รสหวานลิ้มลองต้องใจหวัง
ใจโผผินชินชมถมรวงรัง
ชีพประทังด้วยรักพำนักเนาว์
ความภักดีมีให้ไม่คลายจิต
ไม่อาจคิดแหนงหน่ายไกลจากเขา
สุดที่ถลำจำหลักปักทรวงเรา
นั่งเพียรเฝ้าหลงเพ้อละเมอถึง
เช่นกุหลาบอาบช่อรอเด็ดดอก
กลีบสยายออกอ่อนแรงมิแข็งขึง
ถึงคราอวดเบ่งบานหรือหาญตึง
เพราะก้นบึ้งปราถนาโหยหารัก
ก็เมื่อใจใคร่สมัครต่อรักแล้ว
คงมิแคล้วเทใจให้ตวงตัก
รักปริ่มเปี่ยมเทียมสมุทรสุดใจวัก
สู่ห้วงรักห้วงคนึงตรึงอุรา
อย่าปล่อยให้ใจรักจมปลักเก้อ
อย่าปล่อยเพ้อหลงรอท้อหนักหนา
เมื่อรักแล้วอย่าปล่อยคว้างร้างโรยรา
รู้เถิดหนาว่าความรัก..มักจำเป็น
...แบบว่า..
10 กุมภาพันธ์ 2553 20:37 น.
จอมปราชญ์แดนอาคเนย์
แม้นผ่านฟ้ามานานจนกาลเห็น
รอยรูปเร้นรุมเร้าเฝ้าโหยหา
ความว่างเปล่าเนาว์เนิ่นสะเทิ้นพา
อ่อนอุราครากาล..เจ้าผ่านเลย
ความร่มเย็นเช่นแดนแคว้นความหลัง
เฝ้าเหนี่ยวรั้งดวงใจให้อยากเผย
โอ้กลกาลช่างนานเนิ่นเกินกว่าเคย
เพียงภิเปรยเอ่ยถึงยังซึ้งนาน
ไม่ได้มีนัยยะประพันธ์เรื่อง
เพียงฝันเฟื่องชั่ววันบรรเทิงสาส์น
ได้ปลอบปลุกชีวาพาเบิกบาน
ก็สนานสนุกแล้วผ่องแผ้วจินต์
เพียง...อยากถลำใจไกลนุชสุดขอบฟ้า
ไกลจากหน้าห่างใกลไม่ถวิล
ไกลจากน้องล่องไกลไม่ยลยิน
คนหมอนหมิ่นอย่างเราเศร้าเดียวดาย
เพียง...เขตแดนแคว้นใดในฟ้าฟาก
แดนครุฑนาคฉิมพลีนทีสาย
หรือนภากาศเมืองแมนแดนสวรรค์ปลาย
จึงได้หมายรื่นรมย์..สมใจปอง
.แบบว่า...ไม่รู้สิ
23 ธันวาคม 2552 16:49 น.
จอมปราชญ์แดนอาคเนย์
ลมพรมพลิ้วสยิวร่างพลางฉันสั่น
ใจไหวหวั่นพรั่นพรึงคลึงเคล้าเหงา
หากจากนี้ไม่มีวันบรรเทาเบา
คาดอาจเศร้าเนาว์ติดจิตวายตาย
โลกโศกจริงทิ้งฉันสั่นอ้างว้าง
เหมือนเลือนลางกลางหนาวยาวปลายสาย
เดินเหินเดี่ยวเปลี่ยวคว้างช่างหน่ายกาย
หรือคือพ่ายสลายหวังอย่างคนจน
ดินถวิลดาวคราวแลแต่ตอนก่อน
ดาวเจ้าจรผันแปรแต่ต้นฝน
เหลือเชื่อนักรักเปลี่ยนเวียนจนวน
คืนฝืนทนพ้นไปได้ขมตรม
มองจ้องเดือนเลื่อนลอยพลอยเพ้อเจ้อ
ผงะละเมอฟุ้งซ่านปานอมขม
อยากฝากรักตากหนาวเคล้าลมชม
ไปให้เธอที่นิยม...จะได้ไหม?..
...แบบว่า
17 ตุลาคม 2552 11:14 น.
จอมปราชญ์แดนอาคเนย์
ตาละห้อยคอยชะเง้อเพ้อเรื่อยเปื่อย
ลมยิ่งเอื่อยเฉื่อยไฉนใจฉันหวิว
แหงนมองฟ้าพาละล่องท่องลมปลิว
สุดสยิวละลิ่วไปในเวิ้งนภา
ลัดพนาละล้ารอละออสาว
ละอ่อนเจ้าเคยเคล้าเคียงครั้งเดียงสา
สิ้นสำเนียงก็เพียงให้ใฝ่จินตนา
ระโหยหาอยู่เช้าค่ำระกำจริง
ถ้าแม้นมีเดชะบุญมาหนุนส่ง
ให้ร่วมวงศ์จะคงอยู่คู่กับหญิง
คงตระการละลานชมภิรมย์จริง
ใจระวิงมิลืมเลือนเสมือนเงา
หากไม่มีวาสนาจะพาหนุน
ชื่นดรุณอรุณแย้มแฉล้มเฉลา
คงจะหงอยละห้อยหาล้ามิเบา
จะยิ่งเศร้าหากใครเขา..มาเฝ้าจอง..อิอิ
...แบบว่า
13 ตุลาคม 2552 14:59 น.
จอมปราชญ์แดนอาคเนย์
สุดสายตาฟ้าไกลในคืนนี้
ดั่งฤดีจะรี่ไหลไปไกลฝัน
เฝ้าหวลนึกถึงกานดาศรีลาวัลย์
โอ้แจ่มจันทร์ปล่อยคนธรรพ์ให้หลงคอย
ดวงชะตาวาสนาพาห่มโศก
ให้วิโยคโศกตัวเราแสนเหงาหงอย
หลับหรือตื่นตาพร่าเลือนเหมือนใจลอย
เป็นหนุ่มน้อยขาดโอษฐ์เอื้อนสะเทือนใจ
เทพนารีคงหนีไกลไม่หวลกลับ
แลหายลับกับวสันต์ให้หวั่นไหว
เดือนดาราช่างมืดมิดปิดทางใจ
หนแห่งไหนก็ไร้เสียงเคียงบรรเลง
หรือคนธรรพ์แห่งบรรพตจะหมดรูป
ลมหนาววูบวาบที่จิตคิดข่มเหง
นางสวรรค์เจ้าหันหนีลี้วังเวง
ได้แต่บรรเลงเพลงศิลป์ฝากกินรี..
...แบบว่า...ไม่รู้สิ