26 มกราคม 2552 13:14 น.
จ.จันทรสุวรรณฑล
๐มองจันทร์สะท้อนเงา ขณะเหงาจริตห้วง
เดียวดายผวาทรวง มิลุล่วงนิรันดร
ฟังเพลงระเริงเล่น นยะเป็นวลีอ้อน
โดดเดี่ยวมิอาวรณ์ ฤสิวอนหทัยครวญ๚
๐หากรักริแค่ฝัน สตินั้นมิอาจหวน
หมองหม่นและรัญจวน ฤบ่ทวนวจีเคย
หากเธอบ่ใช่รัก ปิยะภักดิ์ฤทัยเผย
เอมอกบ่ลืมเลย นฤเปรยสิบ่ฟัง๚
๐ปล่อยรักถลาล่อง ผละห้องฤดีฝัง
ปราสาทวิมานพัง สละทั้งระกำทรวง
กลืนเก็บระทมขื่น อุระฝืนชะตาล่วง
ลาเลยละใจลวง ภิทดวงฤดีจำ๚ะ๛
18 มกราคม 2552 16:26 น.
จ.จันทรสุวรรณฑล
เงียบเงียบณ คืนหนึ่ง ขณะซึ่งระทมเศร้า
ช่องว่างระหว่างเรา ปะทะเงาบ่ลืมเลือน
ภาพเธอละเมอหา ลลนาเสมอเหมือน
ตอกซ้ำขย้ำเตือน สติเฟื่อนมิร้างลา๚
อกร้าวอุราเหงา อุระอ้าวเขม่าหนา
กังวลสะสมมา วนิดาระเริงไกล
เธอเล่าบ่รู้เลย ฤบ่เผยบ่สงสัย
ว่ารักสลักใน สละได้มิใคร่ครวญ๚
รักเธอมิแปรเปลี่ยน จะแวะเวียนฤ คิดหวน
ใตร่ตรองและทบทวน นยะล้วนฤหลอกกัน
ตรึกตรองประคองให้ หฤทัยริอาจฝัน
ทุกถ้อยวลีนั้น ระยะวันเฉลยเอง ๚ะ๛
15 มกราคม 2552 23:04 น.
จ.จันทรสุวรรณฑล
..๏อารมณ์ระทมขื่น อุระฝืนสะอื้นหา
ไกลห่างระหว่างตา ระยะพาสะบั้นลง
คืนนี้อุราเอ๋ย สละเลยณ ลุ่มหลง
เดือนดาวพระจันทร์วง รติคงสว่างใจ๚
..๏ราตรีมินานยาว ขณะร้าวระงมไห้
อกแทบสลายไป สติไร้พลังแรง
เปรยถึงคะนึงหา กุสุมามิอาจแฝง
ศรรักสลักแทง ปะทะแกร่งสะท้านทรวง๚
..๏เอื้อมอาจผงาดฟ้า คณนาถวิลห้วง
บ่วงรักตระหนักลวง ผงะท่วงวจีเคย
จบสิ้นยุพินเจ้า ขณะเฝ้าระลึกเผย
ลาก่อนบ่ย้อนเลย ฤจะเฉยระหว่างเรา ๚ะ๛