12 มิถุนายน 2551 15:58 น.

เหนือกว่าใครในใจลูก

ฅนกาหลง

กว่าจะคลอดรอดเป็นคน
แม่ต้องทนนานเก้าเดือนยากเคลื่อนไหว
แม่จ๋าแม่ แม่ประเสริฐเลิศกว่าใคร
คือดวงใจของลูกผูกพันธุ์ยิ่ง

 กี่ปีที่เลี้ยงมาพ่อแม่จ๋าเหนื่อยบ้างไหม
รักยิ่งใหญ่ของพ่อแม่แท้จริงนัก
กี่หยาดเหงื่อกี่เหมื่อยล้าเพื่อลูกรัก
ถึงงานหนักพ่อแม่ทนไม่บ่นจนลูกโต

 กี่คำข้าวที่โตมาอุสาห์ยิ่ง
ทำทุกสิ่งทำเพื่อลูกผูกด้วยรัก
พ่อจ๋าแม่จ๋าล้าก็พัก
ลูกก็รักพ่อแม่อยากแทนคุณ

 ล้านหยดเหงื่อยากทดแทน แทนพระคุณ
เป็นบุญคุณอันยิ่งใหญ่ในใจลูก
ขอสัญญาเป็นคนดีทำหน้าที่เรื่องที่ถูก
ในใจลูกผู้ยิ่งใหญ่เหนือกว่าใครคือ "พ่อ แม่"				
10 มิถุนายน 2551 13:01 น.

หอม เจ้า งาม

ฅนกาหลง

กุสุมางามนามเทียบเปรียบยุพาพักต์
ดั่งเจ้าสกุณารักช่อผกาพนาสนฑ์
สกาวงามวาววับจับพาชื่นชม
ยิ่งดอมดมยลกลิ่นก็อิ่มใจ

งามใดใยสิ้นกลิ่นบ่จาง
น่าครวญครางฝันถึงคำนึงหา
งามเลิศเพริศพริ้งบ่สิ้นโรยรา
งามผกางามเท่าแม่นวลนาง

ดงพฤกษาเจ้าผกานานาพันธุ์
แผ่สีสันสดสวยรวยกลิ่นหอม
เจ้าเอื้อเฟื้อเหล่าผีเสื้อมาเพื่อตอม
ดูดดมดอมเกสรซ่อนหวานสำราญใจ

นวลน้องจ้องพักต์ประจักษ์ตา
นวลน้องนาเจ้างามทาบผกาในป่าไพร
สองสิ่งยิ่งงามเลิศบรรเจิดใจ
ไร้สิ่งใดงามเปรียบไม่เทียบเทียม				
10 มิถุนายน 2551 12:11 น.

ยามรุ่ง

ฅนกาหลง

ดวงจันทร์เซี้ยวเลี้ยวหายกลายตะวันส่อง
มองดาวลอยล่องท่องฟ้าดาราฉาย
จุดเทียนเขียนกวีมีเงากาย
บรรยากาศสบายรอตะวันฉายขึ้นมาเยือน

จิบกาแฟแลดาวยามรุ่งที่ทุ่งกว้าง
ดูเวิ้งว้างดายเดียวและเปลี่ยวเหงา
เสียงไก่ขันฉันตีเป็นเพลงบรรเลงเอา
จึงไม่เหงาเนาใจให้บรรเลง

เอ้ก  อี  เอ้ก เอ้ก  เสียงไก่ขัน
เป็นสัญยานคนบ้านนอกบอกยามเช้า
จวนจะแจ้งแดงส้มทมเขาเข้า
ทิวเขาเล่าเห็นแดงเป็นแสงมา

รุ่งอรุณอุทัยเริ่มไขแสง
ครามแดงแฝงเทาให้เราเห็น
ฟ้าจะสางจางหม่นยลลมเย็น
ยามรุ่งเป็นยามตื่นฟื้นวันใหม่				
10 มิถุนายน 2551 11:49 น.

ย่ำค่ำ

ฅนกาหลง

แดงปนคราม   ยามตะวันลับ   จับทิวเขา
ขาวเป็นเงา   เคราแสง    แห่งยามสาย
ตะวันย้าย    กลายเคลื่อน   เลื่อนขยับกลับลงหาย
สิ้นเงากาย   วายวก    ตกแสงพลัน

ตะวันลับ   ขยับเคลื่อน   เลื่อนลงต่ำ
จวนจะค่ำ    ย่ำยามดึก    นึก  นึก    มัว
เมฆลอย   ลมห่มคลุม   ดูรุ่มตัว
แสงมัว   มัว   สลัว สลัว ทั่ว ทั่วไป

แสงอรุณ   จุนเจือจาง  บางไขแสง
สีครามแดง   แฝงเทา   เจือเงาหม่น
ราตรีเฝ้า   เย้าเยือน   เตือนมืดมน
น้ำค้างหล่น  บนใบไม้   ใสวับแวว

สายตาจ้อง   มองห่าง  เวิ้งว้างทั่ว
ดูน่ากลัว  เพราะมัวหม่น    จนจะค่ำ
สัตว์ใหญ่น้อย  หิ้งห้อย  คอยร่ายรำ
ตะวันต่ำ  ยามค่ำ  เลยมาเยือน				
5 มิถุนายน 2551 16:01 น.

ไทยปัจจุบัน

ฅนกาหลง

บนทางลาดยางไม่ร้างรถ
น้ำมันไม่งดไม่ลดราคา
ข้าวสารแพงกินแกงเปล่าเปล่าสิ้นท่า
เพราะผักปลาก็แพงไปตามกัน

โลกร้อนคนร้อนการเมืองร้อน
ใจสั่นกลอนหนอคือใครไทยทั้งผอง
ม๊อบจนม๊อบยึดถนนขนเป็นกอง
น้ำตานองกองไหลไทยสยาม

สยามนามเมืองยิ้มไม่ยินแล้ว
ไม่วาวแววแพรวพราวราวอดีต
ไม่อ่อนโยนโอนอินสี้นปราณีต
เลือดสูบฉีดขีดใจขึ้นไฟลาม

ยิ่งปรับยิ่งแก้ยิ่งวุ่นวาย
น่าเบื่อหน่ายย้ายเบี่ยงไม่เที่ยงตรง
ข้าวของแพงแล้งใจคนต้องทนทะนง
ไทยดำรงคงไว้ไทยทั้งมวล				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟฅนกาหลง
Lovings  ฅนกาหลง เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟฅนกาหลง
Lovings  ฅนกาหลง เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟฅนกาหลง
Lovings  ฅนกาหลง เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงฅนกาหลง