7 ธันวาคม 2545 22:05 น.
ค้างคาวคืนคอน
...อยากแต่งกลอนอ้อนสาวสักคราวหนึ่ง
อย่างสุดซึ้งหวานล้ำทำไฉน
เมื่ออ่านดูรู้ซึ้งถึงจิตใจ
ว่ามีใครหลงรักอย่างภักดี
ค้างคาวน้อยคอยหาผู้มาช่วย
รออยู่ด้วยหัวใจไม่ถอยหนี
อยากออดอ้อนวอนรักอีกสักที
จนป่านนี้ยังไร้ในวี่แวว
เคยรำพันวันก่อนหัดอ้อนสาว
อุตส่าห์กล่าวคิดไว้ให้แจ่มแจ๋ว
พอเธอฟังนั่งอึ้งซึ่งรู้แกว
มองตาแป๋วดูฉันพลันตะลึง
เธอพูดมาว่าไว้...ไม่เข้าท่า
แล้วหันหน้าเมินไปคาดไม่ถึง
ฉันหน้าจ๋อยพลอยเศร้าเฝ้ารำพึง
เธอไม่ซึ้ง...หรือไรทำไงดี
เธอหันหน้ามาหาแล้วว่าฉัน
คำรำพันพูดมาไร้ภาษี
ไม่เข้าท่า...อย่าเอ่ยเลยวจี
คำกล่าวที่เอ่ยอ้างช่างคลุมเคลือ
จึงตระหนักพักบ้างค้างคาวเอ๋ย
อย่าคอยเลยใครเล่าเขาช่วยเหลือ
อยากเข้าท่าอย่าให้ใครจุนเจือ
ไปเป็นเรือดีกว่าเข้าท่าชัวร์....ฯ
7 ธันวาคม 2545 00:03 น.
ค้างคาวคืนคอน
ผ่านเวลามามากหากจะนับ
ต้องยอมรับสิ่งหนึ่งซึ่งเปลี่ยนผัน
คือเวลานาทีที่เปลี่ยนวัน
มิเคยหวั่นหยุดรอต่อผู้ใด
แต่สิ่งหนึ่งซึ่งอยู่คู่กับฉัน
คือสัมพันธ์ต่อเธอมิเผลอไผล
ยังคงอยู่คู่ฉันนั้นเรื่อยไป
ตราบที่ใจสองเราและเรามี
(๑) ...เราสองเคยผ่านชีวิตโดดเดี่ยว
สองเราเคยเหนื่อยและท้อเต็มที
หนทางยังอยู่แสนไกลจากวันนี้
เพียงเรามีเรา หากจะเดินไปทางใดไม่หวั่น
แต่ก่อนแต่ไร ไม่เคยอุ่นใจ
โดดเดี่ยวเดียวดาย ข้างกายไม่มีใครสักคน
ฝ่าทางชีวิต ทุกข์ภัยผจญ
ฝ่าลมและฝนก็โดยลำพัง
แต่มาวันนี้ คลุกคลีกับเธอ
อยู่เคียงข้างเธอ แล้วทำให้ใจมีพลัง
จะเดินต่อไป ไม่ยอมหยุดยั้ง
หากเดินพลาดพลั้งฉันยังมีเธอ ...(ซ้ำ ๑)
จับมือกันเดินด้วยใจอดทน
หากใครสักคน ล้มลงฉุดมือกันขึ้นไป
จะฝ่าประจัน ทุกข์อันตราย
กอดคอกันไปไม่กลัวภัยพาล ...(ซ้ำ ๑)
6 ธันวาคม 2545 23:43 น.
ค้างคาวคืนคอน
เรื่อง...ยุงกับวัวกระทิง
...อย่าหลงตนจนเพลินเกินถูกต้อง
ควรตรึกตรองตัวว่าค่าเพียงไหน
เมื่อโลกนี้ที่เปลี่ยนหมุนเวียนไป
คลื่นลูกใหม่มาแรงแซงตัวเรา
ความสำคัญนั้นหนาอย่าประมาท
อย่าริอาจหลงตนบนใครเขา
เหมือนกับยุ่งมุ่งมาท่าไม่เบา
หลงมัวเมาตัวว่า...ข้าสำคัญ
เที่ยวบินอยู่ครู่หนึ่งจึงอ่อนล้า
เฝ้ามองหาที่พักสักหุนหัน
ที่ตรงไหนไม่มีที่เทียมทัน
ถูกใจมันสักที่ที่ผ่านมา
แรงเริ่มแย่แลจ้องมองไปทั่ว
ให้เห็นวัวกระทิงซิ่งเข้าหา
บินเกาะลงตรงเขาเฝ้าพูดจา
พี่วัวจ๋าขอพักสักครู่เดียว
หากตัวฉันนั้นหนักโปรดทักท้วง
ด้วยฉันห่วงพี่หนักขอพักเดี๋ยว
เจ้าวัวตอบขอบใจได้..ยุงเพรียว
เจ้าไม่เกี่ยวอะไรไปหรือมา
จึงสอนไว้ให้รู้ผู้หลงตน
อาจเป็นคนสำคัญนั้นผิดหนา
เพราะบางทีที่แท้แค่ผ่านตา
ไม่มีค่าอะไรให้คำนึง....ฯ
4 ธันวาคม 2545 08:08 น.
ค้างคาวคืนคอน
ขอเดชะ ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท
ข้าพระพุทธเจ้า เหล่าทวยราษฎร์ชาติสยาม
ขอสรวมชีพ เพื่อนบไท้ให้ลือนาม
ทั่วเขตคาม ล้วนพร้อมใจถวายพระพร
ขอพระองค์ ทรงพระเจริญยิ่ง ยิ่งยืนนาน
อย่าทรงพาน พบพ้องภัยใด ในอดิศร
ห้าธันวามหาราช ประกาศเกียรติขจร
ข้าฯเหล่าพสกนิกร น้อมเกล้า ในหลวงแห่งปวงชน
...ล้นเกล้าเผ่าไทย ศูนย์รวมใจคนไทยทั้งชาติ
ขออภิวาท เบื้องบาทองค์ภูมิพล
ยามใดไพร่ฟ้า ชาวประชายากจน
ทรงห่วงกังวล ดั่งหยาดฝนชะโลมพื้นหล้า
ถึงว่าป่าดง พฤกษ์ไพรพงทรงสู้ดั้นด้น
ถึงกายหมองหม่น แดดฝนไม่คิดนำพา
ร่วมสุขร่วมทุกข์ ทุกข์หรือสุขมีมา
ทรงแผ่เมตตา ให้ชาวประชาชื่นใจ
มิ่งขวัญดวงใจ ชาวไทยทั้งผอง
ทอแสงเรืองรอง ผุดผ่องดังร่มโพธิ์ใหญ่
พระบารมี เป็นที่ลือขานนามไกล
ข้าบาทภูมิใจ ล้นเกล้าเผ่าไทย แห่งวงศ์จักรี
เหนือยิ่งสิ่งใด เหนือดวงใจชาวไทยรักยิ่ง
เหมือนเป็นขวัญมิ่ง พักพิงยามทุกข์ภัยมี
ชาวไทยแหนหวง ยิ่งกว่าดวงชีวี
แม้นใครย่ำยี ใต้ฝ่าธุลี ขอพลีชีพแทน....ฯ
3 ธันวาคม 2545 22:34 น.
ค้างคาวคืนคอน
มาต่อกร(กลอน)เพิ่ม คิด-เห็น-เป็น-ไป ของคุณอัลมิตรา
๑. กลอน ๖
...ดีร้ายชายหญิงยิ่งคิด
ชีวิตผิดพลั้งยังเห็น
แก้ไขให้ถูกผูกเป็น
ยากเข็ญเน้นแค่แก้ไป...
๒. กลอน ๗
...หากความรักภักดีที่คิด
ทำชีวิตต่ำให้ได้เห็น
ขอลารักภักดีที่เป็น
ยอมลำเค็ญเรื่องรักหักไป...
๓. กลอน ๘
...เวลาเปลี่ยนเวียนไปให้ย้ำคิด
พาชีวิตเราสั้นทันตาเห็น
ใช้เวลานาทีนี้ให้เป็น
อย่าใจเย็นต่อวันที่ผันไป...
๔. กลอน ๙
...ใช้สมองสองมือนี้ตามที่คิด
สร้างชีวิตอันสดใสให้ได้เห็น
หมั่นฝึกฝนทนเรียนรู้สู้ให้เป็น
ถึงยากเย็นมิลำบากหากสู้ไป...
๕. กาพย์ยานี ๑๑
...มองฟ้าครานี้คิด
ถึงมิ่งมิตรอยากพบเห็น
เรื่องจริงสิ่งที่เป็น
มันยากเย็นห่างเกินไป...
๖. วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
...ตรึกตรองสมองนะมิละคิด
สุจริต ณ ที่เห็น
ก่อเกิดพลังกมลเป็น
จะมิเหม็นสกุลไป...