23 กันยายน 2546 23:47 น.
ค้างคาวคืนคอน
...โอ๊ะโอ๊ะโอ๋โถใครช่างใจร้าย
เที่ยวแปลงกายปลอมตัวยั่วนักหนา
ขออย่าได้ไหวหวั่นนะขวัญตา
คิดเสียว่าผู้ใหญ่ท่านให้พร
เรายังเล็กเด็กน้อยจึงคอยพร่ำ
คอยแนะนำชี้ทางแถมสั่งสอน
ตามผู้ใหญ่ไปเถิดเลิศแน่นอน
สุนัขจรจะกัดควรปัดไป
อย่าให้คมจมเนื้อเมื่อถูกกัด
มิแน่ชัดเชื้อบ้าว่ามีไหม
อย่าป่วยการลานลนกังวลใจ
ป่วยก่อนไข้จะหม่นนะคนดี
โอ๊ะโอ๊ะโอ๋โถใครใจร้ายเหลือ
วางยาเบื่อทางลบแล้วหลบหนี
อย่าหวั่นไหวไปเลยเอ่ยอีกที
คุณยังมีมิตรอยู่เคียงคู่กัน
มีมากมายหลายหน้าคอยมาปลอบ
คนชื่นชอบทั่วหน้ามาปลอบขวัญ
ใครคิดร้ายตายไปในสัมพันธ์
อย่าไหวหวั่นคิดเคืองเรื่องแล้วมา
โอ๊ะโอ๊ะโอ๋โถใครนะใจร้าย
อย่าเสียดายเรื่องนี้เรื่องขี้หมา
อย่ากังวลคนใดไม่เมตตา
เสียเวลาคิดไยให้เปลืองตัว...
23 กันยายน 2546 09:11 น.
ค้างคาวคืนคอน
....อบอุ่นละมุนจิต
ทำชีวิตให้สุขสันต์
ซึมซาบตราบนิรันดร์
หนึ่งในนั้นนั่นคือเธอ
ร่วมเรียงคอยเคียงคู่
ร่วมต่อสู้อยู่เสมอ
ร้ายดีที่พบเจอ
มิได้เก้อเพ้อเดียวดาย
วันนี้ที่อบอุ่น
ด้วยรักหนุนห่มมิหาย
เรื่องขุ่นเคยวุ่นวาย
คอยผ่อนคลายมลายไป
หายหนาวคราวห่มรัก
ซึ่งประจักษ์มิผลักไส
สดชื่นเริงรื่นใจ
หาสิ่งใดไหนทดแทน
รักอาบให้ซาบซึ้ง
คอยติดตรึงจึงห่วงแหน
มิคลาดหรือขาดแคลน
เมื่อมีแดนแสนละมุน
หลับตาคราพักผ่อน
รักแน่นอนต่างหมอนหนุน
เอาใจไว้เป็นทุน
ต่างผ้าอุ่นห่มคลุมกาย....
22 สิงหาคม 2546 22:24 น.
ค้างคาวคืนคอน
...เจอคนเก่งเพ่งดูเป็นครูสอน
หาสิ่งซ่อนดีทั่วที่ตัวเขา
แล้วศึกษามาใช้ในตัวเรา
อย่างี่เง่าโง่คล้ายบัวใต้ตม
เมื่อทำจริงสิ่งดีที่ทำผ่าน
ประสบการณ์สอนใจไว้เหมาะสม
สิ่งดีดีมีไว้ให้ชื่นชม
มิต้องก้มหน้าเดินด้วยเขินอาย
สู้ด้วยใจในวันอันทุกข์ยาก
ความลำบากถ้าพร้อมย่อมสูญหาย
ความเชี่ยวชาญผ่านวันอันมากมาย
คงไม่ร้ายเกินกว่าจะฝ่าฟัน
ถ้าไม่ท้อต่อภัยที่ได้พบ
จะประสบชัยชนะถ้าขยัน
เก่งไม่เก่งเพ่งดูย่อมรู้กัน
จะห่างชั้นกล้ากลัวที่ตัวตน
ถึงเก่งแน่แต่กลัวจนหัวหด
ย่อมจะหมดราศีที่ฝึกฝน
เก่งและกล้าถ้าพร้อมคือจอมคน
ที่งามล้นคุณค่าเก่งกว่าใคร
ถึงไม่เก่งเพ่งดูผู้เก่งกว่า
ย่อมรู้ว่าตัวเองเก่งเพียงไหน
มีความกล้ามาสู้เรียนรู้ไป
ถึงจะไม่เก่งพอก็ยังดี...
3 สิงหาคม 2546 23:51 น.
ค้างคาวคืนคอน
...สมานรักสมัครจิต ประสงค์คิดประสิทธิ์ผล
จะเห็นใจจะได้ยล จะล่วงพ้นจะทนไป
จะเฝ้ารอจะขอมั่น มิเคยพรั่นมิหวั่นไหว
นะนวลน้อง ณ ห้องใจ มิมีใครมิได้ลวง
เสมอเดือนเสมือนแม้น ณ ดาวแสน ณ แดนสรวง
สะพรั่งร่างสว่างดวง สถิตห้วงสถาวร
ณ แผ่นฟ้านภาลัย มิคิดไกลมิไถ่ถอน
มิคิดร้างมิห่างจร นะบังอรนะคนงาม
จะทนทุกข์จะสุขสม ระคนตรมระทมหวาม
จะเป็นมิตรจะติดตาม นะนงรามนะยามใด
ประคองรักประจักษ์จิต วิเคราะห์คิดวินิจฉัย
สนองรักสมัครใจ จะมีไหมจะได้เคียง...ฯ
29 กรกฎาคม 2546 22:00 น.
ค้างคาวคืนคอน
...ประสบการณ์ค่อนข้าง ขาดนัก
ยังไม่พอเกินจัก กล่าวสู้
เหมือนกบซ่อนตัวหนัก นึกเก่ง
อวดใหญ่ในความรู้ อยู่ใต้กะลาสวย...
...ป่วยการอ้างอย่างข้าใครกล้าหือ
ไม่รู้หรือโลกใหญ่กว้างไพศาล
ถ้าไม่แน่แค่รู้อยู่ดักดาน
อย่าริผ่านโลกนี้จะมีภัย
ดูอย่างกบพบน้ำโดดดำผุด
แต่ก็สุดปัญญาน่าสงสัย
ว่ายน้ำมาท่ากบอบอ๊บไป
ทั้งที่ไม่อยากทำเพราะจำเจ
อยากเปลี่ยนท่ามาว่ายทำคล้ายคน
ที่ลุกลนถอยไปอย่างไขว้เขว
ตีกรรเชียงเลี่ยงมาหน้าเหยเก
คงจะเท่ห์นักหนาถ้าว่ายเป็น
แต่ชีวิตคิดไปที่ได้พบ
ก็เหมือนกบตัวนี้ที่ได้เห็น
ไม่ชำนาญด้านทำจึงลำเค็ญ
ยากแสนเข็ญสาหัสไม่หัดทำ
เมื่อไม่ลองมองเห็นทำเป็นหรือ
แต่อย่าดื้อเกินไปให้เขาขำ
เก่งไม่พอก็อย่าออกมารำ
ก่อนเพลงร่ำเสียงร้องอย่าลองเลย...ฯ