2 ธันวาคม 2545 23:37 น.
ค้างคาวคืนคอน
โคลงโบราณ ( โคลงสินธุมาลี )
...ห้าธันวาข้านอบ- นบไท้
วันประชาพร้อมใจ ปิติ
พระคุณล้นชนไทย เกินกล่าว
พระราชดำริ ทรงธรรม
ล้ำเลิศประเสริฐนัก วิธี
ราชทานสิ่งดี รวมใจ
รู้รัก...สามัคคี รักชาติ
ดุจดั่งร่มโพธิ์ไทย ทั้งผอง
ซ้องอัจฉริยะ ดนตรี
ทรงงานกลอนกวี นิพนธ์
พระราชทานมี มาให้
พร้อมจิตรกรรมผล เลิศล้ำ
ทรงนำด้านกีฬา เหรียญทอง
ทรงเรือใบได้ครอง เหรียญชัย
ด้านการช่างมิรอง ช่างเอก
เทคโนโลยี่นัย ทราบทั่ว
มิกลัวภัยพาลร้าย หมายปอง
ทรงย่างพระบาทต้อง ทั่วไทย
เยี่ยมราษฎรของ องค์ท่าน
ทรงดำริโปรดให้ โครงการ
งานสารสนเทศ ประโยชน์
พระราชทานโปรด ชาวไทย
ชนต่างชาติเกริกโจษ ขานทั่ว
ชนทั้งชาติสุขได้ ด้วยพระบารมี...ฯ
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า
(นายสมพร ทองสกุล ประพันธ์)
2 ธันวาคม 2545 07:53 น.
ค้างคาวคืนคอน
ฉันขีดเขียนเพียรทำ...แทนคำร้อง
ให้เธอตรองก่อนที่พิพากษา
ขออุทธรณ์วอนใจให้เมตตา
ฉัน...ไร้ค่าหรือไรในใจเธอ
ขอถามนิดผิดมากยากแก้หรือ
รักที่ซื้อด้วยใจไร้ค่าเหลอ
ถึงไม่มีที่ให้ในใจเออ
ขอถามเธอแค่นั้นก่อนฉันตาย
...ห้ามใจเท่าไหร่ หัวใจก็ยังไม่ฟัง
ยังหวังว่าเธอจะเห็นใจ
ทั้งๆ ที่เธอ เห็นเราไม่มีความหมาย
แต่ไม่อาจตัดใจให้ลืมเธอลง
เขียนลงกระดาษ เขียนลงไปหมดทุกอย่าง
ความหลังที่เธอทำช้ำใจ
ย้ำเตือนความจำ ไว้ตรงประโยคสุดท้าย
ขีดเส้นใต้เอาไว้...ว่าเธอไม่รัก
เขียนทุกอย่างไว้เตือนให้ใจมันจำ
ย้ำข้อความสำคัญ
ย้ำไว้อ่านสอนใจ...ทุกวัน
คงพอทำให้ลืมเธอ
แม้มันจะเจ็บ แม้มันจะทรมาน
และมันจะทำเราร้องไห้
เพราะคือความจริง เรื่องจริงที่ปวดใจ
ขีดเส้นใต้เอาไว้...ว่าเธอไม่รัก.....
1 ธันวาคม 2545 08:09 น.
ค้างคาวคืนคอน
ถ้าถามฉันวันนี้มีสุขไหม
ตอบมิได้สุขเศร้าเคล้ากันหนา
มีสุขบ้างบางอย่างบางเวลา
ขึ้นอยู่ว่าวันนี้ดีเช่นไร
หากถามฉันวันนี้ที่ความรัก
คงตระหนักมากเหลือจะเชื่อไหม
ยังเป็นฉันวันนี้ที่พอใจ
แม้จะไม่สุขล้น...ยอมทนเอา
...ทุกวันฉันมีความสุขหัวใจ
ไม่อยากจะคิดอะไร มีหัวใจเหมือนห้องว่างเปล่า
ไม่โกรธไม่แค้น ไม่เกลียดใคร ให้ใจหมองเศร้า
ใครว่าอย่างไรช่างเขา ตัวของเรารู้ตัวเราดี
ท่องไปเที่ยวไปให้หมดสิ้นวัน
ชาติหนึ่งชีวิตแสนสั้น ขอใช้มันให้ฉ่ำชีวี
มืดค่ำง่วงเหงา ซุกกายเข้า ถ้าพอมีที่
หากเจ้าของเขามี ขอโทษทีมิได้ตั้งใจ
อาจจะเป็นชีวิตเสเพล
แต่จิตใจ ไม่เคยเกเรหลอกลวงทำร้ายใจใคร
แต่เรื่องความรักใครรอ ต้องขอเสียใจ
ฉันมอบถวายวัดไป พร้อมกับหญิงชายคู่นั้น..นานแล้ว
นี่คือฉันเองที่อยู่ที่มี
เรือนร่างอาบเละโลกีย์ ฉันก็มีหัวใจผ่องแผ้ว
เลิกใฝ่เพ้อฝัน ถึงวิมานฉิมพลีเมืองแก้ว
หลับได้คืนๆพอแล้ว ไม่เป็นนกแก้วในกรงของใคร....ฯ
30 พฤศจิกายน 2545 23:29 น.
ค้างคาวคืนคอน
เสร็จปรึกษาหารือแล้วซื่อดิ่ง
สุขใจจริงเพื่อนพามาพบเห็น
นานๆครั้งชั่งใจให้ยากเย็น
กลัวจะเป็นเหมือนดั่งครั้งเที่ยวบาร์
เข้าไปนั่งฟังเพลงบรรเลงหวาน
อยู่ในร้านคาเฟ่...เสน่หา
มีนักร้องน้องนางช่างพูดจา
ร้องเพลงมาออเซาะเพราะใจเพลีย!
...หัวใจฉันยังคล้าย ดังกับบาร์
จำหน่ายสุรา อาหารและเบียร์
ร้อยชายมานั่ง ดื่มกิน จนสิ้นฉันเสีย
หัวใจละเหี่ย ดื่มเบียร์ทุกวัน
ฉันเมาหัวซุนรัก คุณกว่าใคร
ฉันชั่วอย่างไร ใจรักผูกพันธ์
ถึงคุณจะไม่ อยากเจอ พาทเนอร์อย่างฉัน
คืนวันที่ผ่าน มานั่นสุขใจ
หัว ใจ เศร้า หมอง สี่ห้อง นั่นหนา
เขาเปรียบเหมือนบาร์ เปิด ใหม่
จึงไม่มีขา ประจำ ต้อยต่ำเกินไป
สี่ห้องหัวใจ สิ้นไร้ ราคา
หัวใจเหมือนบาร์ น้ำตาเหมือนเบียร์
ฉันดื่มจนเพลีย เบียร์เหมือนน้ำตา
หลงเพียงความใคร่ ชั่วคืน สะอื้น ผวา
คุณไม่กลับมา ที่บาร์หัวใจ.....
30 พฤศจิกายน 2545 20:53 น.
ค้างคาวคืนคอน
...เข้าโรงเรียนเขียนอ่านมานานโข
เล็กจนโตผ่านชั้นนั้นมากหลาย
ทั้งชั้นล่างข้างบนจนวุ่นวาย
หมั่นขวนขวายศึกษามาแต่เยาว์
เรียน ปอหนึ่งซึ่งเริ่มประเดิมผ่าน
ให้แตกฉาน ก.ไก่ไม่โง่เขลา
ฝึกอ่านเขียนเรียนลัดครูขัดเกลา
จนผ่านเข้า ปอสองเปลี่ยนห้องไป
ถึง ปอสามถามตอบชอบยิ่งนัก
เริ่มคึกคักซนยิ่งสิ่งสงสัย
แม้น ปอสี่นี่หนอยังพอใจ
ผ่านมาได้สุขเศร้าเท่าๆกัน
ผ่าน ปอห้ามาถึงซึ่ง ปอหก
เกือบสอบตกย่ำแย่แน่เลยฉัน
โชคยังดีที่ครูดูแลทัน
เหมือนสวรรค์เมตตาพาพ้นไป
ต่อ มอหนึ่งพึ่งมองอย่างข้องจิต
มอสองคิด ปอนี้เรียนที่ไหน
จบ มอสามข้ามพ้นยังสนใจ
ผ่านมาได้หนอเราเฝ้ารำพึง
ปอวอชอ ก็แล้วยังแคล้วคลาด
หรือว่าขาดด้วยบุญหนุนไม่ถึง
อยากกราบเรียนเขียนถามตามคำนึง
ปอเต็กตึ๊ง ปอนี้เรียนที่ใด....ฯ