25 พฤศจิกายน 2547 13:07 น.
คุณภูมิ
ย่ำรุ่ง ดาวร่วง-ดวงพุ่งก่ำแสงเปล่ง
วาบหาวราวเหินเกินกะเก็ง ไป่เล็งจุดทอดที่ปลายทาง
ขีดฟ้า โลมทาบดวงทาเป็นลำพร่าง
แต้มมืดให้จ้าให้รางชาง เพียงวูบจึงร่างก็ร้างรา
ถามใจ ดาวร่วงดวงเท่าใด-ยิ่งหมดฟ้า
แล่ล้านดวงเคยร่วงมา แลร่วงเพื่อหาความหมายใด
จึงเห็น สิ่งเล็กอันเร้นความยิ่งใหญ่
แสดงกฎแก่ตาโดยฟ้าไกล แสดงกฎแก่ใจให้จดจำ
จำได้ ว่าผีพุ่งไต้แห่งคืนค่ำ
ไม่เรียกร้องสิ่งใดจากฟ้าดำ ยามร่วงร่างก่ำแต้มค่ำคืน
25 พฤศจิกายน 2547 12:23 น.
คุณภูมิ
สุมทุมพุ่มไม้ในคืนมืด
ขึงพาดเป็นพืดในฟ้าค่ำ
กาฬปักษ์คืนนี้มีฝนพรำ
ผสานเสียงงึมงำ-ฟ้าครวญคราง
แต่ฟ้ามืดเคยเปล่าไร้ดาวดก
เพียงเมื่อฝนหยุดตกก็พริบพร่าง
รวงดาววาวรวงขึ้นรางราง
พร้อมก่อทางช้างเผือกพรรณราย
เกิดเป็นดึกเดือนดับดาววับแสง
ก่อม่านสานแผงวิบวิบว่าย
เพิงเคยมืดงำก็อุ่นอาย
และตาเคยเปล่าดาย-ก็ได้ดาล
25 พฤศจิกายน 2547 12:06 น.
คุณภูมิ
มากมาย โดยนัย-โดยเหตุ
บ่งเลศบ่งลึกบ่งตื้น
ทุกข์-สุข หวาน-ขม กลมกลืน
มีหลับ มีตื่น-โดยตน
ใดใฝ่พึงใฝ่โดยใฝ่
โดยใจ-เพราะใจคือผล
หากก่อเป็นกล-คือกล
เป็นทุกข์เป็นท้นต่อตาม
โดยแต่งจึงแต่งใจต่อ
โดยรอ-จึงรู้เพียงถาม
โดยแท้-โดยธรรมงำงาม
อยู่ท่ามกลางธรรมใกล้ตัว
25 พฤศจิกายน 2547 11:57 น.
คุณภูมิ
เมื่อวิบวิบแสงแวมเริ่มแต้มฟ้า
ม่านความมืดที่ทา ก็ถดถอย
เมื่อหมอกน้ำล่วงลาสลายรอย
เขียวม่วงครามก็ค่อยคลี่ม่านคลุม
เหนือคุ้งฟ้าคุ้งโค้ง-เป็นวงฟ้า
ขาวเมฆฝอยจับฝ้า เป็นกลุ่มกลุ่ม
เรี่ยเรี่ยรายรายระบายรุม
แต่งแต้มสุมทุมขึ้นทาบทา
หัวคลื่นนั้นเคลื่อนอยู่ครึกครึก
แรงหวนลมดึก-ลมเดือนห้า
กำหนดท่วงทีแห่งลีลา
ให้น้ำ ให้ฟ้า-ให้ทะเล
25 พฤศจิกายน 2547 11:46 น.
คุณภูมิ
ดึกหนึ่งอ่อนล้าราแรง มากเรื่องเสียดแทง
สุมทบอยู่ในใจตน
คุมเคียดว้าวุ่นกังวล ล้วนเรื่องผู้คน
ซึ่งก่อสัมพันธ์กันมา
มากมายประดังประดา ขึงถ่างนัยน์ตา
ให้ยากหลับใหลได้ลง
คุมใจเตือนใจให้ปลง แต่ใจยังคง
ก่อภาพซ้ำภาพพัวพัน
อยู่เมืองยิ่งผ่านนานวัน ยิ่งคล้ายทึบตัน
อยู่ในหล่มทุกข์ทับทวี