21 ตุลาคม 2554 01:22 น.
คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน
คำปลอบ อาจเปลื้องปลดบรรเทาปวด
ที่ร้าวรวดปวดร้าวได้คราวหนึ่ง
คืนเนิ่นยาวคนหนาวยืนสะอื้นซึ้ง
คอยคนหนึ่ง คะนึงคอยละห้อยครวญ
คนคอย ก็คอยจนป่นใจแปลบ
ใจเจ็บแสบแทบทุกที่อย่างถี่ถ้วน
ไม่สนว่าเวลาไหนควรไม่ควร
เจ็บล้วนๆจวนจะลับวับวางวาย
คำห่วงแท้แม้ผ่อนเบาทุเลาปวด
ที่ร้าวรวดลงบ้างให้จางหาย
แต่ก็เป็นเพียงชั่วคราวคล้ายเปล่าดาย
แค่ยืดยาววันที่ร้าย ย้ายอีกวัน
ปีกนกหักหนักในอกนกปีกหัก
สิ้นรัก ก็สิ้นแล้วแววความฝัน
ลากปีกหักฝืนหายใจเพื่อใครกัน
จะดื้อรั้นดั้นทุรนไปหนใด
สัญชาตญาณสุดท้ายก่อนวายวาง
จึงพาร่างที่แพ้รักใกล้ตักษัย
มาแทบตักคนเคยท้วง บอกห่วงใย
ขอสิ้นใจในที่ที่ยังมีรัก
17 ตุลาคม 2554 23:09 น.
คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน
คุณ Many_love กับคุณ din เขามาเขียนปลอบใจไว้ในบทที่แล้ว
นักลอนลิเกเจ้าน้ำตาอย่างผม จึงดิ้นหนีไปเรื่อย
ขอบคุณในน้ำใจนี้ ที่รินหยด
รินราดรดดวงฤดีที่หมองไหม้
หากใจป่วย พลิกฟื้นคืนเมื่อใด
จะชดใช้ร้อยคำกรองสนองคุณ
แต่หนนี้ใจป่วยหนักด้วยรักปลิด
เอาชีวิตแทบไม่รอดวอดวายวุ่น
ไม่อาจรับความเมตตาเกื้อการุณ
ขมใจขุ่นอยู่ยั้งอย่างยั่งยืน
ยังดื่มกินความขมขื่นหมื่นแสนคำ
ตอกและย้ำช้ำตรมที่ขมขื่น
รินหลาม.. ความมืดดำให้ค่ำคืน
กว่ากล้ำกลืนขืนข่มตรมน้ำตา
กี่คำปลอบไม่อาจปลดให้หมดปวด
ยังร้าวรวด รักรานประหารฆ่า
พังพ่ายสิ้น ภินท์พังทั้งชีวา
เกินเยียวยากว่ายับยั้งพังยับเยิน
เปรียบฉันเป็นนกน้อยไม่ใหญ่นัก
เคยมีรักหนุนจินต์ให้บินเหิร
ก็บินเที่ยวบินทั่วมัวแต่เพลิน
หยอกๆเอินท้องฟ้าชะล่าใจ
เมื่ออกหักรักตระบัดเหมือนตัดปีก
ไม่อาจหลีกบินหนีไปที่ไหน
ตกลงพื้น ใจระรัวหวาดกลัวภัย
ตาอาลัยยังมองฟ้าอย่างอาวรณ์
เศร้าเมื่อความรักวาย ไม่หายเศร้า
เหงายิ่งเหงา ทบทวีไม่มีถอน
ทำได้แต่แค่วุ่นเวียนเขียนคำกลอน
ที่ยิ่งย้อนกระหน่ำย้ำ ตำใจตน
13 ตุลาคม 2554 14:28 น.
คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน
คุณ many_love เขามาตอบไว้ในกลอน
"ชั่วนิรันดร์ อาจนานยาว หนาวกว่าเดิม "
ว่า
จะห่วงเธอชั่วนิรันดร์ตะวันขึ้น
ในแรมคืนมองดาวเด่นห่วงเสมอ
ทุกฤดูกาลกัปล์สำหรับเธอ
ห่วงเสมอห่วงมิตร..นิจนิรันดร์
ไม่ได้แกล้งรึแสร้งห่วง...
ผมก็เลย ตอบว่า
ในนิรันดร์ที่นานยาวหนาวยะเยือก
ไม่อาจเลือกว่าจะตื่นหรือฝืนฝัน
แต่ใจเจ็บสุดใจฝืนมันยืนยัน
ว่าเจ็บนั้น เจ็บจริงยิ่งเจ็บใจ
ขอบคุณคำห่วงแท้แม้ห่างๆ
คนอ้างว้างได้พักพิงอิงอาศัย
เพื่อหายใจได้อีกครั้งประทังใจ
เพื่อทุกข์ไป ในอีกวันอันแสนนาน
ณ จุดที่ คำปลอบใดไม่อาจช่วย
แผ่วใจ-รวย ระรินสิ้นสงสาร
ในนิรันดร์ที่เหน็บหนาวและร้าวราน
แม้คำหวานยังขมไหม้เมื่อใจตรม
13 ตุลาคม 2554 09:15 น.
คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน
มองรักด้วย ตาที่หลับไม่รับรู้
ฟังรักด้วยสองหูที่ปิดกั้น
และรักด้วยหัวใจที่ไร้กัน
คำรักนั้นบอกไป ไร้ราคา
ที่ว่างนั้นเคยเป็นเช่นที่ว่าง
พอรักวางฝากใจไว้แน่นหนา
ที่ว่างพลันเต็มทันใดในทันตา
แต่ถึงครารักร้าง ก็ว่างครัน
ว่างใจไว้ให้ว่างๆระหว่างรอ
เพื่อเพียงพอพักวางระหว่างฝัน
ให้ลืมเลื่อนเลือนลางระหว่างกัน
ระหว่างนั้น เว้นใจว่าง ด้วยวางใจ
...
หลับตานอนผ่อนใจไว้เอาใจวาง
รินน้ำตามาล้างอาจจะไหว
แล้วตากลม ชมฟ้าลืมอาลัย
ท่องเที่ยวไปเนิ่นนานผ่านหลายปี
เมื่อนานพอก็วางใจจะใส่รัก
แต่ไม่ยักใส่ได้เหมือนไร้ที่
ความเศร้าแสนยังแน่นกลบ ทบทวี
ทุกข์ทุกทีความเศร้าฝังทั้งหทัย
ใจไม่ว่างอีกต่อไปไร้ที่ว่าง
มันอ้างว้างแต่เต็มตันความหวั่นไหว
หวิวใจหวาดขาดใจวิ่นสิ้นแววใด
มีหัวใจให้เต้นๆพอเป็นคน