6 เมษายน 2552 12:49 น.
คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน
เมื่อต้นไม้ต้นหนึ่งหายไป
มันไม่ได้จากหายไปแค่ พื้นที่ เวลา
มันหายไปจากความคุ้นเคยด้วย
และความทรงจำมีแต่จะเลือนลางลง
-- คิดถึงต้นไม้
คิดถึงความคุ้นเคย
และคิดถึงความทรงจำ ที่มีต่อต้นไม้
-- ฉันจะทำอย่างไรได้
ช่วยฉันด้วย
โลกนี้มีต้นไม้มากเหลือเกิน
-- ชีวิตที่เหลือ จะทำอย่างไร
6 เมษายน 2552 12:09 น.
คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน
แรงดึงดูดของโลก
ทำให้ฉันยืนบนพื้นได้
-- แต่หากเลือกได้
อยากเว้นแรงดึงดูดไว้บางเรื่อง
-- เก็บดอกไม้ ใส่ตะกร้า โยนขึ้นฟ้า
แล้วให้มันแขวนลอยอยู่อย่างนั้น
.. เป็นดาวดอกไม้
6 เมษายน 2552 06:34 น.
คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน
ไปแจมกลอน *คนที่แสนไกล* ของ ราชิกา มา
เลยยกมาไว้ให้อ่านทั่วกันครับ
ถึงคนไกลไกลแสนห่างอยู่ต่างฟ้า
แม้แสนไกลไกลนักหนายังกล้าฝัน
ว่าวันหนึ่งเราสองได้ครองกัน
จงครองใจรอวันนั้นวันคู่เคียง
แต่คืนหนอ มืดมิดสนิทนัก
อยู่ห่างไกลเกินความรักกระซิบเสียง
หวั่นว่าเธอไกลฉันพลันโอนเอียง
ไปกับเพียงคนใหม่เข้าใกล้กาย
คืนนี้หนอ ยิ่งมืดยิ่งเศร้ายิ่ง
เหมือนมืดสิงสาปฝันให้พลันสลาย
ถ้ารักเราขาดกัน ฉันคงวาย..
ไม่อาจหมายฟ้าสว่างแม้กลางวัน
วันทุกวันจะมืดขึ้น และมืดขึ้น
โศกสะอื้น เศร้ากำสรดหมดสรวลสันต์
อยู่มุมมืดกลืนน้ำตาเฝ้าจาบัลย์
เมื่อสิ้นฝันก็สิ้นแสงแห่งวิญญาณ์
บอกเถอะนะ บอกมาว่าคิดถึง
มันจะซึ้งสุดใจคล้ายแสงจ้า
ส่องฉายส่งพลังความหวังมา
ให้ฉันกล้ารอคอยแม้ร้อยปี
5 เมษายน 2552 01:07 น.
คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน
ไปแจมกลอน ฝากลม ของ ฐปนวุธ มา
เลยยกเอามาไว้ให้อ่านทั่วกันครับ
ลมเจ้าเอย ..ช่วยด้วยช่วยหอบรัก
ฝ่าฝนนี้ที่ตกหนักโหมกระหน่ำ
ส่งให้ถึงคนไกลใจบอบช้ำ
คืนฟ้าค่ำสุดเหว่ว้า หาอุ่นไอ
ลมเจ้าเอย ..โปรดช่วยนำความรักข้า
ไปโอบนุ่มคลุมกายาเธอได้ไหม
ลมเจ้าเอ๋ย ..โปรดจงนำคำห่วงใย
ปลอบเธอให้หายเหว่ว้า รักมาแล้ว
แหะ แหะ ผมมันไม่มีแรงบันดาลใจเป็นของตัวเอง
อาศัยเกาะอารมณ์คนอื่น กับเกาะคำสัมผัสที่ ฐปนวุธ คิดไว้
มาเขียนเล่นๆ เช่นนี้นะครับ
และเปลี่ยนวรรคสุดท้ายให้สวิงสวายหน่อย
4 เมษายน 2552 23:35 น.
คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน
เป็นตอนสี่ ของการ แจมกลอนกันไปมา
ยกมารวมไว้หน้าแรก ให้ได้อ่านกันตั้งแต่ต้นครับ
ขออภัยท่านที่ได้อ่านแล้ว
(อ่านสามกลอนย้อนต้นได้จากส่วน - ความคิดเห็น- นะครับ)
คราจันทร์จากฟ้าเวลาแรม
เห็นแก้มเธอเปื้อนน้ำตาหมอง
อยู่เคยอยู่ คู่เคียง เพียงประคอง
ใยจึงต้องแรมร้างจางจากไป
จึงต้องขอบอกเธอให้เข้าใจจันทร์
แม้ห่างกันก็หวนหากลับมาได้
ใช่จากแล้วจากลับไปกับใคร
แต่จากไปใจอยู่เคียงคู่เธอ
อยากขอให้เข้าใจคนไกลห่าง
แต่ยังคว้างคิดถึงเธอเสมอ
เหมือนรางวัลหัวใจ หากได้เจอ
ใช่พร่ำเพ้อ แต่เราพรากจากเพียงกาย
ขอบใจเธอ ที่เฝ้าคอยแม้หงอยเศร้า
น้ำตาเหงาโศกสะท้อนแสงจันทร์ฉาย
แข็งใจรอวันฉันกลับไปเคียงกาย
เปล่าความหมาย ถ้าการกลับไร้คนรอ
( สามบทแรก ใช้คำแรกของวรรค จากกลอนของน้ำแข็งเปล่า ; บทที่สี่ ดูเอาเองนะครับ )