15 เมษายน 2552 11:25 น.
คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน
ต้นกัลปพฤกษ์
คราไม่มีดอก ใครจะยังจำเจ้าได้
คงเห็นเป็นแค่ต้นไม้อีกต้นนึง
-- ฉันมองแค่ต้นไม้เขียว เป็น ดอกขาวพราวเต็มต้น
ทั้งๆที่ยังไม่มี
..เช่นนี้ ตื้นเขินไปหรือไม่
-- ที่ฉันควรมองเห็น
คือชีวิต และศักยภาพ ในการเบ่งบาน
มากกว่า มิใช่หรือ
15 เมษายน 2552 11:15 น.
คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน
เงาไม้โลดเต้นบนลานอิฐ
ไม่มีใครจดจำ ความสวยงามอันนั้น
-- Remember the happening
not the happened.
14 เมษายน 2552 12:39 น.
คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน
ฝนตกใส่โลก โลกเปียก
แต่ข้าไม่เปียก
โลกคืออันใด
โลกที่เปียก ขณะข้าแห้ง
เหมือนไม่ใช่โลกของข้า
โลกของข้าเหมือนมีเพียง
จากปลายปีกหนึ่งถึงอีกปลายปีกหนึ่ง
.. แค่นั้น
-- แล้วข้าก็พาโลกของข้าไป
ไปในโลกที่เปียก เพื่อเปียก
14 เมษายน 2552 12:36 น.
คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน
หน้าร้อนนี้ ฝนตกดี
ดอกไม้บานจนหนักกิ่ง
ทำให้พุ่มค้อมโค้งลง
แล้วดอกไม้ก็โรยร่วง
กิ่งหยัดขึ้นมาใหม่
ต้นไม้เรียนรู้จากบทเรียน
-- เผลอแผล็บเดียว
ดอกไม้ก็บานอีก
ฉันไปสนใจอะไรอยู่นะ
14 เมษายน 2552 02:54 น.
คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน
เห็นใครๆชอบตัดพ้อต่อว่า -รัก-
ทำทุกข์หนัก ทรมาแทบอาสัญ
ทุกข์จากรักหรือจากใจ อะไรกัน
ความจริงนั้น เป็นอย่างไรชวนให้มอง
ใช่.. คนเรามีหัวใจเอาไว้รัก
หากทุกข์หนัก ..ใช้ตัวช่วย รักด้วยสมอง
ควรเหนี่ยวรั้งยั้งใจคิดไตร่ตรอง
เหมือนรถต้องมี"ห้ามล้อ" จึงพอดี
รักด้วยใจอย่างเดียวน่าเสียวแท้
เหมือนมีแต่ "คันเร่ง" เล็งสุขขี
เห็นเส้นชัย ก็เร่งรุดสุดชีวี
มุ่งเต็มที่ไปเส้นชัย อย่างไวเกิน
แท้เส้นทางชีวิต คิดให้ถ้วน
วันๆล้วนน่าตระหนก ระหกระเหิน
ใจเร็วมากหากว่าพลั้งพังยับเยิน
ให้เจริญสติตรองประคองไป
แยกรักกับใจไว้สองอย่าง
รักบ้าง และคิดบ้าง ..อย่างสงสัย
ที่ขอรักเพื่อครองคู่ "ดูแล" ใจ
หรือขอไปแค่ "ดูเล่น" เช่นหมาแมว