30 มีนาคม 2552 13:17 น.
คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน
ตอบกลอน เธออยู่ที่ไหนในคืนเหงา
-- เหงา.. ให้มองขอบฟ้าเวลาเหงา
นั่นเพราะเราจะได้พบกันที่นั่น
จันทร์คู่ฟ้า ฟ้าก็อยู่ คู่กับจันทร์
มองหากันไม่ยากหากเธอมอง
-- หมอกมาบังแน่แท้ก็แค่หมอก
สองใจบอกคงมั่นไว้ไม่ใจสอง
กรองกานต์ยืนยันไว้ในร้อยกรอง
ใจเราต้องได้พบกันฉันมั่นใจ
-- กว่าจะถึงวันนั้น ฉันเหงากว่า
ไม่สนใจวันเวลาหาได้ไม่
ไกลก็ต้องยอมรับนับว่าไกล
แท้ที่ใจ เธอหนออย่าท้อแท้
30 มีนาคม 2552 12:27 น.
คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน
ผู้หญิงผมยาว ยืนมองโลกภายนอก
ผ่านกรอบหน้าต่าง
ฉันมองกลับไป โลกภายในกรอบหน้าต่าง
เหมือนเธอเป็นภาพเขียนในกรอบรูป
นิ่ง สงบ สวยงาม
แต่เต็มไปด้วยเรื่องราว
-- จิตรกรยังต้องใช้มือวาด
เพียงแต่เธอวาดอารมณ์ตัวเอง
30 มีนาคม 2552 12:24 น.
คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน
นักดนตรีเหงื่อตก
บรรเลงเพลงอยู่เพียงตัวโน๊ตเดียว
เครื่องดนตรีคือ ฆ้อน ทั่ง และเหล็กร้อน
-- ไพเราะ แรงงาน
เป้ง เป้ง เป้ง
29 มีนาคม 2552 11:31 น.
คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน
รับรู้ลม
เอาหน้าผากแตะกิ่งไม้ของต้นไม้
รับรู้ลมที่พัดผ่านดอกไม้
จากที่ดอกไม้มันบอก
-- ปลายจมูกชี้ชัน
ลมพัดปอยผมปลิวไหว
ท่ายืนเธอ กอดอก
เช่นนี้ ไม่ต้องแตะต้อง
.. ฉันก็รับรู้ลม
29 มีนาคม 2552 11:28 น.
คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน
เธอมิได้มีหน้ามีตากวี
แต่เธอหยุดตากวีไว้ที่เธอได้
กวีเห็นโลก
จากวิธีที่เธอมองโลก
และเงาสะท้อนจากโลกสู่ตาเธอ
กลับส่องสะท้อนความเป็นเธอ
-- แหล่งน้ำมีเพียงน้ำน้อยๆ
เราก็มองเห็นเป็นทะเลสาบได้
เพราะเรารักทะเล มหาสมุทร