31 ธันวาคม 2552 12:52 น.
คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน
เธออาจมีน้อยค่าสายตาใคร
แต่เธอเป็นทั้งดวงใจสำหรับฉัน
เมื่อใดเธอเหนื่อยใจในคืนวัน
มองตากัน จะเห็น"เรา" ในเงาตา
รับรู้ถึงคุณค่าสายตามอง
หมดความหมองมองให้ซึ้งถึงคุณค่า
เงาที่เห็นฉาบฉายนัยนา
คือดวงหน้าของคนที่ฉันรัก
มองนิ่งๆ มองให้นาน อย่าผ่านผาด
อย่าหวั่นหวาดอื่นใด ให้ตระหนัก
คนคนนี้ดีต่อฉันมั่นคงนัก
คอยฟูมฟักรักฉันอย่างมั่นใจ
เธอเป็นชีวิตนี้ทั้งชีวิต
เต็มในจิตขอจงอย่าสงสัย
โลกนี้เธออาจเป็นแค่ ใครบางใคร
แต่เธอเป็นโลกทั้งใบของใจนี้
31 ธันวาคม 2552 11:54 น.
คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน
.. จะต้องจากกันแล้วแก้วใจเอ๋ย
แม้ไม่เคยสิ้นรักแม้สักหน
ใจเดียวมอบน้องหญิงมิ่งกมล
สุขล้นพ้นท้นใจเมื่อได้เคียง
แม้อยู่นิ่งเงียบแน่แค่คนเดียว
ก็หวาดเหลียวเหมือนยังได้ฟังเสียง
แอบหมายใจใฝ่ปองเฝ้ามองเมียง
แต่ได้เพียงมองตามไปใจมลาย
แอบรักเขาเราเจ็บต้องเก็บกด
อดทนอดเก็บบ่มข่มใจหมาย
ไม่อาจรัก เจ็บหนักแทบวางวาย
เจ็บปางตาย เมื่ออดเอ่ยเผยวาจา
เขียนกลอนลาอาลัยใจจะขาด
คงไม่อาจพบกันในวันหน้า
คำสุดท้ายอ้อนวอนก่อนจะลา
ขอน้ำตาหนึ่งหยดรดดวงใจ
เพื่อจะต่อลมหายใจไปอีกวัน
ช่วยให้ฉันเตรียมการย้ายบ้านใหม่
เป็นบ้านที่เงียบสงบหลบเธอไกล
ได้หลับไหลอาบเพลิง เชิงตะกอน
เขียนคำลาอาลัยก่อนใจปลิด
สุดความคิดถึงเรื่องหลังครั้งวันก่อน
ครั้งสุดท้ายร่ายคำลามาเป็นกลอน
คำ"ลาก่อน" นั้นมีค่าว่า"รักเธอ"
24 ธันวาคม 2552 10:34 น.
คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน
แต่งเพลงรักในใจไว้เพลงหนึ่ง
สดับซึ้งถึงในสำเนียงเสียง
รอวันเจ้ามาร้องคลอพะนอเคียง
จับจำเรียงเจื้อยแจ้วกระจ่างใจ
แต่คนเอ๋ยคนเราที่เขลาขาด
เขลาไม่อาจขอเขาเข้ามาใกล้
เพียงเห็นยิ้มเยิ้มหยาดก็หวาดไป
แล้วเมื่อไร นะเพลงรักจักแว่วดัง
..อยากฟังเพลงแอบรักสักเพลงไหม
แต่งจากใจดวงนี้ที่เปี่ยมหวัง
ไม่เคยร้องให้ใครที่ไหนฟัง
ขอเธอนั่งฟังบรรเลงเป็นเพลงยาว
" ช้าง ช้าง ช้าง
น้องเคยเห็นช้างหรือเปล่า
ช้างมันตัวโตไม่เบา
จมูกยาวๆ เรียกว่างวง
สองเขี้ยวข้างงวง เรียกว่างา
สี่ขาเดินๆ เพลิดเพลินไป
มีหัว มีใจ .. รักเธอ.. "
จบเพลงเจื้อยแจ้วแล้วก็มอง
เห็นเธอทำตาพอง ..หน้าเหวอ
แล้วรีบจ้ำจากไปไม่อยากเจอ
เหลือฉันเพ้อ ร้องเพลงช้าง ..อย่างลำพัง
20 ธันวาคม 2552 09:55 น.
คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน
เหมือนจากกันทั้งๆที่ยังอยู่
ตาเมินดูทั้งๆที่ยังเห็น
ยิ้มให้กันแต่ใจจืดแสนชืดเย็น
ไม่ต้องเค้นคำแค้นไหน ก็ได้ยิน
คนเคยรักมาสิ้นลดหมดความรัก
ทุกข์ถมหนัก หัวใจดวงดั่งถ่วงหิน
ครารักหวานหวานชื่นดังกลืนกิน
ครารักสิ้น สิ้นหมดไปไม่เหลือเลย
ดอกไม้เอ๋ยเคยช่อชู ก็ดูเฉา
กิ่งไม้เงา เคยไกวกรูก็ดูเฉย
เพลงไพเราะดั่งดับไป กระไรเลย
ความทุกข์เย้ย ยอกย้ำ ย่ำยีใจ
จบกันที รักเก่าที่เศร้าจิต
คนควรคิดถึงวันชื่นและคืนใหม่
บั่นสะบั้น วันเศร้าลวงล่วงทรวงใน
ต่อนี้มันจะจบไปในพริบตา
ขอเธอจรไปยังที่ไม่มีแมว
ฉันจะแจวไปยังที่ไม่มีหมา
รักถึงฆาตขาดกันแล้วนะแก้วตา
ก็เพราะว่า.. หมาแมวเราไม่เข้ากัน
10 ธันวาคม 2552 01:39 น.
คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน
บันดาลใจ จาก กลอน "วานบอก" ของคุณ "ยายแม่มด"
วรรคที่ว่า ดาวเคียงเดือนเลื่อนล่องลอยคล้อยเคลียคลอ ไพเราะมากครับ
ลมระรอกพริ้วพรายพร่างกระจ่างฟ้า
ดาวเคียงเดือนเลื่อนลอยมา ..เอื่อยอ้อยอิ่ง
ดาราพราว พราวบรรเจิดพริ้งเพริศพริ้ง
ใจก็ยิ่งหมายสำคัญ คำสัญญา
ลมหนาวโหมตระโบมใส่ไม่เคยหนาว
เส้นทางไกลก็กล้าก้าวอย่างแกร่งกล้า
ไม่ย่อท้อในทุกย่างทางผ่านมา
เพราะจิตใจเจิดแจ่มจ้า สัญญาใจ
แม้ห่างไกล แต่หัวใจไม่เคยห่าง
ระยะทางหมดความหมาย คล้ายอยู่ใกล้
ด้วยสัญญา ..ถ้าเคียงกันในวันใด
จะชดใช้ ร้อยวันคอย ..ด้วยร้อยจูบ