7 พฤษภาคม 2552 14:31 น.
คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน
เราต้องไป-ผ่าน ที่ต่างๆที่ไม่ใช่เป้าหมาย
เราต้องทำอะไรที่ไร้สาระบ่อยครั้ง
เหมือนมันไร้ค่า แต่ว่า ..ไม่
-- เพื่อวันนี้มาถึง วันที่อ้างว้าง..
สิ่งที่ไม่มีค่า ไร้สาระ สิ่งที่ไม่ได้จำ
มันเหมือนเป็นดินก้อนน้อยๆ
ที่ค่อยๆสะสมเป็นทำนบ
กั้นน้ำตาเราไม่ให้ไหล
..ในวันนี้ที่อ้างว้าง เหลือเกิน
7 พฤษภาคม 2552 14:28 น.
คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน
ยืนใต้ต้นไม้ ใบหลายสีที่สวย
คุณมิอาจไม่เป็นศิลปินไป
..อย่างใดอย่างหนึ่ง
-- เป็นจิตรกรวาดภาพระบายต้นไม้สีสุกลุกโพลง
เป็นกวีเขียนบรรยายงามทะลุล้นหน้ากระดาษ
หรือเป็นคนกินข้าวห่อ เอร็ดอร่อย ใต้ต้นไม้นั้น
5 พฤษภาคม 2552 13:28 น.
คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน
ใช้ชีวิตช้า ช้า
ยืนนิ่งนิ่ง หายใจยาว ยาว
ฟังเพลงเย็นๆ
-- เราเป็นปฏิมากร ปั้นแต่งโลกในสมองของเรา
ปาดทิ้ง แปะเสริม เหมือนงานปฏิมากรรม
ด้วยการผ่านโลก จำบางเรื่อง ลืมทิ้งบางเรื่อง
-- จะเป็นงานศิลปะ หรือขยะอีกชิ้น
ก็แล้วแต่เรา และทุกนาทีที่ผ่านไป
5 พฤษภาคม 2552 13:22 น.
คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน
ดอกไม้แดงโดดเด่น sudden red
orange fades to green เขียวผสม
wonderful, cool ประชันฉันชื่นชม
โลกรื่นรมย์ what a wonderful world
5 พฤษภาคม 2552 01:36 น.
คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน
อ่านกลอน วอนสาว ของ ก่องกิก แล้ว อยากวอนมั่ง
วอนสาวๆ บ้านกลอน ช่วยสอนหน่อย
ผมไม่ค่อย ปราดเปรื่องเรื่องภาษา
เขียนกลอนก็ วนๆๆ วนไปมา
บางทีหาที่ลงไม่ได้เลย
อยากเขียนกลอนรักให้หวานปาน พี่เนาว์
แต่กลอนเน่า เอียนเอียนไปเฉยๆ
อยากเขียนขันได้อย่าง ป๋าวานิช เลย
แต่ไม่เคยเขียนได้ขัน สักอันนึง..
คงได้แต่แค่กะลามาตักน้ำ
ครั่นๆคร้ามยามส่องเงาเราคงอึ้ง
ส่องกะลา-กระโหลกนั้น พรั่นสะพรึง
เห็นคนซึ่งเขียนกลอนอ่อนหัดเลย
เขาว่า "คนสวยมักใจดี"
แล้วบ้านนี้ คนใจดีมีไหมเอ่ย
ฝากคำถามลอยตามลมรำเพย
โอ้ทรามเชย สาวบ้านกลอน สอนให้ที
แต่สอนกลอนอย่างเดียวคงไม่ได้
ต้องสอนใจให้รักด้วย ได้ไหมนี่
วอนนะวอน อ้อนสาวชาวกวี
สอนให้พี่เขียนกลอน และสอนรัก