29 พฤศจิกายน 2552 11:11 น.
คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน
บันดาลใจ จากบทแรกของกลอน หวั่นใจนักรักของคุณ ของ คุณ พิมญดา เอามาแต่งเป็นเรื่องฝากแฝง อีกเรื่องย่อย ให้สนุกๆกันนะครับ
ฟังคำน้องตรองจิตพี่คิดตาม
เรื่องโฉมงาม งามกว่าวาสิฏฐี
คำคนกล่าว เหมือนกล่าวเล่นไม่เห็นดี
เอ่ยวจี เหมือนกล่าวเล่นไม่เห็นจริง
ที่ว่าผิด ผิดเพราะเขากล่าวไม่ครบ
งามนางเดียวกล่าวไม่จบงามน้องหญิง
ต้องรวมงาม"สีดา"งาม พระรามชิง
และงามสิงภาพอย่าง"นางละเวง"
งามหมดจด"พจมาน"บ้านทรายทอง
งามผุดผ่องต้อง"อึ้งย้ง" หลงก้วยเจ๋ง
บวกงาม ยาม"น้องตอง"ชอบร้องเพลง
งามกล้าเก่ง อย่าง"จีจ้า"ก็มาปน
บวกงามใสใบหน้าสวย"ชิซูกะ"
งาม"ริออน คาเนดะ"หุ่นน่าสน
รวม"เกิลรี่เบอรี่"ทั้งสี่คน
บวก"เจโล"เน้นตรงก้นปล้นใจชาย
..และอื่นๆ ทุกหญิงงามในสามภพ
มาบรรจบเป็นงามน้องปองใจหมาย
หากพี่ไม่ได้ครองคงหมองตาย
จะวางวายกอดรูปเจ้าเฝ้าหมองตรม
15 พฤศจิกายน 2552 13:14 น.
คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน
อยากจะบอกว่าฉัน..
ฝันถึงเธอ เมื่อคืนก่อน
เพราะก่อนหลับ หลับตาอย่างอาวรณ์
จิตเลยย้อนซ้อนฝันให้ อย่างใจปอง
เราร่วมสุขทุกข์สนุก ผจญภัย
โลกใบใหญ่เล็กลง มีเราสอง
ภัยร้ายใด ไม่พรั่น-สู้ คู่ประคอง
ยืนมองภัยยับไปกับตา
.. อยากบอกเธอว่าฉันฝันดี
ฝันที่มีเธอ ดีนักหนา
รำพึงพลาง ร้าวรวดปวดอุรา
ก็เพราะว่า ..ไม่มีเธอในโลกจริง
15 พฤศจิกายน 2552 13:11 น.
คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน
.. เคยฝันฉันเป็นนก
โผผกผันผินบินบนฟ้า
อยากไปไหนไปได้ไกล ไกลสุดตา
แต่ทว่า เป็นนกเดี่ยวบินเดียวดาย
ไม่เอาหรอก ไม่เป็นนกวิหคเหิน
เพียงได้บินเพลินๆ เปล่าความหมาย
หากไร้เธอบินคู่อยู่เคียงกาย
ขอเด็ดปีกตัวเองตายไม่หมายบิน
2 พฤศจิกายน 2552 15:18 น.
คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน
เธอเงียบหายไปในเงียบของกลางคืน
สุดจะฝืนกลั้นน้ำตาคราใจหวั่น
คิดถึงคราครั้งเราคู่อยู่ใกล้กัน
เธอเงียบพลัน ใจเจ็บจุกทุกครั้งคราว
คืนนี้ตีสอง ..มองฟ้ามืด
เชียบเย็นชืด จืดเย็นชาเกินกว่ากล่าว
น้ำตาไหล ไหลรินหลั่งลงพรั่งพราว
วอนยามเช้า ให้มาถึงเร็วกว่านี้
อยากให้เช้ามาถึงนี่ นาทีหน้า
เพื่อฉายแสงแรงจ้า จ้าใจนี่
เรืองขับไล่ความเหงาหม่นท้นฤดี
ก่อนนาที ที่น้ำตาบ่าท่วมใจ
เธอไม่มา.. เธอไม่มา.. น้ำตาหยด
คนคอยอด อดทนรอ ใจท้อไหม้
น้ำตาหยด เหมือนกรดกัด ใจไหม้ไฟ
รอวันใหม่ ไล่วันหม่นให้คนรอ
2 พฤศจิกายน 2552 15:14 น.
คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน
เพียงเอ่ยถึงฉันบ้าง ในนิยายรักของเธอ
...
ให้ฉันเป็นอะไรก็ได้
เป็นเสียงสะอื้นในเงามืด
ที่เธอเดินผ่านไป และไม่ทันได้ใส่ใจ
หรือเป็นประกายแสงยอดคลื่น
เกิดเมื่อเธอเอามือวักน้ำเล่น
แล้วก็วับหายไป เช่นเดียวกับยอดคลื่นอื่นๆ
อีกหมื่นแสนคลื่นที่มีเวลาแสนสั้น
หรือเป็นลมที่เบาจริงๆ
พัดเคลื่อนได้เพียงเส้นผมเส้นเดียวของเธอ
ตรงปลายผม ไหวแล้วก็หยุดนิ่ง
ฯลฯ
--
แล้วฉันจะขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณอย่างมาก
ด้วยการร้องเพลงแห่งแสงสลัวรางชางเย็นเงียบเชียบ
ของด้านมืดดวงจันทร์ อันเฉย เย็น ชา
จนกว่านิยายรักของเธอ จะพาเธอ
ให้ได้ยินเสียงเพลงไพเราะของพระจันทร์
...
..ถ้าเธอได้ยินเสียงจันทร์ ก็จะได้ยินเสียงฉัน
เป็นโน๊ตตัวสุดท้าย ที่กังวานสะท้อน
มาจากด้านมืดของดวงจันทร์
ไหวพริ้วแผ่ว และจางลง.. จางลง..
...
เพลงมิได้จบที่โน๊ตตัวสุดท้ายนั้นหรอก
เพลงจบที่ความเงียบ อันยาวนานต่อเนื่อง
ไปแสนนาน..