18 มกราคม 2554 14:34 น.
คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน
เฮ้ ฮัดช่า! แม่หน้ามนคนใกล้บ้าน
พี่ขอวานแม่ยาจิตสักนิดหนา
ไม่ใช่มาเก็บดอกหรอกกานดา
แต่ทว่ามาเก็บใจไปเข้าคลัง
พี่เป็นแขกแปลกหน้าโพกผ้าสี
วานคนดีอย่ารังเกียจเดียจความหวัง
ยิ้มให้หน่อยพลอยให้เป็นเช่นพลัง
พี่อาบัง รักกานดา ..นาร๊ายณ์ นารายณ์..
18 มกราคม 2554 14:12 น.
คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน
คิดว่าหลานคงไม่ว่าถ้าอา.. รัก
เนิ่นนานนักหลายปีที่ห่างเหิน
เคยพบเจ้าแต่กี้ก่อนเมื่อสอนเดิน
หายไปเพลินเพียงตาพริบสิบกว่าปี
เป็นเพื่อนพ่อของหลานมานานโข
เห็นเจ้าโตน่ารักเลยจั๊กจี๋
จะแฟนหรือภรรยา อาไม่มี
อยากฝากผีฝากไข้ ไว้กับหลาน
จีบรุ่นน้องไม่ผ่าน จีบรุ่นหลานซะเลย..
18 มกราคม 2554 14:10 น.
คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน
ฉันผิดใดใครก็ได้ช่วยบอกด้วย
รักคนสวยจึงต้องสาปดาบประหาร
รักกันดีแต่อยู่ได้ไม่ทันนาน
เวลาผ่านเธอก็ผันปันอุรา
คงเป็นแต่แค่กรรมเก่าในคราวก่อน
ตามมาย้อนให้สิ้นขาดวาสนา
ก้มหน้ารับกรรมเก่าเราทำมา
ต้องอาญา รักราญประหารใจ
16 มกราคม 2554 15:35 น.
คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน
อ่านเรื่องจันทโครพ จบอีกรอบ
มีคำตอบเหตุใดแน่ จึงแพ้พ่าย
สู้เรียนสรรพวิทยามามากมาย
ต้องมาตายในป่าพง ดงกันดาร
คล้ายคนที่เสียที่รักไม่ยักสู้
ใครไม่รู้ว่าขี้ขลาดไม่อาจหาญ
นั่งนิ่งงอมือเท้าไม่เอาการ
ปล่อยรักราญ ย่อยยับลงกับตา
เถอะ ให้สิบ-ร้อยโจรป่าก็กล้าสู้
แต่ที่อยู่นิ่งแน่แพ้ต่อหน้า
เพราะเห็นใจเจ้าแล้วแก้วโมรา
เจ้ามีใจให้โจรป่ามาฆ่ากัน
เจ้าคอแห้งพี่แทงเลือดให้ดื่ม
เจ้าคงลืมสิ้นแล้วแก้วใจฉัน
เจ้าไม่รักก็หมดแล้วแววชีวัน
ต้องพระขรรค์โจรป่าชีวาวาย
ต่อให้โจร ไม่ยุดแย่งแทงอกพี่
ก็สิ้นดี หมดไม่เหลือเมื่อใจพ่าย
จะหยิบขรรค์แทงเข้าอกเพื่อตกตาย
ให้รักร้าย สลายยับพร้อมกับใจ
อ่านเรื่องเก่าๆของไทย และแสวงหาการตีความใหม่ น่าสนุกนะครับ
อย่างเรื่อง ขุนช้าง ขุนแผน ก็มีคนตีความเหตุผลของนางวันทอง ไว้น่าสนใจ
อ่านเจอของนางโมราเหมือนกัน ก็เลยลองตีความฝั่งจันทโครพ ลองดู
ตัดตอนมาเฉพาะ ตรงที่คนสงสัยว่า เรียนมาก็เยอะ ทำไมไม่ปราบโจรป่าง่ายๆ
บทสุดท้าย แต่งให้สวิงสวายไปหน่อย อาจจะเกินเลยเรื่องดั้งเดิมไป ขอบอกไว้ และขอให้เด็กและเยาวชนที่ไม่เคยอ่าน ไปหาอ่านเรื่องเต็มก่อน
13 มกราคม 2554 15:42 น.
คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน
แม้ความรักหมดทั้งใจยังไร้ค่า
แค่วาจา หรือจะรั้งประทังได้
เก็บคำเศร้าไว้กับตนจนวันตาย
แต่อย่าหมายว่าจะอ้อนวอนสักคำ
ไม่รักก็ไม่ง้อ ไม่ขอรัก
ไม่ประจักษ์ก็ไม่ว่า แค่น่าขำ
เรื่องเจ็บใจ นั้นเจ็บเล่นเป็นประจำ
ไม่เนื่องนำเก็บมาทุกข์ จุกเจ็บใจ
"เมื่อรักกันไม่ได้ก็ไม่รัก
ไม่เห็นจักเกรงการณ์สถานไหน
ไม่รักกูกูก็จักไม่รักใคร
เอ๊ะน้ำตากูไหลทำไมฤา"
ยืมวรรคทองของรุ่นครูมาสู้เศร้า
เชื่อว่าเรา ไม่ด่าวดิ้นหรือสิ้นชื่อ
ชื่อว่าชายยอมตายให้เขาลือ
ไม่ยอมยื้อยุดไว้ ถ้าไม่รัก
ต่อแต่นี้จะอยู่เดียวอย่างเปลี่ยวเปล่า
ฤดูหนาวของหัวใจได้จำหลัก
รอยจารึกผนึกแน่นแสนลึกนัก
แจ้งประจักษ์ ว่าเจ็บจัดถนัดใจ
แต่ไม่ต้องถามทวงหรือห่วงกัน
แค่ไร้รักเท่านั้น ฉันทนได้
ใช้ชีวีที่ยังเหลือเพื่อรอตาย
และวางวายอย่างคนเศร้า เขาไม่รัก
ในเครื่องหมายคำพูด เป็นกลอนวรรรคทอง ของ คุณสุจิตต์ วงษ์เทศ นักกลอนรุ่นครู ขอยกเอากลอนครู มาทำอักษราญชลีไว้ที่นี้ หากความอ่อนด้อยของข้าน้อย ทำให้กลอนครูต้องหมองลง ก็กราบขอประทานอภัยมา ณ ที่นี้