14 พฤษภาคม 2565 20:55 น.

ความช่วยเหลือเชิงรุกของสวรรค์สำหรับยูเครนผลการอฐิษฐานของเรา

คีตากะ

     ตั้งแต่สงครามในยูเครนเริ่มต้นขึ้น บางช่วงฉันก็รู้สึกได้ว่า ฉันอยู่ในสถานการณ์ของพวกเขา กับการ
ขาดแคลนอาหารและน้ำ ไม่มีไฟฟ้าและทำอะไรไม่ถูก ฉันทำอะไรไม่ได้มาก แต่อธิษฐานเผื่อพวกเขาเท่านั้น 
ท่านอาจารย์เคยกล่าวไว้ว่า พวกเราผู้ปฏิบัติบำเพ็ญมีพลัง ย้ายภูเขาได้ และทำให้ท้องทะเลว่างเปล่า 
หนึ่งในการเห็นของฉัน ขณะนั่งสมาธิก็มองเห็น กองกำลังสีขาวล้อมรอบ โดยกองกำลังมืด นางฟ้ากำลังช่วยกัน
ในทุกทิศทางและพวกเราหลายคน กำลังยืนอยู่ในแนวป้องกัน ต่อต้านกองกำลังชั่วร้ายเหล่านี้ เราเริ่มท่อง
พระนามศักดิ์สิทธิ์และของขวัญอันศักดิ์สิทธิ์ และพลังแห่งความมืดค่อย ๆ กระจัดกระจายและหายไป ฉันยังเห็น
สวรรค์ช่วยชาวยูเครนในทุก ๆ ด้าน เหมือนทำให้กระสุนรัสเซีย หายไปในอากาศบาง ๆ เขย่าโลก ทำมันให้แตก
และทำยานพาหนะของพวกเขา ยากที่จะรบและขีปนาวุธอากาศของพวกเขาจะบินเข้าไปใน เมฆหนาทึบ
และหายไป คำอธิษฐานของเรามีพลังมาก ช่วยได้ทุกเรื่อง แม้ว่าเราจะอยู่ไกลกัน เห็นแล้วเศร้า เกิดอะไรขึ้น
กับชาวยูเครนที่หมดหนทางในตอนนี้ และไม่มีประเทศใดช่วยเหลือพวกเขา ฉันหวังว่าสงครามจะจบลงในไม่ช้า
และชาวยูเครน จะรวมตัวกันอีกครั้ง กับสมาชิกในครอบครัวของพวกเขา รัสเซีย ได้โปรดกลับบ้านเถอะ! 
เหยากวนจากสิงคโปร์
เหยากวนผู้รอบรู้ ขอบคุณที่เตือนเรา ของพลังอันยิ่งใหญ่ของอาจารย์ เราต้องใช้เครื่องมือ ท่านอาจารย์ได้ให้
เรา และยังคงเน้นทางจิตวิญญาณตลอดเวลา การใช้ของขวัญเหล่านี้จะยกเราขึ้น และช่วยโลกด้วย รวมถึงการ
ยุติวิกฤตินี้ และทำให้เห็นโลกโลกวีแกน ขอให้สวรรค์อวยพรคุณ สิงคโปร์ที่สวยงาม และยูเครนที่มี ในแสง
แห่งจักรวาล ทีมงานโทรทัศน์สุพรีมมาสเตอร์
ป.ล. ท่านอาจารย์มีคำตอบนี้ สำหรับคุณ: “เหยากวนที่รับรู้ ดีสำหรับคุณที่คุณ ได้เห็นความช่วยเหลือเชิงรุก
ของสวรรค์สำหรับยูเครน พร้อมทั้งประสิทธิภาพ ของคำอธิษฐานของเรา ฉันหวังว่า ความพยายามร่วมกัน
ทั้งหมดของเรา จะนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่เราแสวงหา แม้ว่าจะต่อต้านสิ่งชั่วร้าย และความไม่รู้ในโลกของเรา 
ที่ชะลอความคืบหน้า แสงสว่างย่อมชนะ เหนือความมืดเสมอ แต่มนุษยชาติต้องเป็นวีแกน เพื่อความอยู่รอด
และเพื่อยุติสงครามเร็วขึ้น ส่งคำอธิษฐานด้วยความรัก ให้พระเจ้า ปกป้องและรักษาคุณ พลเมืองสิงคโปร์
ที่สดใสและยูเครนที่มุ่งมั่นเสมอ”
14 พฤษภาคม 2565 08:54 น.

เยี่ยมเยือนนรก

คีตากะ

การได้เห็นการลงโทษผู้ทำงานในอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์และผู้ที่รักการกินเนื้อสัตว์
         ปัจจุบันนี้ สัตว์ถูกทรมาน ด้วยวิธีที่โหดร้ายอย่างยิ่งและต้องทนทุกข์ทรมานที่โรงงานปศุสัตว์
และโรงฆ่าสัตว์ อย่างไรก็ตาม คนทำงาน ในอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ ไม่รู้ว่าวิญญาณของพวกเขา จะได้รับอะไร
เป็นผลลัพธ์ จากการทำมาหากินของพวกเขา ที่มาจากการไร้ซึ่งความเมตตาโดยสิ้นเชิง
         ระหว่างการทำสมาธิครั้งล่าสุดของฉัน อาจารย์ภายในของฉันพาฉัน และพี่สาวชาวจีน เดินทางไปยังนรก
เพื่อดูการลงโทษที่กระทำต่อคนที่ทำงานในอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์และต่อคนที่รักการกินเนื้อสัตว์ เรามีหน้าที่
กลับมาและถ่ายทอดประสบการณ์ของเราให้กับทุกคน เมื่อเราไปถึงนรก พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ที่เคารพพาเรา
ไปทัวร์หลายแห่งในนรก พระกษิติครรภโพธิสัตว์ทรงดูสง่างามและศักดิ์สิทธิ์มาก - ตรงตามภาพที่มีอยู่ตาม
วัดต่าง ๆ เราได้เห็นนรกของการถลกหนังสด ๆ ผู้กระทำความผิด ในช่วงเวลาของพวกเขาบนโลก ได้ถลกหนัง
สุนัขจิ้งจอก และสัตว์อื่น ๆ เป็น ๆ พวกเขาจึงต้องประสบกับความทุกข์เหมือนกันขณะอยู่ในนรก พวกเขาถูก
ถลกหนังจนกระทั่ง พวกเขากลายเป็นกองเลือด พวกเขาจะตายอย่างช้า ๆ แล้วร่างกายของพวกเขาก็จะฟื้นตัว
 และผ่านการทรมานแบบถลกหนัง ครั้งแล้วครั้งเล่า! ผู้กระทำความผิดที่เคยทำงานในโรงฆ่าสัตว์ ถูกแขวนห้อย
หัวลง ด้วยขาข้างหนึ่งของพวกเขา ท้องของพวกเขาถูกกรีดออกและเครื่องในของพวกเขาถูกดึงออกมา 
หรือโดนตีอย่างแรงที่หัวด้วยค้อนเหล็กสีดำยาวสองเมตรก่อนที่พวกเขาจะถูกแทงจนตาย บ้างก็ถูกสับเป็นชิ้น ๆ 
และถูกจับยัดลงในกระป๋องขนาดใหญ่ เหมือนตอนทำอาหารสุนัขกระป๋อง บ้างก็ถูกฉีดแก๊ส เข้าสู่ร่างกาย
จนความดันสูงเกินไป และลูกตาของพวกเขาก็ถลนออกมา! พูดง่าย ๆ ว่าวิธีใดก็ตามที่พวกเขาทำที่โรงงาน
ปศุสัตว์และโรงฆ่าสัตว์ การทรมาน และฆ่าสัตว์ พวกเขาจะโดนการปฏิบัติทางกายแบบเดียวกันขณะที่อยู่ในนรก
 แต่มันจะเป็นความรุนแรงขึ้นหลายเท่ามาก ยิ่งกว่านั้นความคิดใหม่ ๆ ที่โรงงานปศุสัตว์และโรงฆ่าสัตว์
คิดขึ้นมาเพื่อทรมานและฆ่าสัตว์ พวกเขาจะทำให้ เกิดการลงโทษใหม่เหมือนกัน ในนรกอย่างอัตโนมัติ 
มันช่างน่ากลัวจริง ๆ! คนกินเนื้อสัตว์ หรือเชฟที่ปรุงเนื้อสัตว์ เพื่อการบริโภคของประชาชน เป็นผู้สมรู้ร่วมคิด
ของการฆ่า และพวกเขาจะได้รับการลงโทษที่น่ากลัวเช่นกัน! ตัวอย่างเช่น ผู้นั้นอาจะมีไม้เรียวยาวเสียบผ่าน
ร่างกายจากปากถึงก้นกบ แล้วถูกย่างเหมือนลูกหมู บนตะแกรงย่างแบบหมุนได้ หรือพวกเขาอาจถูกปรุง ถูกสับ
เป็นชิ้น ๆ ด้วยมีดยักษ์ และถูกโรยบนพื้น เหมือนเป็นเนื้อไก่ เสิร์ฟบนโต๊ะอาหาร ร่างกายของผู้กระทำผิด 
บางคนถูกผ่าออก และทับให้แบน แล้วถูกแกะสลักด้วยมีด เป็นลายละเอียด อย่างที่อาหารทะเล เช่น ปลาหมึก
หรือคาลามารี ถูกเตรียมก่อนรับประทาน
       ข้อสังเกตของเราที่นี่ สามารถสรุปได้ดังนี้ วิธีที่เนื้อสัตว์ถูกปรุงในครัว บอกเราว่าคนกินเนื้อจะทุกข์ทรมาน
ในนรกอย่างไร นิสัยชั่วร้ายของการกินเนื้อสัตว์ของมนุษย์ก่อให้เกิดความเจ็บปวดที่หยั่งไม่ถึงได้ในสัตว์ 
การรับรสของเราอาจจะพอใจ แต่หลังจากที่เราตาย เราจะตกนรกอันน่าสะพรึงกลัว และได้รับการลงโทษ 
ทุกประเภทในนรกขุมแล้วขุมเล่าไม่สิ้นสุด ขึ้นอยู่กับชนิดของเนื้อสัตว์ที่เรากิน เราจะต้องผ่านการทรมาน 
เช่นเดียวกันกับสัตว์ ที่ทนทุกข์ทรมานเหล่านั้น หนีไม่พ้น เป็นเวลานานมาก!
     ถ้าคนได้เห็นเอง แม้เพียงครั้งเดียวว่าคนที่กินเนื้อสัตว์ ถูกลงโทษในนรกอย่างไร คงไม่มีใครกล้ากินเนื้อสัตว์
อีกต่อไป ไม่แม้แต่จะมีคนมาอ้อนวอนเรา! ในโลกทุกวันนี้ การบริโภคเนื้อสัตว์มากเกินไป ได้นำไปสู่ภัยพิบัติ 
และภัยธรรมชาติทุกชนิด เราหวังว่าผู้คนจะรีบเปลี่ยนมากินอาหารวีแกน! คนในอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ 
โปรดกลับใจโดยเร็ว และหาอาชีพใหม่ เพื่อที่คุณจะได้ช่วยตัวเองได้ทันเวลา จากทุกข์ในนรก และช่วยโลก
จากภัยพิบัติ! ด้วยความเคารพ ขอให้อาจารย์ มีชีวิตมีความสุขและสงบสุข และขอให้ความหวังของท่านอาจารย์
เพื่อโลกวีแกน เป็นจริงอย่างรวดเร็ว!
     บันทึกร่วมกันโดย จีควาง ลูกศิษย์หญิงในประเทศจีน และหลิงซิน ลูกศิษย์หญิง ในไต้หวัน (ฟอร์โมซา)
วีแกน: เพราะไม่อาจจินตนาการได้ ถ้าเราถูกทรมาน
ลูกศิษย์ของท่านอาจารย์แต่ละคน มีประสบการณ์จิตวิญญาณภายใน คล้ายคลึง แตกต่างกันหรือมากกว่ากัน
และ/หรือได้พรจากโลกภายนอก นี่เป็นเพียงตัวอย่างบางส่วน ปกติเราจะเก็บมัน กับตัวเอง ตามคำแนะนำ
ของท่านอาจารย์
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม และดาวน์โหลดฟรี โปรดไปที่ SupremeMasterTV.com/to-heaven
4 กันยายน 2564 16:59 น.

สาวน้อยนักเคลื่อนไหวโลกร้อน...

คีตากะ

454ed617b973b6ace2337c2b17c39f6e.jpg
                “ระบบนิเวศน์กำลังล่มสลาย เรากำลังจะสูญพันธุ์ แต่พวกคุณกลับพูดถึงกันแต่เรื่องเงินๆ ทองๆ 
และผลเติบโตทางด้านเศรษฐกิจ คุณกล้าดีอย่างไร!”
          นี่เป็นคำกล่าวสุนทรพจน์ของสาวน้อยมหัศจรรย์ เกรต้า ธันเบิร์ก (วีแก้น) นักเคลื่อนไหวด้านสภาวะ
โลกร้อนชาวสวีเดน ซึ่งในตอนนั้นเธอมีอายุเพียงแค่ 16 ปี เท่านั้น เธอกล่าวทุกถ้อยคำที่หนักหน่วงและ
ซีเรียสทุกประโยคราวกับสงครามโลกกำลังจะเกิดขึ้นท่ามกลางผู้นำโลกในการประชุม เรื่องสภาพภูมิอากาศ 
(UN Climate Action Summit) ในเดือนกันยายน 2019 ณ สำนักงานใหญ่ของสหประชาชาติในนิวยอร์ก 
หลายคนมองว่าเธอมีอาการของแอสเพอร์เกอร์(กลุ่มหนึ่งของโรคออทิสติค) ที่จะหมกมุ่นกับการกระทำอะไร
ซ้ำๆ และมีปัญหาเรื่องการเข้าสังคม แต่เธอสวนกลับว่า “ใช่ ฉันเป็นแอสเพอร์เกอร์ นั่นคือการกระทำอาจ
แตกต่างจากคนทั่วไป แต่ถ้าหากเราใช้ความแตกต่างให้ถูก มันคือซูปเปอร์พาวเวอร์เลยล่ะ”
3ba738554158a1f124edfc0ea60c7733.jpg
           เธอเล่าว่า “เมื่อฉันอายุได้ 11 ขวบ ฉันป่วย ฉันรู้สึกซึมเศร้า ฉันหยุดพูด และฉันหยุดกิน ผ่านไปได้ 2
เดือนน้ำหนักฉันหายไป 10 กิโลกรัม ฉันถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคแอสเพอร์เกอร์ซินโดรม(Asperger's Syndrome)  OCD (โรคย้ำคิดย้ำทำ ; OCD : Obsessive Compulsive Disorder) และ Selective Mutism (โรคไม่พูด
ในบางสถานการณ์) พูดให้ง่าย ฉันจะพูดก็ต่อเมื่อฉันคิดว่ามันจำเป็น และตอนนี้ฉันก็อยู่ในช่วงเวลานั้น” 
ด้วยความกล้าหาญเหนือธรรมดาประกอบกับคำพูดที่ทรงพลัง อ่อนน้อม บริสุทธิ์จริงใจและจริงจังอยากแก้ไข
ปัญหาโลกร้อนของเธอ ทำให้ถ้อยคำของเธอจับใจผู้ฟัง จนสื่อมวลชนตั้งฉายาให้เป็น “Climate Icon” เกรต้า 
ได้รับเชิญให้ไปพูดในอีเวนต์ต่างๆ ทั่วโลก ตั้งแต่ Ted Talk ที่สตอกโฮล์ม ตามด้วยงาน เวิลด์ อีโคโนมิค ฟอรัม 
ที่เมืองดาวอส ในสวิตเซอร์แลนด์ และงาน EESC ที่บรัสเซลล์ ในประเทศเบลเยี่ยม ต่อด้วยไปพูดที่สภายุโรป
ในเมืองสตาร์บูร์กส์ ประเทศฝรั่งเศส
d353ad18e4c7b241bc6c7e795ea85cad.jpg
           สาวน้อยชาวสวีเดนกลายเป็นผู้มีชื่อเสียงไปแล้วทั่วโลกเพียงแค่ลุกขึ้นแสดงจุดยืนต่อสิ่งที่เธอเชื่อ 
เธอได้รับการเสนอชื่อให้รับรางวัลโนเบล และได้เป็นบุคคลแห่งปีของนิตยสารไทม์ในปี 2018 ในเดือนสิงหาคม
2018 ตอนอายุ 15 ปี เกรต้า ตัดสินใจประท้วงไม่ไปโรงเรียนและเธอใช้เวลาหลายวันนั่งอยู่หน้ารัฐสภาของ
สวีเดนพร้อมกับชูป้ายแผ่นไม้ที่เขียนด้วยลายมือตัวเองว่า “ไม่ไปเรียนหนังสือเพื่อประท้วงโลกร้อน” 
เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเห็นความสำคัญสูงสุดในการแก้ไขปัญหาโลกร้อน ด้วยการกระทำของเธอกลายเป็นข่าว
พาดหัวไปทั่วโลก เธอทำให้เกิดการรณรงค์ของเยาวชนที่คิดเหมือนกัน ด้วยพลังที่ยืนหยัดอย่างกล้าหาญ
ของเธอ ผู้คนเป็นล้านๆ ทั่วโลกต้องการประท้วงแบบเดียวกันกับรัฐบาลของตนให้ใช้มาตรการที่ตรงเป้าทันที
 เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างรวดเร็ว 
dc02e9c0b70d6f47045d477c1055a789.jpg
           เกรต้า ได้พูดในที่ประชุม ซึ่งนำโดยเยาวชนบางกลุ่ม เพื่อเรียกร้องการเปลี่ยนแปลงนโยบายเรื่อง
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในระดับที่ใหญ่ขึ้น ตามที่สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานในเดือนสิงหาคม 2019
จำนวนผู้ประท้วงเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมีถึง 3.6 ล้านคน ใน 169 ประเทศ สาวน้อยที่กล้าหาญ
ผู้นี้ก็ยังปราศรัยในที่ประชุมเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติในปี 2018 ที่เรียกว่า
COP24 ในคาโตไวส์ ประเทศโปรแลนด์และได้เข้าพบกับเลขาธิการสหประชาชาติ นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส
เกี่ยวกับเรื่องที่เธอกังวล “ฉันอยู่ที่นี่เพื่อจะบอกว่า บ้านของเรากำลังไฟไหม้ และตอนนี้ไม่ใช่เวลาสำหรับการพูด
อย่างสุภาพหรือมุ่งไปที่ว่าอะไรควรพูดหรือไม่ควร ตอนนี้เป็นเวลาที่ต้องพูดให้ชัดเจน การแก้ไขปัญหาวิกฤต
ทางสภาพภูมิอากาศเป็นเรื่องท้าทายที่ซับซ้อนและยิ่งใหญ่ที่สุดที่มนุษย์ไม่เคยประสบมาก่อน อย่างไรก็ตามวิธี
แก้ปัญหานั้นง่ายมากที่แม้แต่เด็กเล็กก็สามารถเข้าใจได้คือ เราต้องหยุดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก” เกรต้ากล่าว
2820c6d961bb0a7981f64d881f23f2b2.jpg
          เกรต้าเป็นที่รู้จักในเรื่องการยึดหลักการ นอกจากการเป็นวีแกนที่ปลูกผักกินเอง เธอปฏิเสธที่ขึ้น
เครื่องบินเพื่อหลีกเลี่ยงการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่โลก ในเดือนสิงหาคม 2019 เธอใช้เรือที่ปราศจาก
ก๊าซเรือนกระจกเดินทางจากยุโรปข้ามมหาสมุทรแอตแลนด์ติกมาที่นิวยอร์ก โดยใช้เวลาถึง 14 วัน 
เพื่อเข้าร่วมประชุมสุดยอดระดับผู้นำโลกเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่สหประชาชาติ ”ไอเดีย
ที่แพร่หลายบอกว่าเราต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงครึ่งหนึ่งภายใน 10 ปี ข้างหน้า เพียงเพื่อให้เรา
มีโอกาส 50% ที่อุณหภูมิเฉลี่ยโลกเพิ่มขึ้นไม่เกิน 1.5 องศาเซลเซียส และความเสี่ยงในการนำไปสู่
กระบวนการที่ไม่สามารถย้อนกลับได้เหนือการควบคุมของมนุษย์ 50% คุณอาจยอมรับได้ แต่จำนวนเหล่านั้น
ยังไม่ได้รวมจุดผลิกผัน (Tipping points) วงจรสะท้อนกลับทั้งหมด และอากาศที่ร้อนขึ้นจากมลพิษต่างๆ 
หรือด้านความเสมอภาคและความเป็นธรรมในด้านภูมิอากาศอีกหลายๆ ปัจจัยที่ถาโถม พวกเขายังหวังพึ่งพา
คนรุ่นใหม่ ในการลดก๊าซนับแสนล้านต้นจากชั้นบรรยากาศด้วยเทคโนโลยีที่ยังไม่มีอยู่จริง ความเสี่ยง 50%
 จึงรับไม่ได้สำหรับเรา ที่ต้องมีชีวิตอยู่กับผลกระทบจากมัน” 
39d9f7493bb4feb387eb3ead302b8157.jpg
          เกรต้า ยังกล่าวในเวทีการประท้วงอีกว่า “ถ้าไม่มีใครที่จะลงมือทำ เราก็จะทำ มันไม่ควรเป็นแบบนั้น 
เราไม่ควรเป็นคนที่ต้องต่อสู้เพื่ออนาคต แต่ถึงกระนั้นเราก็ยังอยู่ที่นี่ เราไม่ได้เป็นแค่เยาวชนที่หนีเรียนหรือ
ผู้ใหญ่บางคนที่ไม่ทำงาน แต่เราเป็นคลื่นแห่งการเปลี่ยนแปลง!” 
         วันที่ 10 ธันวาคม 2018 โทรทัศน์สุพรีมมาสเตอร์ได้รับสิทธิพิเศษให้สัมภาษณ์เกรต้า ธันเบิร์กในเวลาสั้น
 ขณะที่เธอร่วมอยู่ใน COP24 ประเทศโปรแลนด์ดังนี้
นักข่าว : ฉันขอบคุณมากที่คุณเข้าไปดำเนินการมากมายเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ คุณคิดว่าการ
             แก้ปัญหาที่ดีที่สุดคืออะไร?
เกรต้า : เราต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก นั่นคือทางแก้
นักข่าว ; คุณคิดว่าการเป็นวีแก้นเป็นส่วนสำคัญที่สุดในนั้นไหม?
เกรต้า : ใช่ แน่นอนที่สุด
นักข่าว : คุณคิดว่าเราจะสามารถเรียกร้องให้เยาวชนมาเป็นวีแก้นมากขึ้นได้อย่างไร?
เกรต้า : ฉันคิดว่าแค่บอกความจริงกับพวกเขา เพราะถ้าเด็กๆ ไม่รู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น พวกเขาก็จะยังดำเนิน
            ชีวิตตามปกติต่อไปเหมือนก่อน
นักข่าว : ทำไมคุณถึงเป็นวีแก้น?
เกรต้า : ฉันดูวิดีโอเห็นสัตว์ถูกระทำอย่างเลวร้ายทารุณ ดังนั้นเมื่อคุณรู้ และตระหนัก คุณจะเข้าไปจัดการ
152f19301efbc0c14fbd891ce609a6dd.jpg
          ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ได้มอบรางวัลวีรสตรีโลกจรัสแสงให้แก่เกรต้า ธันเบิร์ก ด้วยความรัก ความชื่นชม 
และความปรารถนาดีที่สุดสำหรับความสำเร็จมากมายด้วยความเมตตาของพระเจ้า สำหรับการยืนหยัดอย่าง
กล้าหาญในการต่อต้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมทั้งความกล้าหาญที่เหนือธรรมดาของเธอในการ
เผชิญหน้ากับผู้นำโลกที่เพิกเฉยต่อการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในวันที่ 2 มีนาคม 2019
ท่านเขียนจดหมายถึงเกรต้า มีเนื้อความดังนี้
เกรต้าที่รัก
           ด้วยความชื่นชมยินดีและซาบซึ้งใจอย่างมากที่เราได้มอบรางวัลวีรสตรีโลกจรัสแสงให้กับคุณ สำหรับ
การยืนหยัดอย่างกล้าหาญในการต่อต้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รางวัลนี้ได้มอบให้เพื่อยกย่องถึง
ความกล้าหาญเหนือธรรมดาของคุณที่เผชิญหน้ากับผู้นำระดับโลกเกี่ยวกับอันตรายของความเพิกเฉยไม่ลงมือ
ทำอะไรของพวกเขา เปรียบเสมือนดวงประทีปแห่งความหวังสำหรับการดำรงชีวิตอย่างยั่งยืน ความพยายาม
อย่างจริงจังของคุณจะสร้างอนาคตที่สดใสกว่าให้กับมวลมนุษยชาติ นิตยสารไทม์ได้ประกาศชื่อของคุณให้
เป็นหนึ่งในผู้นำวัยรุ่นที่ทรงอิทธิพลที่สุดของโลกในปี 2018 สำหรับการแสดงออกอย่างชัดเจนถึงความกังวล
เกี่ยวกับโลกของเรา และการแก้ไขปัญหาอย่างแน่วแน่เพื่อการเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศน์ ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่
ตั้งแต่การเริ่มต้นอย่างโดดเดี่ยวของเด็กหญิงอายุ 15 ปี ที่นั่งอยู่บนทางเท้าหน้ารัฐสภาของสวีเดน ด้วยความ
เข้มแข็ง ความเชื่อมั่น และสติปัญญาของคุณสำหรับคนอายุน้อยที่ท้าทายความเชื่อ การศึกษาเกี่ยวกับ
ภูมิอากาศตอนอายุเพียง 9 ขวบ ประกอบด้วยหัวใจที่บริสุทธิ์และการกระทำเยี่ยงนักบุญ คุณได้ทำในสิ่งที่ยากยิ่งเสมือนการเคลื่อนย้ายภูเขาทีเดียวอย่างที่คุณกล่าวว่า “คุณไม่มีวันเด็กเกินไปที่จะสร้างความแตกต่าง” และอะไร
ที่แตกต่างคุณได้ทำมันไปแล้ว มันเหมือนกับคุณได้รับพลังจากบรรพบุรุษของคุณที่เป็นบิดาแห่งวิทยาศาสตร์
ด้านภูมิอากาศ ดร.สวานเต อาร์เฮเนียสให้สานต่องานอันสูงส่งต่อไป ตอนเริ่มต้นคุณเปลี่ยนเป็นวีแก้น 
แล้วครอบครัวของคุณก็เปลี่ยนไปทานผัก การประหยัดไฟ และการหยุดขึ้นเครื่องบิน จากนั้นโรงเรียนของคุณ
ก็เข้าร่วมในการประท้วงกับคุณ ในที่สุดนักเรียนนับหมื่นๆ คนทั่วโลกกำลังรณรงค์เรียกร้องเพื่อการเปลี่ยนแปลง
 คุณคือแรงบันดาลใจให้แก่คนรุ่นใหม่ คือผู้นำของอนาคต และนักเคลื่อนไหวที่ร่วมตัวกันมอบความหวังให้แก่
โลกของเราและโอกาสในการลดภาวะโลกร้อน สำหรับความพยายามอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยและการกระทำที่
ไร้ตัวตนอย่างอุทิศตนเพื่อปกป้องโลกของเรา และสำหรับการเป็นแบบอย่างที่อุทิศตนด้วยบทบาทที่สูงส่ง
 ด้วยประการฉะนี้ เราขอปรบมือและสรรเสริญการกระทำอย่างวีรบุรุษของเกรต้า ธันเบิร์ก ขอให้คุณได้รับการ
อวยพรมากมายสำหรับการอุทิศตนเพื่อความอยู่ดีของโลก
 
                  ด้วยความนับถือ ด้วยรักและด้วยพระพรในความเมตตาของพระเจ้าอย่างสูงสุด
                        อนุตราจารย์ชิงไห่
                                                                     
ติดตตามเรื่องของเกรต้า ธันเบิร์กได้ที่ :
https://suprememastertv.com/th1/v/91265103959.html
https://suprememastertv.com/th1/v/55457503415.html
https://suprememastertv.com/th1/v/55457503397.html
23 กันยายน 2564 21:37 น.

คำแนะนำเกี่ยวกับโควิด-19

คีตากะ

คำแนะนำเกี่ยวกับโควิด-19 ของท่านอุตราจารย์ชิงไห่ จงนอบน้อมถ่อมตน จงสวดอธิษฐาน จงสำนึกในบุญคุณ
          ด้วยความกังวลและความรักต่อความปลอดภัยของสมาชิกสมาคมของเราระหว่างการแพร่ระบาด 
ในวันที่ 27 สิงหาคม 2021 ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ที่รักที่สุดของเราแบ่งปันคำแนะนำที่ใส่ใจพร้อมกับ
การเยียวยาพิเศษบางอย่าง เพื่อเป็นการป้องกันโควิด-19 และสายพันธุ์ที่เกิดใหม่ที่ยิ่งอันตรายขึ้นของมัน 
อาจารย์ขอให้เราแบ่งปันข้อความนี้กับโลกเพื่อช่วยเหลือในช่วงเวลาที่ยังไม่แน่นอนนี้สำหรับทุกคน
นี่เป็นเพียงคำเตือนสำหรับพวกคุณทุกคนวิญญาณที่ยอดเยี่ยมทั้งหลาย โควิดได้กลายพันธุ์ไปหลายชนิด
ทีเดียวแต่เดลด้า ดูเหมือนจะเลวร้ายที่สุดตอนนี้ถึงแม้ว่าจะมีสายพันธุ์ใหม่แต่นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า 
มันไม่เลวร้ายเท่าเดลต้า สายพันธ์เดลต้าได้ทำให้ผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้น หลาย ๆ ประเทศกำลังต่อสู้กับการติดเชื้อ
และการรักษาในโรงพยาบาลที่เพิ่มขึ้น โดยพบการติดเชื้อที่ลุกลามในหมู่ผู้ที่ได้ฉีดวัคซีนแล้ว การศึกษาหนึ่ง
ของเกาหลีใต้ได้พบว่าคนที่ติดเชื้อด้วยสายพันธุ์เดลต้ามีปริมาณไวรัสสูงกว่าคนที่ติดด้วยสายพันธ์ดั้งเดิม
ของโคโรนาไวรัสถึง 300 เท่า ตอนนี้ ปริมาณไวรัสที่สูงขึ้นหมายถึงว่าไวรัสได้แพร่กระจายง่ายมากขึ้น 
จากคนสู่คน ซึ่งหมายถึงการติดเชื้อและการเข้ารักษาในโรงพยาบาลทั่วโลกเพิ่มขึ้น การวิจัยทางระบาดวิทยา
ยังชี้ให้เห็นว่าสายพันธุ์เดลต้าอย่างน้อยแพร่เชื้อได้มากกว่ารุ่นอัลฟ่า 40% ผลการศึกษาชี้ว่า บุคคลที่ได้รับ
การฉีดวัคซีนครบถ้วนยังคงมีความเสี่ยงโดยการติดเชื้อที่ลุกลามกลายเป็นเรื่องธรรมดามากขึ้นเรื่อย ๆ  
เดลต้ากลายพันธุ์ที่ติดง่ายที่สุดที่ระบุได้จนถึงขณะนี้ ซีดีซี (ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา) 
ตอนนี้กล่าวว่าสายพันธุ์เดลต้าติดต่อได้ง่ายกว่าไข้หวัดธรรมดา ง่ายกว่าโรคฝีดาษ หรือแม้แต่อีโบลา 
และข้อมูลใหม่แสดงให้เห็นว่าปริมาณไวรัสในคนที่ฉีดวัคซีนแล้วที่ติดเชื้อนั้นเหมือนกันกับคนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน
 - หมายถึงคนที่ฉีดวัคซีนแล้วก็ยังแพร่เชื้อได้ สายพันธุ์เดลต้ากำลังแพร่กระจายในมากกว่าสองในสาม
ของประเทศทั้งหมด ในประเทศแปซิฟิกตะวันตกคนมากกว่าหกล้านคนทั่วภูมิภาคได้ติดเชื้อด้วยอินโดนีเซีย
 ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงที่สุด การพุ่งขึ้นของการติดเชื้อกำลังผลักดันระบบสาธาณสุข
อย่างอันตรายใกล้กับสิ่งที่เราเรียกว่า"เส้นตาย" คนมากกว่า 100,000 คน ได้รับการรักษาโควิด-19 
ในโรงพยาบาลต่าง ๆ ในประเทศตอนนี้ เด็ก ๆ และวัยรุ่นในนิวเซาท์เวส์ นับเป็น 30% ของการติดเชื้อ
ในวิคตอเรียมันมากถึง 45% ด้วยการวิจัยแสดงว่า เด็ก ๆ อ่อนแอเป็นพิเศษต่อการติดเชื้อโควิดระยะยาว
อีกตัวเลขหนึ่งที่น่าตกใจ ! เด็ก ๆ ในโรงพยาบาลตอนนี้-  เด็ก 2,100 คนในประเทศ จำนวนสูงที่สุดในหนึ่งปี 
เดลต้ากำลังก่อ ...กำลังก่อให้เกิดโรคร้ายแรงแล้ว และอาจมีผลกระทบระยะยาวที่จะส่งผลต่อเด็กไปอีกนาน
หลายปี เรากำลังอยู่ในโลกโควิดในอนาคตที่เล็งเห็นได้ อันที่จริงมันไม่ชัดเจนว่าจุดจบของเกมนี้คืออะไร 
และการจบเกมอาจจะเลวร้ายกว่าที่เราเป็นอยู่ตอนนี้ เพราะมันไม่มีอะไรรับรองว่าเดลต้าเป็นสายพันธุ์ที่เลวร้าย
ที่สุดที่เราสามารถเห็นได้
   
          ถ้าคุณอ่านข่าวทุกหนแห่งผู้คนกำลังติดเชื้อง่ายขึ้นและเร็วขึ้นกว่าแต่ก่อน แม้แต่คนที่ฉีดวัคซีนแล้ว
สองโดสแล้วก็ยีงป่วยและเสียชีวิตเช่นกันในเวลาอันสั้นไม่นานรวมทั้งเด็ก ๆ แต่ก่อนเด็ก ๆ ยังรอดพ้นจาก
โควิด - ไม่มากก็น้อยแต่ตอนนี้เดลต้าไม่ละเว้นใคร และมันแพร่กระจายเร็วมากแม้แต่ใส่แมสและเฟสชีล
และทั้งหมดนั่น ถ้าคุณอยู่ในห้องหนึ่งนานเกินไปกับคนจำนวนมาก โดยเฉพาะถ้าใครป่วยในนั้น คุณจะติดมัน 
คุณอาจจะติดมันแล้วแต่คุณไม่คิดว่าติดเพราะคุณไม่แสดงอาการ นอกจากการระมัดระวังทั้งหมด 
คุณต้องถ่อมตนเสมอ สำนึกในบุญคุณที่คุณยังแข็งแรง สวดอธิษฐานให้คุณปลอดภัย สวดอธิฐานให้
มีการคุ้มครอง ถ้าคุณยังมีนิสัยที่เย่อหยิ่งแบบ "โอเค ฉันเป็นมังสวิรัติ ฉันเป็นวีแกน ฉันกินอาหารดิบ 
อะไรก็ตามแล้วฉันจะไม่ติด" ไม่ คุณอาจจะติด เพราะโควิด-19 โดยเฉพาะ เดลต้า พวกเขามีวิญญาณ 
อย่างในเครื่องบิน เป็นต้น แล้วพวกเขารู้ทุกอย่าง พวกเขาได้ยินทุกอย่าง พวกเขาจะมาหาคุณ ดังนั้น
คุณอาจจะติด แม้ว่าคุณเป็นวีแกนหรือกินอาหารดิบ หรืออะไรก็ตาม โดยเฉพาะถ้าคุณบอกคนอื่น บอกข้อมูล
คนอื่นผิด ๆ ว่า "โอเค คุณต้องเป็นอย่างนี้ คุณต้องทำอย่างนั้น แล้วคุณไม่สนใจ คุณไม่จำเป็นต้องใส่แมส 
เพราะมันไม่ดีต่อสุขภาพเพราะคุณเอาแต่จะคิดถึงความป่วย"  ไม่ คุณไม่ต้องคิดถึงความป่วย คุณไม่ต้องคิดว่า
คุณอาจจะติดมัน คุณเพียงระมัดระวัง การระมัดระวังนั้นดีต่อสุขภาพเสมอ เพราะถ้าคุณติดคุณอาจจะกระจายเชื้อ
ไปให้ผู้อื่น สมาชิกครอบครัวและทั้งหมดนั่น มันไม่ดีเพราะคุณอาจจะติด แต่คุณเป็นพวกไม่แสดงอาการ
แล้วคุณไม่รู้แล้วคุณก็เอาแต่โม้มากมาย แล้วคุณไปทุกหนทุกแห่งโดยไม่ใส่แมส หรือไม่ระมัดระวัง
แล้วคุณก็อาจจะติดเชื้อได้ คนจำนวนมากล้อเลียนคนที่ยอมรับโควิดและปฎิเสธว่าโควิดเป็นสิ่งสำคัญและจริงจัง
พวกเขาต่างก็ตายไปหมด มันอยู่ในข่าวทั้งหมด แม้เด็ก ใครก็ตาม คุณไม่สามารถไม่เคารพ ไวรัสประเภทนี้ได้ 
ถ้าคุณเกิดอยู่ในที่แออัดสักแห่งอย่างในเครื่องบิน ถึงแม้ว่าแต่ก่อน พวกเขาพูดว่า "มันยากมากที่คุณจะติดมัน 
โอกาสนั้นน้อยมากที่จะติดมันด้วยการโดยสารทางเครื่องบิน"  แต่ตอนนี้ผู้คนก็ติดมันทุกหนแห่ง และจำนวน
ผู้เสียชีวิตก็พุ่งขึ้น และจำนวนติดเชื้อของเด็ก ๆ ก็พุ่งขึ้นไม่เหมือนแต่ก่อน แล้วการเสียชีวิตของเด็ก ๆ 
ก็พุ่งขึ้นเช่นกัน โรงพยาบาลจำนวนมาก โรงพยาบาลรัฐจำนวนมาก เต็มพิกัด คนบางคนไม่ได้รับการยอมรับ
เข้ารักษาในโรงพยาบาล ถึงแม้ว่าพวกเขาจะป่วยมาก ดังนั้น ถ้าคุณป่วยแล้วคุณอยู่ในโรงพยาบาลแล้ว
ได้รับการดูแลรักษา นั่นนับเป็นพระพรของคุณ ขอบคุณพระเจ้า ขอบคุณสวรรค์สำหรับสิ่งนั้น
            ฉันให้การป้องกันเพิ่มเติมบางอย่างแก่คุณหรือยารักษาเพิ่มเติมและเคล็ดลับ ถ้าคุณอยากลองทานมัน
ระหว่างการทานยาที่แพทย์สั่ง อย่าทานพร้อมกันอย่างน้อย 30 นาทีหลังจากนั้นอย่าง ถ้าคุณมีมันหรือถ้าคุณ
ทำได้ คุณสามารถบดกระเทียมสดและใช้ประมาณหนึ่งช้อนชา สองครั้งต่อวัน เว้นระยะ 12 ชม. ถ้าคุณไม่มีสด
คุณสามารถกินผงกระเทียมแห้งก็ได้ ปริมาณคล้าย ๆ กัน มันจะได้ผลเช่นกัน แล้วคุณยังสามารถกินพวก 
วิตามิน ดี2 หรือ ดี3 (วีแกน) วิตามินอี และแน่นอน วิตามินรวมพร้อมอาหาร หวังว่าสิ่งเหล่านี้จะช่วยคุณ
ถ้าคุณต้องเดินทางระยะไกล และต้องพบปะคนอื่นอย่างในเครื่องบิน เป็นต้น ก่อนคุณไป คุณกินพวกนั้น
กินมันทั้งหมด แน่นอน มันจะกลิ่นไม่หอมแต่หลังจากนั้นคุณดื่มอะไรสักอย่าง คุณกินมิ้นต์เพื่อเจือจาง
กลิ่นกระเทียม มีส่วนผสมแก้ไข้หวัดใหญ่ด้วยที่เราเคยสอนคุณมาก่อน มันยังคงอยู่บนอินเตอร์เน็ต 
อาจจะในตำราอาหารของเราหรืออะไรสักอย่าง ดังนั้นกินมันและวิตามินเหล่านั้นและกระเทียมก่อนไป 
ดีกว่าเมื่ออาการเพิ่งเริ่ม ถ้าอาการยังคงอยู่หลังจาก 2 วัน คุณควรปรึกษาแพทย์ของคุณ ทั้งหมดนี่เพื่อการ
ป้องกันและเพิ่มพลังพิเศษเพื่อการฟื้นตัวไม่ใช่การทดแทนยาที่แพทย์สั่งมาให้สำหรับการติดเชื้อ ปรึกษา
แพทย์คุณเสมอ ถ้าอาการไม่บรรเทา นอกจากนี้คุณยังสามารถทานน้ำมะนาวบริสุทธิ์หนึ่งช้อนชา สองครั้งต่อวัน ทั้งหมดที่อาจช่วยคุณได้มากขึ้นดีกว่าไม่มีอะไร แม้ว่าพวกมันจะไม่ช่วย มันก็ไม่อันตราย อย่างน้อยก็ไม่เสียหาย 
สิ่งสำคัญก็คือคุณต้องอ่อนน้อมถ่อมตน คุณไม่สามารถมีทัศนคติที่ไม่ระมัดระวังและเย่อหยิ่งไม่ได้ คุณคิดว่า 
พวกอาหารดิบจะปกป้องคุณ ไม่ ไม่ ไม่ มันไม่ใช่อย่างนั้น มันอาจจะช่วยเพราะกรรมของคุณดีกว่า คุณยังมี
กรรมดีเหลืออยู่บ้างและพระพรของพระเจ้า ! แต่ถ้าคุณปะปนกันมากเกินไปกับคนจำนวนมาก คุณจะติดมัน
ไม่ใช่เพราะไวรัสไม่แพร่กระจายอย่างรวดเร็วถ้าคุณรีบออกไปแต่เพราะคุณคลุกคลีกับคนมากเกินไป 
พลังงานที่แตกต่างกัน อาจจะเป็นระดับจิตวิญญาณที่ต่ำมากแล้วคุณจะได้รับมัน เพราะกรรมของคุณอาจ
ไม่เพียงพอที่จะครอบคลุม บางทีคุณอาจไม่ถ่อมตัวพอ พระเจ้าช่วยคนที่ช่วยตัวเอง อย่าเพียงพึ่งพาพระเจ้า
หรือสวรรค์เพียงอย่างเดียว ตุณต้องดูแลตัวคุณเองด้วย พระเจ้าไม่สามารถกินเพื่อคุณ เข้าใจไหม? 
พระเจ้าไม่สามารถขับรถของคุณได้ เข้าใจไหม? พระเจ้าไม่สามารถสวมเสื้อผ้าให้คุณได้ คุณมีร่างกาย
ภาพในมิติทางกายภาพ คุณต้องดูแลในโลกกายภาพในทางกายภาพ และพระเจ้าช่วย แน่นอน คุณต้อง
อธิษฐานตลอดเวลา จดจำห้าพระนามศักดิ์สิทธิ์ และอย่าคิดว่าคุณเป็นผู้บำพ็ญที่ดีและทั้งหมดนั้นแล้วคุณ
จะไม่ติดโควิด ไม่ คุณอาจจะไม้ได้ดีอย่างที่คุณคิด ถ้ากรรมของคุณหนักและคุณฝึกได้ไม่ดีทุกวันเพื่อป้องกัน
ตัวเอง แล้วคุณก็ยังอาจได้รับมัน ไม่ใช่แค่โควิดหรือเดลต้าอาจจะเป็นอย่างอื่น อ่อนน้อมถ่อมตนเสมอ 
สำนึกในบุญคุณและอธิษฐานขอความคุ้มครอง นั่นคือทั้งหมดที่คุณสามารถทำได้ ถ้าคุณยังติด งั้นก็หมายความ
ว่าคุณหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื้อกับไข่และปลาแต่ก่อนมาวิ่งไล่ตามคุณ เดลต้านั้นจริง ๆ มองหาผู้คน มันไล่ตาม
ติดตามคนจริง ๆ - ติดตามคนชั้นต่ำเหล่านั้นเพื่อแพร่เชื้อให้กับพวกเขา ดังนั้นให้แน่ใจว่าระดับของคุณนั้นสูง
ให้แน่ใจว่าคุณนั่งสมาธิได้ดีเช่นกัน วีแกนนั้นไม่เพียงพอดีกว่ากินเนื้อสัตว์ แน่นอน แน่นอน แต่มีหลายปัจจัย
ที่เกี่ยวข้อง ส่วนใหญ่ ชาววีแกนถ้าบริสุทธิ์และนอบน้อมถ่อมตนและสำนึกผิด พวกเขาจะได้รับการคุ้มครอง
มากกว่า แต่วีแกนอย่างเดียวไม่ใช่การป้องกันร้อยเปอร์เซ็นต์ เป็นการป้องกันที่ยิ่งใหญ่ยิ่งกว่าคนที่กินเลือด
และเนื้อของสัตว์ แต่ยังไง ทัศนคติของเรา ความจริงใจ ความบริสุทธิ์ของเราก็มีอิทธิพลมากเช่นกัน 
เพราะกรรมที่เราแบกไว้จะดึงดูดกรรมประเภทต่าง ๆ และผสมกันกับพวกเขาในที่สาธารณะที่มีพลังงานต่าง ๆ 
มากมาย และผสมปนเป ต่ำ สูงและกลาง คุณไม่มีทางรู้ว่าใครเป็นใคร ที่จะนำพาเชื้อมาติดคุณ คนที่ยังไม่ติด
 : อย่าคุยโวเกินไป ขนาดฉันยังไม่กล้าเลย ถ้าฉันออกไปข้างนอก ฉันใส่แมส ส่วนใหญ่ฉันใส่มันอยู่แล้ว
ก่อนเกิดโรคระบาดด้วยซ้ำ ฉันใส่มันทุกที่ที่ฉันทำได้ ถ้าฉันออกไปคลุกคลีกับผู้คน ยกเว้นกับลูกศิษย์ ฉันใส่
น้อยลง ฉันใส่ใจน้อยลง เพราะฉันใส่แมสไม่ได้และเฟสชีลและทุกสิ่ง พวกเขามองไม่เห็นฉันและฉันก็พูดได้
ไม่ถนัดนัก แต่เมื่อฉันออกไปข้างนอกเหมือนเมื่อก่อน นานมาแล้ว เช่น ไปช้อปปิ้ง หรืออะไรก็ตาม ฉันพยายาม
ใส่แมสเวลาไปเที่ยวก็ใส่แมส แม้แต่เวลาอยู่ที่บ้านกับคนอื่น ฉันก็ใส่แมส ฉันบอก " เผื่อฉันป่วยแล้วฉันอาจจะ
ทำคุณติด" แล้วคนที่อยู่รอบตัวฉัน คนที่ทำงานจากนานมาแล้วจนถึงตอนนี้ หรือในร้านอาหาร ฉันมักจะแนะนำ
พวกเขาให้ใส่แมส และถุงมือและทั้งหมดนั่น เพียงเพื่อป้องกัน กันและกัน เราทำดีที่สุดของเราแล้วสวรรค์ทำ
ที่เหลือ อย่าเย่อหยิ่งมากหรือทะนงตนนัก แล้วคุณอาจจะได้แปลกใจมาก เซอร์ไพรส์ไม่ดีเสมอไป ดูแลตัวเอง
ให้ดีเรามีปัญหาใหญ่มาก ๆ ตอนนี้ ฉันหมายถึงทั้งโลก สายพันธุ์ใหม่ตัวแล้วตัวเล่า เดลต้านี่แรงมาก ดังนั้น 
หลาย ๆ ประเทศได้เปิดแล้ว คิดว่าการแพร่ระบาดนั้นลดลงแล้ว แต่หลาย ๆ แห่งต้องปิดอีกครั้ง เพราะเดลต้า
ตัวนี้เจ้าเล่ห์จริง ๆ ร้ายมาก ๆ ชั่วร้ายมาก ดังนั้น อย่าคิดว่ามันง่ายแล้วประมาท
         ลูกศิษย์ส่วนใหญ่นั้นปลอดภัย นอกจากคนที่ระดับต่ำหรือดูแลไม่ดี หรือกินอะไรผิดแล้วพวกเขาไม่รู้
ด้วยซ้ำ คุณรู้ไหม กินอะไรที่ไม่บริสุทธ์ หรือคลุกคลีกับคนที่ไม่บริสุทธิ์นักบ่อยเกินไป หรือนานเกินไปแล้วก็
จะป่วยได้เช่นกัน อย่าทดสอบพระเจ้า อย่าทดสอบสวรรค์ การประทับจิตใด ๆ : จำนวนคนน้อย ๆ นั่งห่าง ๆ 
และทำภายนอก ไม่ใช่ในห้อง ดูแลตัวคุณเอง จงนอบน้อมถ่อมตน จงอธิษฐาน จงสำนึกในบุญคุณ
ตลอดเวลา ตลอดเวลาแม้ว่าเราไม่มีโรคระบาด ก็สำนึกในบุญคุณ ถ่อมตนเสมอ
        ส่วนผสมแก้ไข้หวัดใหญ่ที่ฉันได้ทำแต่ก่อนนานแล้ว สำหรับกรณีที่ไม่รุนแรง มันสามารถช่วยได้
อย่างรวดเร็วมาก หรือสำหรับตอนเริ่มต้นของการติดเชื้อ ถ้าเป็นระยะยาวแล้ว มันอาจช่วยได้เช่นกัน แต่อาจจะ
สังเกตเห็นได้น้อย คุณสามารถลองได้ ไม่เสียหาย  มันไม่เสียหายเลย กระเทียมอาจมีกลิ่นเหม็นแต่คุณกิน
มิลต์บ้างหรืออะไรหลังจากนั้น ดื่มนมวีแกนกับมิ้นต์ -  สะระแหน่ หรือชากับสะระแหน่ เพื่อเจือจางกลิ่น
แล้วมันก็โอเค แม้ไม่ค่อยโอเคนัก แต่สิ่งนี้สามารถช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้น มันไม่ทำร้ายคุณในทางใด ไม่มีผล
ข้างเคียงแต่อย่าทานมากกว่าที่แนะนำ เช่นเดียวกับวิตามิน คุณทานตามปริมาณหรือตามที่แพทย์บอกคุณ
เช่นเดียวกับกระเทียมและอื่น ๆ ก็ทานมันให้พอดี ๆ 
       แม้คุณมีกรรมดีแต่ถ้าคุณคลุกคลีกับผู้คนมากมายบ่อยเกินไป คนที่มีกรรมหนัก แล้วคุณจะแบ่งปันกรรม
ของพวกเขา แล้วคุณอาจจะได้รับมันเช่นกัน อาจจะไม่ติดเชื้อหนักเกินไป บางทีคุณอาจคิดว่ามันเป็นแค่ปวดหัว
หรืออะไรซักอย่าง แต่ถ้าคุณเห็นอาการใด ๆ และคุณสงสัย คุณต้องไปพบแพทย์ คุณต้องไปตรวจ 
คุณไม่สามารถพูดได้เพียงว่า "อ๋อ เพราะมันฝนตก หรือเพราะเป็นวันที่อากาศหนาวเย็น" ไม่ ไม่ ไม่ไม่
คุณต้องไปตรวจ ก่อนที่มันจะสายเกินไป ถ้าคุณยิ่งรู้เร็วขึ้น มันก็จะรักษาได้ง่ายขึ้น ถ้าคุณยิ่งรู้เร็วขึ้น
แม้แต่กระเทียมหรือยาแก้ไข้หวัดใหญ่ก็รักษาคุณได้ด้วย - กับการแยกตัวสามสัปดาห์ แน่นอน อย่างน้อย
สองสัปดาห์ แต่ถ้ามันนานมาแล้ว และคุณไม่รู้ด้วยซ้ำ หรือคุณคิดว่ามันก็แค่ไข้หวัดธรรมดา ๆ และคุณปล่อย
ให้มันนานเกินไป แล้วมันยากมากที่จะหายป่วย ที่จะเยียวยา เพราะปอดของคุณอาจจะเสียหายหรือหัวใจ
ของคุณ หรือแม้แต่สมองของคุณมันอาจสร้างความเสียหายให้กับระบบภายใน อวัยวะภายในของคุณแล้ว
จะรักษาให้หายได้ยาก หรือมันอาจทำลายหลายอวัยวะด้วยกัน ขึ้นอยู่กับว่ามันแย่แค่ไหน ขึ้นอยู่กับจำนวน
ของไวรัสที่คุณได้รับจากผู้อื่น จำนวนของไวรัสมีความสำคัญมากเช่นกัน เพราะบางครั้งคุณได้รับไม่มาก 
แล้วคุณจะรู้สึกแย่และหายขาดได้ง่าย นั่นคือเหตุผลที่คุณมีอาการเล็กน้อย แต่ถ้าคุณได้รับเยอะไวรัส
จำนวนมาก ๆ แล้วมันยากมากที่จะรักษาหาย มันอาจจะถึงตายได้เช่นกัน ดังนั้นจงระมัดระวังให้มาก ดังนั้น
อย่าคิดว่ามันง่ายแล้วประมาท เราทุกคนล้วนมีกรรมชั่ว จึงต้องจำไว้ 
        อยู่ดี ปลอดภัย ขอบคุณพระเจ้า รักคุณ รักพวกคุณทุกคน พระเจ้าอวยพร พระเจ้าอวยพรคุณ พระเจ้า
อวยพรโลกของเรา พระเจ้ารู้ พระเจ้ารู้ว่ามันยากแค่ไหนสำหรับทุกคนในตอนนี้ ไร้อิสระ ไร้งาน ไร้ความปลอดภัย
ไม่มีการรับประกันเกี่ยวกับทุกสิ่งเพียงเพราะดาวเคราห์ของเราเดือดร้อนจริงตอนนี้ มันเริ่มเร็วขึ้นและเร็วขึ้น
ฉันเป็นห่วงทุกคนจริง ๆ แต่เราจะทำอะไรได้? ฉันจะทำให้ดีที่สุด คุณก็เช่นกัน โอเค? ฉันพยายามอย่างเต็มที่
เพื่อช่วยคุณ เช่นกัน รักษาตัว พระเจ้ารัก โอเค แค่นี้แหละสำหรับตอนนี้ ขอให้พวกคุณทุกคนโชคดี
วัตถุดิบการทำชาสมุนไพรแก้โรค :
- น้ำเปล่า 650 มล. (3 ถ้วย)
- กานพลู 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
- ขิง 20 กรัม ( 1ออนซ์)(ประมาณนิ้วหัวแม่มือ)
- โป๊ยกั๊ก 2 ดอก
- อบเชย 10 กรัม (0.5 ออนซ์)
- กระเทียม 1 กลีบ
- น้ำตาลกรวด 50 กรัม (2 ออนซ์) (ตามชอบ)
วิธีการทำ
ล้างส่วนผสมด้วยน้ำ (ไม่รวมน้ำตาลกรวด) พักไว้ รวมส่วนผสมทั้งหมด ด้วยน้ำในหม้อ น้ำไปต้มด้วยไฟแรง
ลดความร้อนต่ำ และเคี่ยวนาน 20 นาที กรองกากตะกอนออก
* สำหรับ 2 ท่าน ส่วนผสม 2 เท่า
ชานี้มีประสิทธิภาพโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพื่อรักษาโรคไข้หวัดใหญ่ และเพื่อแก้อาการคัดจมูกน้ำมูกไหล
ติดตามรายละเอียดได้ที่ https://suprememastertv.com/th1/v/142713932595.html
1 สิงหาคม 2564 23:01 น.

ความปรารถนาสองประการ

คีตากะ

คาลิล ยิบราน เขียน
กิติมา  อมรทัต แปลและเรียบเรียง
     ในความสงัดแห่งรัตติกาล ความตายได้ลงมาจากพระผู้เป็นเจ้ามาสู่เมืองซึ่งกำลังหลับและนั่งลงบนหอคอย
ที่สูงที่สุดในเมืองนั้น มันมองทะลุกำแพงบ้านต่างๆ ด้วยนัยน์ตาอันสุกใสของมันและมองเห็นดวงวิญญาณกำลัง
ร่อนไปบนปีกแห่งความฝัน และร่างกายหลับไหลอยู่ในบ้านเหล่านั้น
      และเมื่อดวงจันทร์จางแสงลงยามใกล้รุ่งและเมืองถูกปกคลุมด้วยม่านอันงดงาม ความตายก็เดินด้วยฝีเท้า
อันแผ่วเบาไปท่ามกลางที่อยู่อาศัยเหล่านั้นจนกระทั่งมาถึงคฤหาสน์ของเศรษฐี มันก้าวเข้าไปข้างในโดยไม่มี
ใครหยุดยั้งมันได้ มันยืนอยู่ข้างเตียงแล้วแตะเปลือกตาของผู้หลับอยู่ เศรษฐีตื่นขึ้นอย่างตกใจ เมื่อเขามองเห็น
ภูติแห่งความตายยืนอยู่ต่อหน้าเขา เขาก็ร้องออกมาด้วยเสียงที่ระคนด้วยความกลัวและความโกรธ
     "จงออกไปเสียจากข้า เจ้าความฝันที่น่ากลัว ไปให้พ้นนะเจ้าผีที่ชั่วร้ายเจ้าเข้ามาได้อย่างไร ไอ้ขโมย 
เจ้าต้องการอะไร ไอ้ผู้ร้าย จงไปเสียให้พ้นเพราะข้าคือนายของบ้านนี้ ออกไปเสียเดี๋ยวนี้ มิฉะนั้นข้าจะเรียก
ทาสและคนยามของข้ามาฉีกเจ้าออกเป็นชิ้นๆ"
      ความตายเข้าไปใกล้แล้วพูดขึ้นด้วยเสียงดังเหมือนฟ้าฝ่า "ข้าคือความตาย จงรู้ไว้และทำตัวให้อ่อนน้อม"
       เศรษฐีมีอำนาจผู้นั้นถามว่า "เจ้าต้องการอะไรจากข้า? เจ้ามาหาอะไร? เจ้ามาทำไมในเมื่องานของข้ายัง
ไม่เสร็จสิ้น? เจ้าต้องการอะไรจากผู้มีอำนาจเยี่ยงข้านี้? จงไปหาคนเจ็บซิ ออกไปให้พ้น อย่ามาให้ข้าเห็นเล็บ
อันคมและขมวดผมซึ่งห้อยอยู่เหมือนกับขดงูของเจ้าเลย ไปให้พ้นนะเพราะข้าขยะแขยงต่อภาพปีกอันน่า
เกลียดกลัวและร่างน่ารังเกียจของเจ้านัก" แต่หลังจากเงียบไปด้วยความอึดอัดครู่หนึ่ง เขาก็พูดขึ้นอีกว่า
       "เปล่า เปล่าดอก ความตายผู้เมตตา โปรดอย่าสนใจในสิ่งที่ข้าพเจ้าพูดเลย เพราะความกลัวทำให้ข้าพเจ้า
กล่าวในสิ่งที่หัวใจของข้าพเจ้าห้าม จงรับเอาทองคำจากข้าพเจ้าหรือวิญญาณของทาสสักคนหนึ่งไปและปล่อย
ข้าพเจ้าไว้เถิด ข้าพเจ้ายังต้องคิดบัญชีกับชีวิตซึ่งยังไม่สัมฤทธิผล อีกทั้งบัญชีทรัพย์สินซึ่งคนทั้งหลายยังไม่ได้
รวบรวมมาให้ ข้าพเจ้ามีเรือเดินทะเลซึ่งยังมาไม่ถึงฝั่งและผลิตผลจากแผ่นดินซึ่งยังมิได้เก็บเกี่ยว ขอท่านจงรับ
เอาสิ่งที่ท่านต้องประสงค์และไปเสียเถิด ข้าพเจ้ามีนางบำเรอที่งดงามเหมือนดังอรุณรุ่งให้ท่านเลือก 
โอ้ความตายจงฟังต่อสักนิดเถิด ข้าพเจ้ามีบุตรชายคนเดียวซึ่งข้าพเจ้ารักเหมือนแก้วตา ท่านจะเอาเขาไปด้วย
ก็ได้ แต่จงปล่อยข้าพเจ้าเถิด"
       แล้วความตายก็เอามือวางลงบนปากของทาสแห่งโลกีย์ชีวิตผู้นี้ แล้วหยิบเอาแก่นชีวิตของเขาส่งไป
ในอากาศ
       ความตายเดินต่อไปยังถิ่นของคนจนจนกระทั่งมาถึงที่อยู่อันซอมซ่อหลังหนึ่ง มันเข้าไปข้างใน ไปยืนอยู่
ข้างเตียงซึ่งชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังนอนอยู่ หลังจากจ้องมองดูสีหน้าอันสงบของเขาแล้ว มันก็แตะเปลือกตา
ของเขาและชายหนุ่มก็ตื่นขึ้น และเมื่อเขามองเห็นความตายยืนอยู่เหนือเขา เขาก็คุกเข่าลงพลางยื่นมือ
ออกไปหา ด้วยเสียงอันเต็มไปด้วยความใฝ่ฝันถึง และความรักจากดวงจิต เขาได้พูดขึ้นว่า
       "ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่แล้ว โอ้ความตายผู้งดงาม จงรับเอาดวงวิญญาณของข้าพเจ้าไปเถิด โอ้ความเป็นจริง
ของความฝันและเนื้อหาแห่งความหวังของข้าฯ จงโอบข้าฯ ไว้เถิด ที่รักแห่งดวงวิญญาณของข้าฯ เพราะท่านนั้น
แสนการุญและคงไม่ปล่อยข้าฯ ไว้ที่นี่อีก ท่านคือผู้สื่อสารแห่งปวงเทพ ท่านคือหัตถ์ขวาแห่งสัจจะ
        จงอย่าทิ้งข้าฯ ไปเลย ข้าฯ ได้แสวงหาท่านมานานแต่ไม่พานพบ ข้าฯ เรียกหาท่านแต่ท่านหาได้ยินไม่
แต่บัดนี้ท่านได้ยินข้าพเจ้าแล้ว ฉะนั้นจงอย่าตอบแทนความรักของข้าฯ ด้วยความเมินเฉย จงโอบเอาวิญญาณ
ข้าฯไว้เถิดความตายที่รักของข้าฯ"
        แล้วความตายก็วางนิ้วอันอ่อนโยนของมันลงบนริมฝีปากของเด็กหนุ่มและนำเอาแก่นแท้ของเขาสอดไว้
ใต้ปีกของมัน
        ขณะที่ความตายฝ่าอากาศกลับไปนั้น มันได้มองกลับมายังโลกนี้และได้เอ่ยถ้อยคำเหล่านี้มาตาม
ความว่างเปล่า
        "ผู้ใดมิได้มาจากสิ่งอันเป็นนิรันดร์ย่อมจักไม่กลับคืนสู่สิ่งอันเป็นนิรันดร์"
...........................................................................................................................
ไม่มีข้อความส่งถึงคีตากะ