สัพเพ สัตตา อะเวรา โหนตุสัพเพ สัตตา อัพยาปัชฌา โหนตุสัพเพ สัตตา อะนีฆา โหนตุสัพเพ สัตตา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุสหายเอ๋ย...มนุษย์สุดมืดบอดเพียงหนีรอดดิ้นรนทนขวนขวายดำรงชีพวันวันเพียงกันตายกรรมมากมายที่ก่อเพราะอวิชชาสหายเอ๋ย...กฎเกณฑ์เฆี่ยนเข่นเขาทุกค่ำเช้าซัดโบยล้วนโหยหาเตลิดไปในฝันจินตนาสุดท้ายคว้าน้ำเหลวร่างลบเลือนสหายเอ๋ย...ระบบบอบครองครอบโลกถูกอุปโลกน์ด้วยมารพานเชือดเฉือนขุดหลุมพรางวางไว้ไม่แชเชือนตั้งตนเสมือนราชาเหนือราชาสหายเอ๋ย...มนุสสาถูกยาพิษยังกายจิตฟั่นเฟือนเลือนสังขาร์หลงลืมจิตบริสุทธิ์คือพุทธาสิ้นอหิงสาฆ่าเข่นไม่เว้นใครสหายเอ๋ย...ท่านหรือคือพุทธะจงลดละจองเวรเข่นใครไหนอโหสิอย่ามาดร้ายหมายฆ่าใครโปรดอย่าใช้วิธีเหมือนเพื่อนมนุษย์เลย...
พี่สาวหนึ่งบำเพ็ญเห็นพุทธะเธอตามพระลงนรกอกกลัดหนองเห็นกงล้อโอฬารพานเหม่อมองเสียงกรีดร้องสัตว์นรกอกเวทนาทั้งชายหญิงวิ่งวนบนกงล้อใต้มีหม้อน้ำร้อนกร่อนสังขาร์ล้อหมุนเร็วเหวี่ยงชนร่วงหล่นมาทุกกายากลายสุกแสนทุกข์ทนหม้อน้ำเดือดขนาดใหญ่ไม่เว้นว่างเต็มด้วยร่างมนุษย์ทุกแห่งหนพอตายแล้วก็ฟื้นคืนเวียนวนตราบเศษผลแห่งกรรมจำเบาบางเธอพบเห็นดั่งนั้นพลันสังเวชจึงแจ้งเจตจำนงลงสะสางโพธิสัตว์กษิติครรภ์พลันช่วยนางนรกว่างทันใดในบัดดลเธอถามเขาเหล่านี้ที่ถูกโปรดท่านต้องโทษใดมาพาก่อผลตอบว่าเรากินเนื้อเมื่อเป็นคนจึงไม่พ้นหม้อปรุงทุกข์ตามกรรมกาลเวลาผ่านไปไม่นานนักเธอประจักษ์ว่าชนใหม่ได้ตกถลำลงสู่ขุมนรกนี้ที่มืดดำกงล้อกรรมเริ่มหมุนชนวุ่นวาย...
หญิงหนึ่งเป็นโสเภณีคดีต้องเขาจับคล้องโซ่ตรวนจวนประหารนำเธอลงหลุมใหญ่ให้ประจานชนทุกย่านรายล้อมพร้อมลงทัณฑ์ชนตราหน้าว่าเธอบาปและหยาบช้าพิพากษาถึงตายโทษมหันต์ต้องถูกหินขว้างใส่ในโทษทัณฑ์จนอาสัญตามกรรมเธอทำมาพระเดินผ่านพอดี ณ ที่นั้นฝูงชนหันแจ้งความถามปัญหาสาธยายความชั่วมั่วกามาควรโทษฆ่าหรือไม่ในคดีพระตอบว่าถ้าบาปเธอหยาบช้าจำต้องฆ่าตกตายกลายเป็นผีก็ขอให้ผู้ไม่บาปตราบชีวีคนแรกที่จับหินขว้างใส่ร่างเธอชนต่างจ้องมองกันพลันนิ่งเฉยทุกคนเคยทำบาปบ้างพลาดเผลอชนจึงทยอยกลับไปไม่พบเจอเหลือเพียงเธอกับพระองค์ศาสดา...
ท้องทุ่งนาวันนี้พิกลแปลกคันไถแอกถูกทิ้งอิงแอบเสาเห็นเคียวคานเหน็บฝาพาซึมเซาแม้ทุยเจ้าก็ลับหายไม่เหลือรอยเจ้านกเอี้ยงเดียวดายคล้ายส่งเสียงขาดคู่เคียงเพื่อนทุยคงเหงาหงอยเกาะกิ่งตะเคียนวังเวงร้องเพลงคอยเสียงเศร้าสร้อยตัดพ้อรอทุยย้อนท้องทุ่งร้างว้างเวิ้งและเหว่ว้าคอยคนมาพลิกฟื้นคืนไถ่ถอนเขาขุดนาขายดินสิ้นนาดอนรับเงินก้อนขายนาต้องอาลัยเปลี่ยนที่นามาเป็นทะเลสาบจากที่ราบเป็นที่ลุ่มชุมชนใหม่มิเหลือแล้วชาวนาเคยอาลัยเมื่อเอไอแทนที่วิถีชนรถบรรทุกเข้า-ออกบอกลางเลศชนวนเหตุนาร้างกลางไพรสณฑ์เมื่อหนุ่มสาวเข้าเมืองเฟื่องกมลด้วยความจนชักนำจำทิ้งนาอุตสาหกรรมสร้างเงินสูงเกินเทียบไกลเกินเปรียบท้องทุ่งมุ่งอุตส่าห์ใช้ที่น้อยสร้างเงินเกินอัตราแต่ท้องนาที่มากยากทำเงินล้อเกวียนฝุ่นเกรอะกรังดั่งสิ้นค่าหุ่นไล่กาคอตกอกขัดเขินเหลือยุ้งฉางว่างเปล่าเขาหมางเมินท้ายก้าวเดินทางสู่พิพิธภัณฑ์…
ฟ้าเคยงามสีครามเมฆลามไล้มองครั้งใดให้สุขปลุกปลอมขวัญมาบัดนี้หม่นหมองครองชีวันฟ้าแปรผันพิโรธมาโกรธเกรี้ยวลมพรมพลิ้วทิวสนจนเอนไหวเคยเพลินใจได้มองต้องหันเหลียวกลายพัดโบกโยกสนต้นล้มเทียวลมกราดเกรี้ยวด้วยกระไรไยโกรธาธารเคยไหลเคลื่อนคล้อยเอื่อยอ้อยอิ่งยิ่งมองยิ่งใจสงบพบหรรษาแต่แล้วธารพานโกรธโทษใดนาจึงพัดพาสรรพสิ่งจมดิ่งไปแดดเคยอุ่นยามสายหมายประสบช่วยเลือนลบความเศร้าเฝ้าหลงใหลกลับแผดเผาเร่าร้อนซ่อนเปลวไฟโกรธเคืองใดไยพร่าดั่งราวีฤาโลกเสียสมดุลวายวุ่นหนักสุดเกินจักเยียวยาพาบัดสีฤาต้องหาโลกใหม่ให้ชีวีหากโลกนี้แตกดับลับบรรลัยฤาศีลธรรมถูกฆ่าจนอาสัญเบียดเบียนกันชีวิตจิตเผลอไผลสรรพชีวิตนับล้านสังหารไปดาบจึงได้คืนสนองผองชนเอง....