1 สิงหาคม 2558 00:25 น.
คีตากะ
รักคนชอบโชว์เบอร์...ใจเพ้อหนัก
สุดจะหักห้ามจิตคิดลุ่มหลง
คนขี้เหงาเศร้าสร้อยคอยพะวง
รอเธอส่งคลื่นหาทุกนาที
รักคนชอบโทรมา...อาการหนัก
เกิดไปรักคนไกลใจบินหนี
ว้าวุ่นจังนั่งเหม่อเพ้อทุกที
รอคนดีโทรหาเหว่ว้าคอย
รักคนชอบก่อกวน...ป่วนใจหนัก
โชว์เบอร์ทักยามเผลอเหม่อใจหงอย
ส่งเสียงหวานผ่านเบอร์พาเหม่อลอย
มาสำออยออดอ้อนอาทรกัน
รักคนชอบส่งเสียง...สำเนียงใส
มาห่วงใยเสมอพาเพ้อฝัน
คิดไปไกลใจเอ๋ยเคยเงียบงัน
ต้องแปรผันเพราะเธอโชว์เบอร์มา
1 สิงหาคม 2558 00:33 น.
คีตากะ
ค่ำคืนเปลี่ยวเดียวดายจันทร์หายลับ
แสงดาวดับล่องหนบนเวหา
หนึ่งเงาร่างรางเลือนเหมือนวิญญาณ์
ติดตามหาความรักเพรียกชักนำ
บนถนนด้นดั้นหาหวั่นท้อ
เพื่อสานต่อหัวใจไม่ถลำ
ห้วงรู้สึกลึกเร้นเป็นสื่อนำ
คอยตอกย้ำภายในให้มุ่งจร
เบื้องหลังม่านความมืดเย็นชืดจิต
ฝากชีวิตกับชะตาคราห่างหมอน
มีสายลมห่มกายคล้ายอาภรณ์
พฤกษ์ดงดอนผ่านผันดุจฝันงาม
แสงริบหรี่พริบพริบไกลลิบฟ้า
ยังโหยหาหวังพบลบคำถาม
ค้างคาทรวงล่วงมาพร่านิยาม
ค้นความงามแห่งรักประจักษ์ใจ
เสียงความรักเรียกหาคืนฟ้าหม่น
จากตัวตนล้ำลึกนึกหวั่นไหว
สั่นสะเทือนเลื่อนลั่นวันเหงาใจ
ขอได้ไหมที่รักเผยพักตรา.....
1 สิงหาคม 2558 00:34 น.
คีตากะ
เธอคือเงา...ที่หายมลายลับ
ไปพร้อมกับห้วงกาลเนิ่นนานแสน
ถูกลืมเลือนกับเดือนปีที่ทดแทน
ชีวิตแคลนขาดไปไม่สมบูรณ์
เธอคือใจ...ครึ่งหนึ่งซึ่งขาดเสี้ยว
จึงห่อเหี่ยวผ่านวันอันสาบสูญ
ชีวาพร่องล่องลอยพลอยอาดูร
ทุกข์ท้อทวีคูณเพิ่มพูนใจ
เธอคือถ้อย...ร้อยกรองที่พร่องหาย
บนผืนทรายแห่งสำนึกจารึกไข
เนื้อความเขียนเพี้ยนผิดลิขิตนัย
ความหมายไกลเจตนาแห่งกวี
เธอคือเสียง...ดนตรีที่ขาดหาย
บรรเลงร่ายผิดทำนองของวิถี
ฟังแปร่งหูดูต่างทางดนตรี
นำชีวีพลาดผิดจิตฟั่นเฟือน
เธอคือภาพ...อีกครึ่งซึ่งขาดวิ่น
จึงสูญสิ้นความงามยามถูกเฉือน
ขาดตรงกลางหว่างทางจางลบเลือน
ถูกบิดเบือนรูปลักษณ์ประจักษ์ตา
เธอคือฝัน...งดงามยามดื่นดึก
ครารำลึกอิ่มจิตคิดโหยหา
ประโลมใจให้สุขปลุกชีวา
สร้างคุณค่าประสบการณ์เบิกบานทรวง
เธอคือรัก...หวานชื่นคืนไออุ่น
อ่อนละมุนอ่อนไหวใจแหนหวง
เติมแรงใจให้ล้นท้นในทรวง
หลุดพ้นบ่วงความกลัวชั่วนิรันดร์
1 สิงหาคม 2558 00:35 น.
คีตากะ
ณ ดินแดนแห่งนี้ยังมีรัก
ค่อยฟูมฟักก่อตัวทั่วทุกหน
มีภูผาท้าทายเหนือสายชล
หยดหยาดฝนบริสุทธิ์ดุจเพชรงาม
ณ ตรงนี้.....มีป่าน่าร่มรื่น
แมกไม้ดื่นเขียวขจีมีล้นหลาม
ทอดยาวไกลใต้เมฆาฟ้าสีคราม
ทิวเขางามซ้อนสลับทับเรียงราย
ณ ตรงนั้น....มีลำธารผ่านเทือกเขา
เล่นหยอกเย้ากับกอหญ้าเพลาสาย
ดวงตะวันนั้นชิงพลบหลบเอียงอาย
ซ่อนเร้นหายหลังขุนเขาทุกเช้าเย็น
ณ ตรงโน้น....มีสายหมอกกับดอกไม้
น้ำตกไหลจากหน้าผาเกินตาเห็น
สู่เบื้องล่างพร่างพรำน้ำกระเซ็น
ละอองเย็นไอน้ำชื่นฉ่ำกาย
ณ หัวใจยามนี้ยังมีรัก
คอยทายทักแก่ใจไม่ห่างหาย
ท่ามขุนเขาเงาไม้ไหวเรียงราย
นอนทอดกายหลับใหลใต้ใบบัง......
1 สิงหาคม 2558 00:54 น.
คีตากะ
ถึงเหนื่อยล้าเพียงใดใจมิถอย
สองมือน้อยเพียรกอบดินสิ้นค่าหมาย
บรรจงปั้นสรรค์สร้างอย่างพริ้งพราย
เติมแต่งลายสีสันหมั่นสู้ทำ
แลกหยาดเหงื่อน้ำตาแสนสาหัส
เพียรขจัดส่วนเกินเดินถลำ
แม้ล้มลุกคลุกคลานพานสร้างทำ
ไม่จดจำความทุกข์เร้าปลุกใจ
เฝ้าก่อร่างสร้างฝันอันบรรเจิด
ผลเลอเลิศหรือเลวจนเหลวไหล
ยากคาดหวังดั่งจิตมุ่งคิดไป
หลายครั้งใจแพ้พ่ายแทบวายปราณ
ผิดเป็นครูรู้แก้ไขด้วยใจรัก
อุปสรรคหนักหนาค่อยพร่าผลาญ
คำหมิ่นหยามตามหลอกหลอนกร่อนดวงมาน
คงพ้นผ่านจากไปไม่เหลือเงา
ยอมอดทนอดกลั้นรอวันหนึ่ง
ก้อนดินซึ่งไร้ค่าสลักเสลา
กลายบรรเจิดเลิศงามตามใจเรา
ไม่เหนื่อยเปล่าแรงงานสานสร้างไป
จากก้อนดินสิ้นค่ามาเป็นดาว
เด่นสกาวกลางฟ้าน่าหลงใหล
หนึ่งมือกร้านสานสร้างพลางปลื้มใจ
แม้นอาจไร้ใครเห็นค่ากว่าก้อนดิน......