13 สิงหาคม 2558 22:58 น.
คีตากะ
ฟ้ารู้ว่าเราแตกต่างห่างกันมาก
จึงจำพรากพลัดหลงกลางสงสาร
ผ่านบทเรียนหลายหลากมากประการ
เป็นวิทยาทานสานชีวี
แม้นเธอล้ำฉันใช่รองดั่งสองสิงห์
ย่อมยากยิ่งอิงถ้ำเดียวเทียวหลีกหนี
หายินยอมพ่ายแพ้แม้นาที
ไม่เคยมียอมกันถือมั่นตน
ด้วยทิฐิมานะทะเยอทะยาน
คิดอาจหาญยิ่งใหญ่ใต้เวหน
แต่ลาภยศชื่อเสียงเยี่ยงวังวน
ยากผ่านพ้นง่ายดายเหนื่อยหน่ายนาน
จึ่งเห็นโลกแจ้งชัดความสัตย์เท็จ
แลเห็นเหตุแห่งทุกข์ลุกสังขาร
เพียรอบรมบ่มธรรมล้ำวิญญาณ
มายาวนานช่วงหนึ่งจึงแจ้งใจ
ฟ้าส่งมาพบกันในวันนี้
เปี่ยมไมตรีล้ำลึกนึกสงสัย
บทสรุปสุดท้ายกลายเป็นไป
ยากขานไขเรียงร้อยพจน์รจนา....
1 สิงหาคม 2558 00:07 น.
คีตากะ
ขอให้เหมือนเดิม...
ไม่ต้องเพิ่มดอกไม้ใส่คำหวาน
แค่มีรักต่อกันเหมือนวันวาน
ไม่ต้องการรักตราบสิ้นชั่วดินฟ้า
ขอให้เหมือนเดิม...
เหมือนรักเริ่มแรกวันจิตหรรษา
ไม่ต้องรักมากล้นท้นอุรา
เพียงรักอย่าลดน้อยถอยลงไป
ขอให้เหมือนเดิม...
มิจำเป็นต้องเพิ่มเติมสิ่งไหน
เท่าที่เป็นเธอนั้นฉันพอใจ
อย่าเปลี่ยนไปเพื่อฉันเชื่อมั่นตน
ขอให้เหมือนเดิม...
ไม่ต้องเสริมเติมแต่งทุกแห่งหน
เคยร่วมเรียงเคียงข้างอย่างอดทน
เธอคือคนที่ฉันนั้นภูมิใจ
ขอให้เหมือนเดิม...
รักริเริ่มผลิดอกออกไสว
ดูแลตนแทนฉันวันห่างไกล
ยามหัวใจแห่งรักชักนำเธอ
ขอให้เหมือนเดิม...
รักพูนเพิ่มในใจให้เสมอ
ประหนึ่งแสงสว่างนำทางเธอ
ให้พบเจอความสุขทุกทิวา
13 สิงหาคม 2558 23:22 น.
คีตากะ
ฉันเป็นเพียงอิฐก้อนแรก
ยินยอมแบกก้อนอื่นอีกหมื่นแสน
ยามเธอสร้างวางต่อก่อทดแทน
สร้างดินแดนตัวตนพ้นโลกีย์
ฉันเป็นเพียงก้าวที่หนึ่ง
นำเธอซึ่งก้าวไปในวิถี
บนเส้นทางว่างเปล่าเฝ้ายินดี
หวังเธอนี้ไปถึงซึ่งหลักชัย
ฉันเป็นเพียงความคิดแรก
อันผ่านแทรกดวงจิตพิสมัย
หมายย้ำเตือนตัวตนบนทางไกล
ให้จดจำความยิ่งใหญ่ในตัวเธอ
ฉันเป็นเพียงคำเริ่มต้น
แห่งสากลนานเนาเฝ้าเสนอ
ถ้อยคำย้ำซ้ำซ้ำย้ำใจเธอ
พร่ำละเมอคำรักอักษรา
13 สิงหาคม 2558 23:25 น.
คีตากะ
อย่าไถ่ถามความเป็นมาแห่งข้านี้
ด้วยไม่มีสิ่งใดให้ถวิล
อดีตลับจางหายคล้ายเมฆินทร์
แม้นโลกสิ้นคงแปลกหน้า...ตัวข้าเอง
เจ้าอาศัยอันใดช่วงใช้ข้า !
ให้ชักกระบี่ออกมาอย่าข่มเหง !
กระบี่นี้มีไว้ใช่ขับเพลง !
มันละเลงอาบเลือดแห้งเหือดกรัง !
กระบี่นี้มีไว้ใช่ชมเล่น !
ชนเคยเห็นล้วนตกตายกายถูกฝัง !
จนบัดนี้หามีใครได้อยู่ยัง !
ด้วยทุกครั้งเห็นกระบี่ชีวีวาย !
เฉกเช่นบทกวีมีคุณค่า
เพียงเยียวยาจิตใจใช่ค้าขาย
เงินแสนล้านอย่าหมายซื้อถือง่ายดาย
หากรู้ค่าความหมาย...กลับกลายฟรี...
เบื้องหลังถ้อยภาษาอย่าแคลนหมิ่น
ล้วนยลยินด้วยใจในวิถี
ขับขานเพลงยอดยุทธ์ดุจวจี
แต่คัมภีร์จริงแท้แลภายใน
คือคัมภีร์ไร้ภาษาเกินกว่าถ้อย
แทนร่องรอยไร้เงาเฝ้าสงสัย
คือวิญญาณสร้างโลกโศลกไป
แทนความนัยสรรพสิ่งอิงสัมพันธ์
จากสมบูรณ์สู่สัมพัทธ์วัดอิงอ้าง
จากหนึ่งทางสู่หลากหลายพรายสร้างสรรค์
จากหยุดนิ่งสู่เคลื่อนไหวในวารวัน
จากอนันต์สู่อัตตาบ่าไหลวน
จากพลังงานสู่สสารสานวัตถุ
จากบรรลุสู่หลับใหลใจสับสน
จากความคิดสู่การสร้างทางวกวน
จากทุกแห่งทุกหนสู่ตนตัว......
13 สิงหาคม 2558 23:27 น.
คีตากะ
ละอองไอกลั่นหยดรดแหล่งหล้า
จากฟากฟ้าสู่ดินถิ่นสถาน
หยาดพิรุณหนุนนำก่อลำธาร
เชื่อมผสานโลกสวรรค์อันห่างไกล
ลัดเลาะเลี้ยวอุปสรรคคอยดักกั้น
รูปลักษณ์อันอ่อนละมุนเนืองหนุนไหล
หลบหลีกแข็งแกร่งกล้าบ่าเลี่ยงไกล
พ้นเภทภัยหมื่นพันเพราะผันแปร
ความคิดปรุงก่อทุกข์ลุกร้อนเร่า
จิตอันเขลาหลงผิดติดร่างแห
ตำหนิฟ้ากล่าวหาดินหมิ่นรังแก
ยากยิ่งแก้ปมยุ่งคิดปรุงเอง
ใจพิสุทธิ์ดุจน้ำลำธารไหล
หลบหลีกไกลความฝันอันข่มเหง
จะสุขทุกข์รุกเร้าเคล้าบรรเลง
หลบกาจเก่งทุกท่าหาเกี่ยวพัน....