18 เมษายน 2550 17:59 น.

สมานฉันท์

คีตากะ

ตามตำนานขานกล่าวยาวนานมา
เมื่อภควาจะประกาศสัจจาสอน
พรหมเทวา อสูร ครุฑ กินนร
มโหรค นาค ยักษ์ต่างจรมาฟังธรรม

เทพยดา อสูรร้ายไยสมานฉันท์
อยู่ร่วมกันนั้นได้ไม่เหยียดหยาม
ต่างเบิกบานสำราญมั่นในธรรม
ไร้สูงต่ำดำขาวต่างเท่าเทียม

แต่เหตุใดไยมนุษย์สุดใจร้าย
ฆ่าทำลายไม่เคยจบสงบเสงี่ยม
ฤาลืมไปมีอบายถึงไม่เจียม
จึงโหดเหี้ยมไร้เทียมทานล้างผลาญกัน

ธรรมเหินห่างรักจางทางพินาศ
ชนในชาติขาดปัญญาพาโศกศัลย์
มิรู้รักสามัคคีมีต่อกัน
คอยแยกแบ่งแข่งขันชาติบรรลัย !				
18 เมษายน 2550 17:44 น.

ผ้าขาว

คีตากะ

จากผ้าขาวเล่าเรียนเพียรเติมสี
ประสบการณ์นานปีที่สั่งสม
หุ้มดวงจิตมิดมืดมนจนโสมม
เรื่องราวถมจมลึกผนึกนาน

ราวมณีมีค่าแสนหายาก
จมใต้ซากธรณีที่รากฐาน
ย่อมยากขุดมุดหาในบาดาล
จนวันผ่านนานนมยิ่งจมลง

จากมิ่งมิตรผิดไปคล้ายศัตรู
แม้สิงอยู่คู่กายยังใหลหลง
คอยลวงล่อก่อภัยจนงายงง
ประดุจผงเข้าตาทำพร่ามัว

จึงต้องวิ่งไล่เงาเฝ้าไขว่คว้า
นอกกายาหาไปใจสลัว
ตามตัณหาบัญชาพาพันพัว
หลงลืมตัวดั่งวัวมัวลืมตีน...				
18 เมษายน 2550 17:27 น.

คนพเนจร

คีตากะ

แสวงหาอะไรเล่าในเนาป่า ?
ฤาสิงห์สาราสัตว์ทัศน์ศึกษา
พฤกษ์พงศ์พันธุ์บัญญัติทัศนา
รอนแรมมาประสงค์จำนงใด ?

แสวงหาอะไรเล่าบนเขาสูง ?
ฤาหมายมุ่งรุ้งงามขอถามไถ่
สำรวจมวลสิงขรสัญจรไป
หรือคว้าไขว่ไล่เมฆาปุจฉาดู

แสวงหาอะไรทางหลายหลาก ?
หวังถางถากขวากหนามให้งามหรู
วิสัชนามาบ้างอยากฟังดู
จะเรียนรู้สิ่งใดในโลกา

แสวงหาอะไรเล่าเจ้าคนจร ?
จึงเร่ร่อนนอนใต้ฟ้าอนาถา
จาริกไปในสายลมพรมพนา
ฤาเพียงคว้าอากาศธาตุปราศสิ่งใด...				
18 เมษายน 2550 17:11 น.

เสือซุ่มมังกรซ่อน

คีตากะ

ดงเสือหมอบขอบขัณฑ์อันตราย
ซ่อนเร้นกายหมายคร่าภักษาหาร
สัตว์น้อยใหญ่ไม่ระวังทางเสือผ่าน
ต้องวายปราณจานเจือถูกเสือกิน

เปรียบพยัคฆ์นักสู้ผู้พิชิต
เหนือคาดคิดปิดบังสุดหยั่งถวิล
แม้เลิศล้ำเก็บงำยอมต่ำดิน
คราวโบยบินสิ้นไร้ใครต้านทาน

พญามังกรซ่อนตนก้นธารา
ใครล่วงมากล้าหมิ่นสิ้นสังขาร
เลิศฤทธีมีพิษปลิดวิญญาณ
ยอมเลื้อยคลานธารน้ำทำถ่อมตน

เสมือนชนคนถ่อมผู้น้อมนอบ
แจ้งรู้รอบไร้ขอบเขตมีเหตุผล
กลับแฝงกายซ่อนไว้ไร้ตัวตน
ใช่เยี่ยงชนคนอวดโอ่สุดโง่งม...				
18 เมษายน 2550 16:59 น.

คืนสู่สามัญ

คีตากะ

สูงสุดนั้นหันหาคืนสามัญ
ดุจตะวันอันสูงจรูงแสง
เจิดจำรัสประภัสสรหาอ่อนแรง
กำเนิดแหล่งแห่งพลังกำลังงาน

ธรรมดาไร้มารยาจึงสามัญ
ดั่งทารกน้อยอันพิศุทธิ์ศานต์
ไร้เดียงสาตาใสใจเบิกบาน
เป็นรากฐานวานวงศ์เผ่าพงศ์พันธุ์

ปกติไร้ตำหนิที่สามัญ
ใช่เสกสรรมั่นหมายหลงในฝัน
สงบเงียบเปรียบน้ำก้นลำธาร
แม้เนิ่นนานกาลผ่านมิผันแปร

ความว่างเปล่าเล่าหนาคือสามัญ
ปราศเขตขัณฑ์อันจำกัดขัดกระแส
ราวจักรวาลไพศาลอนันต์แล
ยังประโยชน์โปรดแผ่แก่หมู่ดาว...				
ไม่มีข้อความส่งถึงคีตากะ