13 ตุลาคม 2550 16:49 น.
คีตากะ
รอนแรมร้างทางไกลไปศึกษา
บินเหนือฟ้ามาทีจีหกหกสอง
เฉกมังกรย้อนถิ่นสิ้นลำพอง
ลัดฟ้าล่องท่องลมซานซมมา
ห้าชั่วโมงลงจอดค่อยปลอดโปร่ง
จิตใจโล่งผ่อนคลายหายผวา
สู่เมืองใหญ่เซี่ยงไฮ้เสี่ยงตายมา
เหลียวแลหาเจ้าพ่อก่อคดี
ออกเดินทางสู่หางโจวไกลโขแท้
เขาว่าแน่เมืองสาวงามอร่ามศรี
แถมขึ้นชื่อลือชาอากาศดี
พอถึงที่ความเหนื่อยหายมลายคลาย
เมืองงามล้ำสมคำลือมีชื่อเสียง
แลวังเวียงจักรพรรดิทัศน์เฉิดฉาย
เป็นเจดีย์มีหลากชั้นพรรณราย
ตั้งแพรวพรายเหนือเขานิ่งเนานาน
ลงเรือล่องท่องเที่ยวตามเกลียวคลื่น
ต้องสะอื้นฟังนิยายเขาร่ายขาน
เรื่องราวรักหักจิตพิสดาร
เป็นตำนานคนกับงูสมสู่กัน
ทะเลสาบราวภาพสีชื่อซีหู
เป็นที่อยู่นางงูขาวเรื่องราวสรรค์
ถูกขังไว้ใต้ธารามานานวัน
มองน้ำนั้นราบเรียบเย็นเยียบตา
ละอองไอไหวซ่านแพร่ผ่านพลิ้ว
เย็นสยิวเยือกกายคล้ายผวา
แม้นหนาวเหน็บเจ็บกายหลายเพลา
ยังน้อยกว่าหนาวใจไร้คู่ชม
เห็นไม้ใหญ่ไหวลมชมชื่นจิต
ถัดไปนิดเป็นภูเขาเนาสวยสม
ห้วงน้ำกว้างห่างไกลสีใสชม
น่าภิรมย์ราวสรวงล่วงเมฆา
ขึ้นสู่ฝั่งนั่งรถหมดสนุก
ต้องเร่งรุกตามเขารีบก้าวขา
สู่วัดใหญ่ไพจิตรพิศงามตา
มีชื่อว่าวัดจี้กงอลงการ
ได้กราบพระชะล้างวางกิเลส
เห็นพักตร์เนตรเจ้าแม่แลสุขศานต์
พระจี้กงองค์กวนอิมยิ้มเบิกบาน
จิตสราญสงบพบพระธรรม
ค่ำดูโชว์โบราณราชวงศ์ซ่ง
เหล่าอนงค์สวยใสใจอิ่มหนำ
นางกรีดกรายทายท้าคราร่ายรำ
จิตถลำราวหลงไปในโบราณ
ดึกค้างแรมโรงแรมนิวเซนจูรี่
ระดับสี่ดาวดวงล่วงสังขาร
เช้างัวเงียเพลียหน่อยค่อยคืบคลาน
เขาเรียกขานใครมาช้ารถหาเอง
นั่งรถทัวร์ชั่วอึดใจก็ไปถึง
เมืองค้าซึ่งขายส่งตรงใจเผง
ชื่ออี้อูหรูหราน่าครื้นเครง
เดินกะเตงแลสินค้าแปลกตาดี
ทั้งดินสอ ปากกา เสื้อผ้าเด่น
ของเด็กเล่น เครื่องกีฬา ดาษดาสี
ของแต่งบ้าน เฟอร์นิเจอร์ เกร่อมากมี
ช๊อบเต็มที่ใครมีเงินเดินขาชา
แปดโมงเช้าเขานัดจัดกระเป๋า
ต้องเช็คเอ๊าท์เศร้าใจให้โหยหา
จากกันแล้วแก้วใจไหวอุรา
จำใจลาหางโจวคนโก้ที
จากหางโจวไปโจวจวงงีบง่วงหลับ
ชั่วโมงนับได้สามใช่ถามผี
หลับตลอดปลอดภัยภัยไม่มี
พอถึงที่มีคนปลุกไม่ลุกลน
โจวจวงเท่เวนิสทิศตะวันออก
คูคลองลอกขุดยาวพราวทุกหน
เมืองโบราณสะพานโค้งโก่งงอตน
ริมฝั่งชลแลต้นหลิวพลิ้วล่องลม
นั่งเรือเที่ยวเดียวดายใจหายแท้
ไร้คนแม้เคียงใกล้ใจขื่นขม
พระพายพัดซัดมาอุราตรม
โอบสายลมเฉกคนรักหนาวหนักทรวง
เพลาบ่ายบ่ายหน้ามาเซี่ยงไฮ้
โรงแรมใหญ่ห้าดาวพราวดั่งสรวง
ชื่อซัลโวโก้หรูดูเด่นดวง
เช็คอินล่วงหลับนอนพักผ่อนกาย
หลังอาหารหวานปากจากตอนเช้า
-จารย์พาเข้ามหา'ลัยใหญ่เหลือหลาย
ชื่อฟัดดานสอนจัดการอ่านยากตาย
ฟังบรรยายไปหนอง่วงก็นอน
บ่ายหายง่วงช่วงช๊อบปิ้งซื้อสิ่งของ
มากก่ายกองของเลียนแบบแทบทอดถอน
สินค้าเทียมเยี่ยมแท้ปลอมแน่นอน
พี่แกอ้อนโรเล็กซ์แท้แค่ร้อยเดียว
เกร่อสินค้าราคาถูกทุกมุมโลก
แล้วแต่โชคดูเอาเฝ้าเฉลียว
ตาดีได้ตาร้ายหมองต้องซีดเซียว
แลป้ายเหลียวชื่อเซียงหยางต่างหวาดกลัว
ตกเย็นมาร่าเริงบันเทิงจิต
เข้าชมพิศกายกรรมทำห้อยหัว
ชื่อก้องโลกหกคะเมนเล่นอ่อนตัว
ผู้ชมทั่วหัวเราะเยาะเหมือนลิง
ถัดอีกเช้าเข้าผ่านงานเอกซ์โปร
ของเก๋โก้ดาษดื่นพันหมื่นสิ่ง
เดินค่อนวันหันแลมากแท้จริง
จนเวียนวิงเศียรเกล้าเหมือนเมามาย
นึกถึงคำ" มิร่ำดื่มกลับเมาแล้ว
แตกฉานแพร้วมิต้องเรียนเพียรขวนขวาย "
จิตรู้ตื่นขึ้นแล้วย่อมแพรวพราย
สรรพสิ่งหลายแจ้งรู้พหูสูตชน
ออกจากงานโดยสารในรถไฟฟ้า
ลอดคงคาชื่อหวงผู่ห่วงคู่ฉงน
แสงสีงามอร่ามตาแลน่ายล
แปลกพิกลมีการ์ตูนวิ่งวุ่นวาย
จากอุโมงค์ขึ้นลิฟท์ตึกลิบฟ้า
ชื่อจินโม่ต้าซ่าสง่าผาย
สูงที่สุดสุดในจีนโผผินพราย
ปัจจุบันกลายอันดับสามค้ำโลกา
แปดสิบแปดชั้นหันแลแค่หวาดเสียว
มัวเพลินเกี้ยวกันไปไม่กังขา
อาจมีสิทธิ์ผิดก้าวกลิ้งดิ่งพสุธา
ชิงไปเกิดก่อนเวลาจะอาดูร
ชั้นสูงสุดรุดไปน่าใจหาย
ลิฟท์เคลื่อนกายไวสุดดุจเฉียวฉุน
ว่าเร็วสุดสุดในโลกอกงงงุน
แล้วแต่บุญแต่กรรมใครทำมา
บนชั้นฟ้าตาแลชะแง้หัน
ดุจสวรรค์อำไพให้กังขา
ต้องตะลึงซึ่งทิวทัศน์จำรัสตา
ราวเทพดาแลโลกสุขโศกมี
เห็นหาดทรายสายน้ำดูล้ำลึก
อาคารตึกทันสมัยพิไลศรี
หอไข่มุกสุกใสสูงใหญ่ดี
ลวดลายสีสลักเสลาพราวกมล
หลังอาหารภัตตาคารสำราญจิต
เดินเลียบชิดร้านรวงก้าวล่วงถนน
ชื่อนานกิงยิ่งนานเกินเดินวกวน
หากสับสนหลงทางเพลินยิ่งเดินนาน
สองฟากข้างต่างขายของหลายหลาก
สินค้าจากแบรนด์เนมเต็มทางผ่าน
มีห้างเกร่อซูปเปอร์ฯเหม่อตาลาน
แฟรนไชส์ร้านสะดวกซื้อ อื้อฮื้อแพง !
ถนนไกลหลายกิโลไฮโซชอบ
โลโซกรอบไม่มาเมินหน้าแหน่ง
เดินเรื่อยเปื่อยเหนื่อยกายให้เปลืองแรง
จนสิ้นแสงไฟส่องต้องมืดมน
พบเพื่อนเกลอเธอหมวยแถมสวยใส
ชักชวนไปเดินเล่นเป็นกุศล
คุยกันเพลินเกินเวลากับน่ามล
ประหนึ่งคนรู้ใจมาหลายปี
เธอมีเรื่องกลัดกลุ้มคอยรุมเร้า
จำคอยเฝ้าปลอบใจให้สุขี
เห็นเธอยิ้มพริ้มพรายเหมือนหายดี
ก็พลอยมีความสุขสนุกใจ
ดึกเกินควรจึงชวนกันด่วนกลับ
ชนลาลับกลับถิ่นสิ้นแสงไข
ทางสลัวมัวจางร้างแสงไฟ
เกิดหลงในป่าคอนกรีตพลาดผิดเดิน
ต่างคนต่างลืมทางกลางเมืองแปลก
ซอกซอยแยกแปลกตาหาเดินเหิน
เธอจับแขนแน่นหนาพากันเดิน
ร่วมเผชิญเคราะห์กรรมไม่จำทาง
จากหกโมงโด่งถึงตีหนึ่งกว่า
จึงค่อยหาทางพบจบหมองหมาง
ส่งถึงห้องต้องลานะนวลปราง
ไว้วันว่างค่อยหลงใหม่จะได้จำ
วันสุดท้ายไหว้พระวัดพระหยก
ก่อนระหกระเหินเดินทางหนำ
เฉินหวงเมี่ยวเหลียวแลแค่ชื่อคำ
ศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ล้ำคลาคล่ำชน
มีตลาดดาษดื่นตื่นตาแท้
อาคารแลแปลกตาน่าฉงน
ราวอยู่ในนิยายจีนถิ่นยอดคน
เพียงบัดดลลอยล่องท่องเมฆา
ไร้กระบวนท่าว่าสุดยอดวิชายุทธ์
สยบจุดอ่อนก่อนร่อนถลา
ร้อยพันแปลงเปลี่ยนท่าลวงลีลา
เผลอพริบตาศัตรูหมองต้องวางวาย
มีขนม ลูกอม เดินก้มหา
มองแลตาของสวยช่วยซื้อขาย
อาหารหลากของฝากมีนี้มากมาย
จนถึงบ่ายทานอาหารยังลานตา
เดินทางกลับลับแล้วจอมแก้วเอ๋ย
มิทันเชยชื่นน้องต้องโหยหา
เพียงคนจรร่อนเร่ซังเซมา
หวังกานดาเจือจุนอุ่นไมตรี
นั่งรถไฟใช้แม่เหล็กราวเสกสั่ง
วิ่งเร็วดั่งพระพายคล้ายภูตผี
สถิติเร็วสูงสุดสุดโลกีย์
แปดนาทีพริบตาถึงสนามบิน
เหลียวดูเกจ์เด่ชี้สี่ร้อยกว่า
แทบผวาหงายหลังดั่งโผผิน
ขึ้นทีจีหกหกห้าถลาบิน
หวนคืนถิ่นการบินไทยเอื้อไมตรี
ราวคนโซโอ้เราเหมือนเมาหมัด
โซเซซัดท่องไปในวิถี
ใช่อวดอ้างวางตนก่นชีวี
เพียงเรานี้อยู่ที่ไหนมิได้นาน
จบเรื่องเล่าคราวหลังอาจฟังกร่อย
มีไม่บ่อยหมั่นเขียนเพียรสื่อสาร
เพียงจารึกนึกได้ในตำนาน
ขออวสานถ้อยคำต้อยต่ำเอย.........
3 ตุลาคม 2550 15:11 น.
คีตากะ
ไยคร่ำครวญหวนไห้อาลัยหา
แก้วกานดาอย่าร้องจะหมองขวัญ
อัสสุชลหล่นไหลให้จาบัลย์
ชนจะหยันเย้ยเจ้าเฝ้าโศกา
เสียงกำสรวลนวลปิ่มว่าทวีทุกข์
ซ่อนพักตร์ซุกทรามวัยในเกศา
สั่นระริกหลังไหล่นัยน์หูตา
ซบดวงหน้าสะคราญซึ้งคะนึงครวญ
พิมลพักต์ผุดผ่องพาลหมองหม่น
รินไหลล้นชลเนตรเกศกำสรวล
สะเทือนฟ้าสะท้านดินด่าวดิ้นจวน
เทพไทล้วนซวนซบเซาสร้อยเศร้าทรง
หยดเพชรหยาดเยิ้มย้อยกลอยกำสรด
แสนสลดหดหู่ตามงามระหง
พี่รวดร้าวราวเป็นเช่นอนงค์
สุดปลดปลงปานหทัยใกล้วายปราณ
ชลนาบ่าล้นท่วมท้นแล้ว
ไยจอมแก้วกรรแสงแกล้งละหาน
ประคองรับชลนัยน์ให้ดวงมาน
ชลธารจะล้นเอ่อด้วยเธอครวญ
ทิฆัมพรหมองหม่นทนทอดถอน
ดารากรเดือนดับลับสรวงสวน
สุราลัยไหวหวั่นนงรัญจวน
สรรพสิ่งครวญล้วนแล้วด้วยแก้วตา
ทุกข์อันใดไยกานต์เกินหาญหัก
ฤานงลักษณ์รักตรมระทมหา
เพียงพลาดพลั้งชั่งใจไยระอา
หวนโหยหาอาวรณ์กัดกร่อนทรวง
ฤารักพี่มีน้อยจนด้อยค่า
ไอลดายาใจไม่ห่วงหวง
พี่ซึมเศร้าเพราะเจ้าตรมเพียงลมลวง
มิวายทรวงขาดรอนไปก่อนนาง
พี่ตั้งจิตขอพรยอกรกราบ
ศิโรราบศรีสุคตประณตหว่าง
เบื้องบาทองค์พระทรงชัยหทัยวาง
ให้นวลปรางปราศทุกข์สบสุขครอง
มาตรแม้นทุกข์ทวีทับเกินรับไหว
ด้วยกรรมในบุพชาติวาดสนอง
ขอกรรมนั้นจงผันเปลี่ยนเวียนครรลอง
ให้พี่ครองแทนน้องยา...สาธุเทอญ !.....
3 ตุลาคม 2550 14:34 น.
คีตากะ
โอ้ชีวิตคิดไปน่าใจหาย
วิ่งเวียนว่ายวกวนชอบกลหนา
เหมือนนักโทษโอดครวญชวนโศกา
ไม่อาจฝ่ากำแพงแห่งจิตใจ
ความรักความผูกพันอันใคร่หลง
ดุจลูกกรงกั้นกางทางสุกใส
ความรู้สึกนึกรักยากหักใจ
รั้งชนไว้วางวายหลายกัปกัลป์
แดนแห่งเหตุแลผลดลกรรมก่อ
สืบสานต่อภพชาติวาดทางฝัน
สร้างบาปบุญหมุนวนจนนิรันดร์
สุขโศกศัลย์น่าสมเพชเวทนา
พลังการสร้างสรรค์แสนบรรเจิด
ล้วนล้ำเลิศศาสตร์ศิลป์สิ้นศึกษา
หลงลำพองปองยิ่งใหญ่ในโลกา
ด้วยอัตตาพาว่ายวนจนดิ่งจม
แดนว่างเปล่าเนานิ่งยากยิ่งผ่าน
สุดไพศาลกว้างไกลไม่อาจถม
ทางมืดมิดจิตเสรีมิสุขตรม
ต้องกรานก้มกราบครูผู้รู้ทาง
ดินแดนบริสุทธิ์ผ่องผุดผาด
สุดสะอาดอมฤตจิตแผ้วถาง
อาสวะละแล้วแน่แน่ววาง
แสงสว่างวามวับระยับวาว
อันมรรคสู่นฤพานกันดารนัก
มากกับดักหลุมพรางวางแหลมหลาว
ต้องสุขุมลุ่มลึกตรองตรึกคราว
ทุกย่างก้าวมีภัยให้สังวร.....