11 มีนาคม 2565 22:46 น.

สดุดีนักรบผู้กล้า....

คีตากะ

ปลาใหญ่กินปลาเล็กเฉกอาหาร
รู้สึกค้านยังรับได้ในเหตุผล
ชาติใหญ่กลืนชาติเล็กเฉกพาลชน
เผยกมลสันดานอันธพาลครอง
ถืออำนาจบาตรใหญ่ในโลกหล้า
สิ้นธรรมาเวรกรรมจะตามสนอง
บ้าสงครามคลุ้มคลั่งเลือดหลั่งนอง
สุดท้ายต้องตกนรกอกระทม
ประวัติศาสตร์ผู้นำอำมหิต
ต้องถูกปลิดชีพลงคงสาสม
เผด็จการสิ้นสลายดั่งสายลม
แผ่นดินถมกลบหน้ามากี่ราย
ถึงอาวุธทรงพลังยังอาจแพ้
สยบแก่แววตาผู้กล้าฉาย
ถึงอธรรมน่าหวั่นอันตราย
ต้องแพ้พ่ายธรรมแน่ด้วยแพ้ภัย
จับอาวุธลุกขึ้นขัดขืนเถิด
นักรบผู้ประเสริฐเกิดชาติไหน
อย่ายอมแพ้แก่อธรรมจำสู้ไป
ประตูสวรรค์เปิดไว้ให้ท่านครอง…
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เคยกล่าว่า : I do not know with what weapons World War III will be fought, but World War IV will be fought with sticks and stones.” “ผมไม่รู้หรอกว่า ในสงครามโลกครั้งที่สาม มนุษย์จะใช้อาวุธอะไรต่อสู้กัน แต่สงครามโลกครั้งที่สี่ จะสู้กันด้วยท่อนไม้และก้อนหิน
19 กุมภาพันธ์ 2565 18:25 น.

ล่องแพ

คีตากะ

11-18.jpg
งานเลี้ยงย่อมเลิกราราวภาษิต
นั่งเคียงชิดเชยธารผ่านทิวเขา
ล่องแพไผ่ไต่ชลจนซึมเซา
จุ่มสองเท้าเล่นน้ำเย็นฉ่ำใจ
ท้องฟ้ากว้างว่างเปล่าแฝงเงาเมฆ
ท้องน้ำเฉกสวรรค์ทุกวันไหล
มิเคยหยุดดุจจิตคิดปรุงไป
พาแพใหญ่ฝ่าคลื่นนับหมื่นพัน
เสียงดนตรีจางหายคล้ายเหนื่อยหน่าย
ชนทั้งหลายหลับใหลในความฝัน
ขุนเขาเขียวเลี้ยวลับสลับกัน
สองฝั่งนั้นงดงามอร่ามตา
ยามห้วงกาลหยุดนิ่งอิงสายน้ำ
วัดหนึ่งล้ำสถิตพ้นบนยอดผา
แลสงัดสงบสยบโลกา
มวลพฤกษาล้อมรอบขอบคีรี
เหล่ามัจฉาทักทายเวียนว่ายเล่น
ภาพยามเย็นตรึงตราพาสุขี
ดวงตะวันชิงพลบหลบคีรี
ลมพัดวีเย็นชื่นรื่นกมล
ละอองไอสายน้ำเย็นฉ่ำจิต
ปล่อยชีวิตท่องธารผ่านไพรสณฑ์
ความเรียบง่ายสถิตจิตกมล
อยู่หรือไปไยต้องสนบนโลกลวง....
13 กุมภาพันธ์ 2565 11:04 น.

การสูญพันธุ์ครั้งที่ 6

คีตากะ

สองร้อยกว่าล้านปีมีบันทึก
ครั้งสัตว์ดึกดำบรรพ์พลันสูญหาย
ยุคเพอร์เมียนโลกร้อนซ่อนความตาย
พวกมันคล้ายมิเข้าใจในเหตุการณ์
จูแรสซิกยุคต่อมายิ่งน่าเศร้า
ไดโนเสาร์มรณังถูกสังหาร
ขาดอากาศหายใจให้วายปราณ
เพราะไม่อ่านประวัติศาสตร์ปราศปัญญา
ไดโนเสาร์สูญชีวีครีเทเชียส
โลกร้อนเฉียดฉับพลันพันองศา
ขาดแจ้งเตือนปกป้องของนาซา
อุกกาบาตตกจากฟ้าพาสูญพันธุ์
มนุษย์ยุคไพรเมตเหตุกลียุค
ภัยล้อมรุกทุกทางอย่างมหันต์
หลบเขาสูงสะดุดหญ้าพาสูญพันธุ์
เพียงหยามหยันไวรัสพิบัติภัย...
4 กุมภาพันธ์ 2565 08:54 น.

พี่ค่นกับพี่ค่อน…

คีตากะ

พี่ค่นจอมอิทธิพลคนเจ้าถิ่น
ครองธานินทร์ถิ่นย่านนี้นานโข
ชอบอวดเบ่งเก่งกร่างวางก้ามโต
มักฉาวโฉ่สร้างกรรมทำแต่เวร
ส่วนพี่ค่อนคนสงบคบสันโดษ
ไม่เกรี้ยวโกรธใครง่ายใจเที่ยงเถร
พวกน้อยกว่าพี่ค่นคนเหลือเดน
คงโดดเด่นเรื่องซื่อถือจริงใจ
จนวันหนึ่งพี่ค่นชนพี่ค่อน
ยามโคจรเจอกันวันเผลอไผล
บาดหมางกันวันนั้นทำบรรลัย
จำผูกใจเจ็บแค้นแสนทวี
พี่ค่นคนไม่ดีคอยบี้ไล่
ส่งพวกไปทำร้ายกลายบัดสี
ถึงนายค่อนหลบเลี่ยงเสี่ยงเต็มที
หวุดหวิดหนีรอดพ้นเกือบจนมุม
พี่ค่นคนจอมเคี่ยวเคี้ยวฟันขบ
หมายเพียงจบเรื่องไวอกไฟสุม
ซุ่มลูกน้องคอยสืบตามหลืบมุม
พวกมากรุมพวกน้อยหมายต่อยตี
จนวันหนึ่งมีสายรายงานค่น
ข่าวกรองจนเชื่อได้ให้สุขี
ค่อนจะไปเที่ยวทางห้างบีซี
บ่ายพรุ่งนี้แน่นักจักจู่โจม
พี่ค่นค่อยรวบรวมคนขนอาวุธ
คอยซุ่มจุดซ่อนกายหมายรุกโหม
เห็นพี่ค่อนเผยกายหมายจู่โจม
พวกค่นโถมมุ่งเข่นไล่เหล่าไพรี
หารู้ไม่นั่นคือแผนแสนลึกล้ำ
ล่อเสือออกจากถ้ำทำถอยหนี
แสร้งปล่อยข่าวลวงล่อต่อไพรี
ขุดบ่อรอบดขยี้ที่แยบคาย
พวกพี่ค่นคนเขลาก้าวเข้าหลุม
ดั่งลงขุมอเวจียากหนีหาย
ซ่อนระเบิดทุกแห่งแฝงมากมาย
แม้คิดหมายบินหนีไม่มีทัน
ในพริบตาพี่ค่อนจรหายวับ
เข้าทางลับตามแผนแสนสุขสันต์
โผล่อีกด้านของถนนพ้นเร็วพลัน
พร้อมเสียงระเบิดดังสนั่นในทันที
แม้แจ้งใจพี่ค่นไม่พ้นแหลก
รู้ก้าวแรกผิดท่าพาโศกศรี
ดั่งราวเสือติดจั่นบั่นชีวี
เมื่อดาบนี้คืนสนองเจ้าของเดิม
ผลคือเละไม่เป็นท่าพากันจบ
แม้ซากศพแทบไม่เหลือเพื่อซ่อมเสริม
สิ้นนักเลงชื่อค่นคนบางเดิม
ดับหึกเหิมเพราะประมาทขาดสังวร...
30 มกราคม 2565 12:25 น.

เสียงดนตรีแห่งจิตวิญญาณ

คีตากะ

ณ เบื้องปฐมบรมกาลเนิ่นนานนัก
สุดที่จักนับคณาอสงไขย
ก่อนทุกสิ่งอุบัติวิวัฒน์ใด
เสียงหนึ่งได้ดำรงคงยืนยาว
เสียงหนึ่งนี้มีมาแต่คราแรก
สิงซึมแทรกทั่วสกลเวหนหาว
ดุจดนตรีไพเราะเพราะพริ้งพราว
ยากสืบสาวที่มาหาที่ไป
กระแสเสียงเคียงอยู่ผู้เป็นเจ้า
สร้างสรรค์เหล่าสรรพสิ่งอิงอาศัย
ทั้งรูปนามหลากหลายมีกายใจ
ตลอดทุกยุคทุกสมัยได้ธำรง
พระสุรเสียงนั่นฤาคือพระเจ้า
ที่ชนเฝ้าหมายพบสบประสงค์
ทุกชนชาติศาสนาศรัทธาองค์
พระดำรงคงอยู่อุ้มชูเรา
ธ ทรงให้กำเนิดในเลิศหล้า
สร้างโลกาดวงดาวพราวเสลา
เทียมธรรมชาตินิรมิตชีวิตเรา
ประหนึ่งเงาฉายาแห่งพระองค์....
ป.ล. ถอดความบางตอนจากคัมภีร์ไบเบิ้ลแปลโดยท่านอนุตราจารย์ชิงไห่
In the beginning was the Word (Sound), and the Word was with God, and the Word was God.
Everything was made by this and nothing was not made by this.
จักรวาลพอเริ่มต้นก็มีเสียงนี้ Word นั้นหมายถึงเสียง เสียงนี้อยู่กับพระผู้เป็นเจ้า เสียงนี้ก็คือพระผู้เป็นเจ้านั่นเอง
สรรพสิ่งทั้งปวงในจักรวาลล้วนเกิดจากเสียงนี้ ไม่มีสิ่งใดที่ไม่ได้เกิดจากเสียงนี้
ไม่มีข้อความส่งถึงคีตากะ