14 เมษายน 2550 14:16 น.

ยาพิษ

คีตากะ

เมื่อวัตถุอยู่เหนือจิตวิญญาณ
อุดมการณ์หาญมุ่งถูกข่มเหง
จิตแบ่งแยกแตกต่างห่างตัวเอง
ถูกเร้าเร่งใจถอยด้อยพลัง

ความรักจางห่างสุขทุกข์กระหน่ำ
โดนมนต์ดำจำจองผู้ต้องขัง
กลายเป็นทาสวัตถุดันทุรัง
ไม่เคยฟังข้างในหัวใจตน

ความสุขแท้แค่เอื้อมเอื้อมไม่ถึง
ถูกฉุดดึงจึงบ้าโกลาหล
วิ่งไล่ตามความลวงมิห่วงตน
ดุจแมงเม่าถูกเผาป่นบนกองฟอน

จิตมืดดำด้วยจำนนบนวัตถุ
ยากบรรลุรู้ชัดประภัสสร
หมุนตามโลกอุปโลกน์ใจโยกคลอน
มิคิดถอนยาพิษอวิชชา				
14 เมษายน 2550 14:03 น.

ฆาตกร

คีตากะ

จับอาวุธขึ้นมาเพื่อฆ่าใคร
เจ้าวายร้ายไร้ปัญญาคราโง่เขลา
ฆ่าตัวเองเก่งนักตระหนักเอา
เจ้าคือเขาเขาคือเจ้ามิเข้าใจ

ฆ่าไม่ตายไยยังฆ่าฆาตกร
ไม่อาทรร้อนรนตนถูกหมาย
ฉีกสังขารอันเปล่าว่างอย่างเมามาย
แต่สุดท้ายหนีไม่พ้นต้องจนมุม

เฝ้าก่อกรรมทำเข็ญไม่เป็นสุข
ดั่งไฟลุกเผาลามความร้อนสุม
เพื่อนพี่น้องผองเราเขากลัดกลุ้ม
ทุกข์ปกคลุมรุมเร้าชาวประชา

เลิกหลงผิดคิดใหม่ใช้เหตุผล
ด้วยตัวตนทนสร้างยังมีค่า
วางอาวุธหยุดก่อทรมา
สิ่งควรฆ่าคือบ้าหลง...จงบรรลัย !				
14 เมษายน 2550 13:46 น.

เจดีย์ทราย

คีตากะ

ก่อกองทรายหมายสร้างต่างเจดีย์
อย่างพิถีพิถันราวฝันใฝ่
ทรายด้อยค่าสง่างามเกิดตามใจ
เจดีย์ทรายใครสร้างช่างมากมาย

อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
ก่อกายาทาสีตามที่หมาย
ด้วยความคิดวิปริตจิตวุ่นวาย
กายเรียงรายมายมากยากประมาณ

ตายทุกวัน เกิดทุกวัน อันความคิด
ดุจชีวิตลิขิตเอาแล้วเผาผลาญ
ดั่งเจดีย์ที่สร้างไว้ท้ายแหลกลาญ
วันสงกรานต์ผ่านมายังอาทร

เลิกก่อสร้างทางสงบพบนิพพาน
เรื่องราวผ่านกาลเวลาอุทาหรณ์
ก่อกองทรายหมายให้ได้สังวร
กลับมองย้อนอย่านอนฝันเพียงวันวัน...      				
14 เมษายน 2550 13:34 น.

กวีในดงหนาม

คีตากะ

เฝ้าวนเวียนเรียนรู้สู่สัจจา
หมายเข่นฆ่ามายาพาอับเฉา
มีดคมกริบหยิบแทงหัวใจเรา
ให้เลือดเน่าเบาบางล้างมลทิน

ร่ายกวีที่หลั่งเลือดชโลมหล้า
คราบน้ำตาจารึกนึกถวิล
ท่ามกลางทุกข์ลุกไหม้เผาใจชิน
อัตตาสิ้นดิ้นแดแค่เฉียดตาย

กลางดงหนามตามหาบทกวี
ทุกข์ทวีมีแผลเป็นเห็นมากหลาย
เขียนด้วยเลือดมิเหือดแห้งแจ้งระบาย
เพียงสลายร่ายคำจำนรรจา

มิเคยทุกข์หรือใยเข้าใจสุข
ดั่งไข่มุกสุกใสมากมายค่า
ต้องเสี่ยงตนทนว่ายใต้คงคา
จึงได้มาค่าเลิศประเสริฐเอย.....				
12 เมษายน 2550 15:34 น.

หยุดเถอะใจ !

คีตากะ

หยุดเถอะใจ ! ไยฝันให้หวั่นไหว
ได้อะไรไขว่คว้าตามหาฝัน
พักผ่อนบ้างวางใจผ่อนคลายมัน
สุขเศร้านั้นล้วนมั่นหมายคิดไปเอง

หยุดเถอะใจ ! ใครเขามิเข้าใจ
ประโยชน์ใดไปบังคับจับข่มเหง
ชีวิตใครเป็นของใครใคร่บรรเลง
ลิขิตเองเร่งเร้าก็เปล่าดาย

หยุดเถอะใจ ! เงียบไว้ ไม่ดีกว่า
เสียเวลามาหวังดั่งใจหมาย
โลกเสื่อมทรามต่ำลงคงเป็นไป
เหนี่ยวรั้งไว้ได้ฤาอย่าถือความ

หยุดเถอะใจ ! ไม่นานกาลมาถึง
ก็คงซึ้งตรึงใจไม่เหยียดหยาม
ยามซบหน้าพิพากษาคดีความ
ย่อมเป็นตามกรรมสร้างเลือกทางเดิน...				
ไม่มีข้อความส่งถึงคีตากะ