16 กรกฎาคม 2550 15:56 น.

ใกล้ค่ำ...ย่ำสนธยา

คีตากะ

หยาดสายฝนจากไปโดยไม่ลา
เส้นขอบฟ้าปรากฏรุ้งหลากสีสัน
แดดอ่อนจางพร่างตายามสายัณห์
ดูเฉิดฉันยิ่งกว่าเวลาใด

อากาศเย็นจากไอของสายฝน
เด็กซุกซนเล่นน้ำลำคลองใส
ใกล้สนธยาอาทิตย์จวนลับไป
นกกาไพรบ่ายหน้าหารวงรัง

บทชีวิตกลากหลายใกล้ปิดฉาก
การพลัดพรากจากลาฤาสมหวัง
เพียงเมฆจางบางตาหาจีรัง
สุดท้ายยังถูกลมพัดซัดล่องไป

วาดชีวิตลิขิตด้วยจิตมั่น
อยู่กับฝันหมั่นสร้างเส้นทางใหม่
จะสำเร็จล้มเหลวดีเลวไซร้
อย่าหายใจเปลืองเปล่าลืมเหง้าตน...
				
14 กรกฎาคม 2550 17:38 น.

ว่างเปล่าชน

คีตากะ

ปราศสิ่งใดให้บรรลุเพื่อรู้แจ้ง
ใจแยกแบ่งแข่งขันพลันสลาย
ท่องโลกเปลี่ยวโดดเดี่ยวเพียงเดียวดาย
จุดมุ่งหมายในชีวิตถูกลืมเลือน

เมื่อมิทราบสิ่งใดย่อมไม่ทราบ
แม้นทาฉาบอาบทองยังหมองเหมือน
ย่อมไร้คำจำนรรจ์จะพร่ำเตือน
เพียงคนเถื่อนแปลกหน้าต่อใจตน

เปี่ยมยศถาบรรดาศักดิ์สักเพียงไหน
ถึงเป็นใหญ่ในแคว้นทุกแห่งหน
แค่จำอวดอาจอ้างว่างเปล่าชน
หาเหตุผลกลเลห์เพทุบาย

แต่ทว่าชนที่ใจมีพุทธ
มิเพียงพูดกล่าวคำจำนรรจ์หลาย
ยังหาญกล้าโยกฟ้าสั่นดินทลาย
มัจจุราชอาจร้ายยังพ่ายยอม...
				
12 กรกฎาคม 2550 17:23 น.

ตะแบกหรืออย่าแบก ?

คีตากะ

นั่งซึมเซาเฝ้ามองดอกตะแบก
คราฝนแทรกแรกแย้มแซมใบเขียว
สีม่วงอ่อนร่อนร่วงพวงซีดเซียว
ก่อนแห้งเหี่ยวภายใต้แสงตะวัน

ลำต้นใหญ่แผ่ใบขยายกิ่ง
เคยพึ่งพิงอิงอุ่นเจือจุนฉัน
ยามปัญหาถาโถมรุกโรมรัน
ชื่อเจ้านั้นเตือนฉันหมั่นปล่อยวาง

แบกสิ่งใดในเหตุสังเกตผล
จิตทุกข์ทนจนล้าพาหมองหมาง
เหนื่อยเพราะใจไปยึดทุกเส้นทาง
บ้าหอบฟางอย่างนั้นหมายมั่นทำ

จมจ่อมอยู่กับปัญหาสารพัน
ลืมจิตอันผ่องใสไกลถลำ
เคร่งเครียดไยในฝันอันมืดดำ
ทุกเช้าค่ำซ้ำซากมิพรากเลือน.....
				
19 มิถุนายน 2550 18:47 น.

ต่างเส้นทาง

คีตากะ

ฉันเลือกทางร้างเปลี่ยวโดดเดี่ยวเหลือ
หมอกคลุมเคลือเยื้อย่างกลางหุบเขา
มีหนามไหน่มายมากขวางขวากเท้า
ทางทึมเทาเปล่าร้างกลางอรัญ

เธอเลือกทางกลางเมืองอันเรืองรุ่ง
หอมจรุงฟุ้งเฟ้อละเมอฝัน
ชนเหิมเห่อเพ้อคลั่งอยู่ทั้งวัน
ต่างประชันขันแข่งสุดแรงรั้ง

ฉันเดินทางกลางดงพฤกษ์พงป่า
ถึงเหว่ว้าชาชินมิสิ้นหวัง
แม้นกันดารหาญสู้ดันทุรัง
ราวบ้าคลั่งยังมุ่งกลางทุ่งธาร

เธอเดินทางต่างไปวิไลแสน
ไม่ขาดแคลนแสนสบายหลายสถาน
แต่ปลายทางต่างพบประสบพาน
ด้วยสายธารล้วนสานร่วมเข้ารวมกัน...
				
6 มิถุนายน 2550 16:36 น.

เสียงถอนใจจากในป่า

คีตากะ

สังคมป่วยด้วยใจเป็นไข้หนัก
เกินที่จักรักษาเยียวยาหาย
หลงความสุขทุกข์ก่อรอสบาย
จิตวุ่นวายไร้สิ่งพึ่งพิงใจ

กิริยาดีวจีเพาะจิตเลาะร้าย
คอยทำลายหมายปองจ้องผลักไส
แข่งชิงดีชิงเด่นจนเป็นภัย
เหตุหัวใจไม่พบสงบจริง

บ้างด่าทอต่อว่าอารีหาย
จิตหยาบคายคล้ายมีภูตผีสิง
บางเฉยชาช้าเฉื่อยล้าเหนือยจริง
บ้างไล่วิ่งสิ่งใดไม่รู้ตน

บ้างฉลาดปราดเปรื่องทุกเรื่องหล้า
แต่ธรรมาฆ่าสิ้นกังฉินฉล
บางเปี่ยมธรรมล้ำลึกสำนึกตน
แต่อับจนหม่นใจไร้ปัญญา....				
ไม่มีข้อความส่งถึงคีตากะ