18 กันยายน 2550 16:20 น.
คีตากะ
คิดลงทุนลงใจไปกับรัก
ควรตระหนักรักแน่หรือแค่ขำ
เตรียมป้องกันความเสี่ยงหากเพลี่ยงพล้ำ
ควรเก็บงำสำรองใจไว้เผื่อฟาวล์
โครงการใหญ่ไม่ประมาทวางวาดแผน
ผลตอบแทนคุ้มไหมจึงไม่หนาว
รายได้พอหักต้นทุนหมุนได้ยาว
ไม่อื้อฉาวทุ่มเทพลาดรักขาดทุน
ตามตรวจสอบรอบคอบไม่บอบช้ำ
ควรจัดทำบัญชีนับสนับสนุน
รักดีอยู่หรือมีใหม่ได้-ขาดดุล
จะเพิ่มทุนหรือเลิกละต้องประเมิน
รักที่ดีต้องมีค่าสภาพคล่อง
หากคิดปองต้องใส่ใจไม่ห่างเหิน
ความเชื่อมั่นนั้นสำคัญหมั่นเชิญชวน
งมงายเพลินเขาเปลี่ยนใจใครฟูมฟาย
อนาคตไม่แน่นอนสังวรจิต
ต้องเกาะติดเทรนด์ใจไม่แหน่งหน่าย
รักฝืด-เฟ้อเจอแข็ง-อ่อนก่อนบานปลาย
ล้มละลายจ่ายต้นดอกช้ำชอกทรวง
รักดีอยู่อาจมีมือที่สาม
ต้องติดตามถามไถ่ใจห่วงหวง
ให้คุณค่าความสำคัญหมั่นตามทวง
ปล่อยนานล่วงกลายรักสูญจะวุ่นวาย
หากรักแย่แต่ไม่ถึงซึ่งลาลับ
ควรเร่งปรับโครงสร้างใหม่ไม่หนีหาย
ยื้อเวลาหาหนทางค่อยย่างกราย
อย่าปล่อยสายเกินแก้ค่อยแลมอง
เผลอฟุ่มเฟือยรักมากไปใช้เครดิต
ไปเชยชิดใครอื่นดาษดื่นผอง
โดนจับได้ไล่ทันหวั่นเลือดนอง
รักอาจต้องติดลบพบความซวย
ประหยัดออมถนอมใจในความรัก
รู้ตระหนักรักมีค่าโสภาสวย
ค่อยสะสมบ่มรอพอร่ำรวย
มีทุนช่วยเติมรักถูกมรรคา
หากรักล่มจมหายเขาหน่ายหนี
ลงทุนมีแต่เสียเพลียนักหนา
ควรเข้าวัดดัดนิสัยใช้ธรรมา
วิปัสนาดีกว่านั่งซังกะตาย !.....
18 กันยายน 2550 14:49 น.
คีตากะ
แขนและขาล้าอ่อนสัญจรทั่ว
ตาพร่ามัวเปียกชื้นสะอื้นหา
หยาดน้ำตารินไหลไหม้กายา
แบกความคิดหนักบ่าไล่คว้าเงา
เหนื่อยเกินไปหัวใจจึงได้หยุด
สู่วิมุตสงบเงียบเรียบว่างเปล่า
ตามความสุขค้นหาบ้ามัวเมา
เพียงใจเราหยุดฝันมันกลับมี
ว่างเปล่าจึงเต็มเปี่ยมใดเทียมเท่า
เพราะความเขลาครอบงำจำหลบหนี
ทิ้งตัวเองห่างไกลไร้ไมตรี
หลงวจีพูดพร่ำถ้อยคำมาร
อยู่ตรงนี้ อยู่ตรงนี้ อยู่ตรงนี้
มองให้ดีดูให้ซึ้งถึงแก่นสาร
เหนือร่างกายจิตใจไร้ห้วงกาล
สุขสราญมีเต็มแล้วเพริศแพร้วจริง.....
14 กันยายน 2550 14:26 น.
คีตากะ
ท้องฟ้ากว้างทางไกลสุดไพศาล
กางปีกต้านทานลมห่มเวหา
เหนือขุนเขาสูงเยี่ยมเทียมเมฆา
จ้าวแห่งฟ้าถลาบินนกอินทรี
ผงาดฟ้าท้าสู้มัจจุราช
ยังศัตรูขยาดหวั่นหวาดหนี
แสนองอาจสง่างามหยามไพรี
แจ้งวิถีแห่งสายลมคมปัญญา
รวดเร็วปานอัสนีที่ฉกาจ
พายุสาดฝนซัดใส่ไม่ผวา
บินสูงสุดรุดสู้สู่มรรคา
ใจแกล้วกล้าหาใครไหนเทียมทัน
เฉกชนบ่มอุดมการณ์หาญยิ่งใหญ่
ยอมสู้ภัยไม่ท้อถอยคอยแข็งขัน
ราวอินทรีผงาดฟ้ากล้าประจัญ
ใช่อกสั่นดั่งกระจอกหยอกหญ้ากอ......
13 กันยายน 2550 16:10 น.
คีตากะ
จะพอเพียงเยี่ยงไรใจไม่พอ
สืบสานต่อก่อภพมิจบฝัน
ปรารถนาหาหยุดทุกคืนวัน
คำพอนั้นหวั่นใจหาไม่เจอ
เมื่อสังคมห่มแพรแค่ภายนอก
ภายในหลอกกลอกกลิ้งหยิ่งเหิมเห่อ
คอยประชันขันแข่งแย่งเลิศเลอ
หลงละเมอเพ้อคลั่งในวังวน
ตราบจิตใจอยู่ในใต้ผ้าคลุม
สัจจะซุ่มซ่อนเร้นเห็นฉงน
ปัญญาเลือนเพราะกลั้วด้วยตัวตน
ย่อมสับสนหนทางก้าวย่างไป
อัตตาขวางกางกั้นปัญหาเกิด
ผู้ประเสริฐเลิศแล้วแพ้วถางไถ
ละอัตตาตัวตนบุคคลไป
ย่อมแจ้งในความพอหยุดก่อเวร.....
13 กันยายน 2550 13:45 น.
คีตากะ
วสันต์ห่างเหมันต์กรายสายลมเปลี่ยน
วันคืนเวียนหมุนไปไม่กลับหลัง
ฟ้าเปลี่ยนสีทุกนาทีมิหยุดยั้ง
เรื่องราวฝังจมหายมลายเลือน
ชายป่าเปลี่ยวริมเขาเห็นเงาไผ่
โอนเอนไหวใบลู่อยู่กลางเถื่อน
ลำต้นตรงคงมั่นผ่านวันเดือน
ภายในเลือนกลวงเปล่าทั้งเหล่ากอ
ดั่งคนตรงคงมั่นอันหน้าที่
สร้างความดีแก่ชนมิย่นย่อ
ฝ่าอุปสรรคหนักหนาหาย่อท้อ
ไม่คอยรอวาสนาคิดกล้าทำ
แต่ภายในใจจิตวิจิตรกว่า
แสนโสภาน่าชมยิ่งคมขำ
ไม่เคยหวังสิ่งตอบแทนแม้นสร้างทำ
มิจดจำเช่นลำไผ่ข้างในกลวง.....