16 กรกฎาคม 2565 01:51 น.

เลือดนักสู้

คีตากะ

เกิดมาสู้แน่นักจักต้องสู้
ให้โลกรู้มิยอมแพ้ยากแค่ไหน
เก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่ผ่านไป
พร้อมแก้ไขปรับปรุงทุกเวลา
ณ สนามแห่งชีวิตบ้างคิดท้อ
แต่ใจก็ไม่ถอยคอยวาสนา
เพียงมือสองต้องสู้ด้วยศรัทธา
กุมโชคชะตาตามฝันมุ่งมั่นไป
แน่วแน่สู่จุดหมายมิกลายกลับ
ถึงล้มพับกี่คราหาหวั่นไหว
ชนะหรือแพ้แค่เกมเติมเต็มใจ
ดั่งกำไรชีวิตพินิจการ
ผลอย่างไรสุดคาดจะมาดหมาย
เพียงสุดท้ายยิ้มรับนับกล้าหาญ
ขอหน้าที่นี้กระทำด้วยวิญญาณ
และสอบผ่านความกลัวในหัวใจ
แม้ต้องตายในหน้าที่พลีชีวิต
สู้สุดจิตสุดพลังถ้ายังไหว
ทุกนาทีมีค่าอย่าปล่อยไป
ตั้งมั่นในหน้าที่พลีตัวตน
ดุจวันนี้มีชีวิตวันสุดท้าย
พรุ่งนี้หายใจหรือไม่ใช่เหตุผล
คู่ต่อสู้ใช่ใครแค่ใจตน
ชนะคนหมื่นแสนไม่แม้นใจ
ค้นหาจึงจะพบประสบแน่
หนทางแก้ปัญหาอย่าเผลอไผล
เพียงผ่อนคลายปล่อยวางทุกอย่างไป
มิยึดมั่นสิ่งใดอะไรเลย...
12 กรกฎาคม 2565 19:12 น.

ดอกไม้ปลายเทียน

คีตากะ

VJwZLJ.jpg
เทียนพรรษาลายสลักนาคราช
รองรับบาทองค์วศินชินสีห์
เปล่งแสงงามอะเคื้อเหนือโมลี
ปลายยอดมีพวงมาลัยให้ตระการ
แรมหนึ่งค่ำเดือนแปดวันแดดร่ม
ฟ้าครอบห่มแดนดินทั่วถิ่นฐาน
เข้าพรรษาฟ้าคะนองร้องกังวาน
ทุกหมู่บ้านแห่เทียนพากเพียรมา
ขบวนแห่รื่นเริงบันเทิงจิต
ชนทั่วทิศร่ายรำล้ำหรรษา
เสียงดนตรีเร่งเร้าเคล้าศรัทธา
สืบสานพระศาสนาประเพณี
ดั่งทรงตรัสปัญญาดุจอาวุธ
ล้ำเลิศสุดไตรโลกดับโศกศรี
ทำลายล้างสังโยชน์โทษจรลี
เปรียบเทียนที่สว่างไสวไร้เทียมทัน
จบดุษฎีบัณฑิตสิ้นทุกศิลป์ศาสตร์
ดั่งโลกนาถจอมไตรไอศวรรย์
แจ้งเจนจบปรัชญาอเนกอนันต์
ไร้เขตกั้นพระทรงญาณชำนาญการ
ต้นกล้าเขียวทั่วท้องนาเริ่มหน้าฝน
สาธุชนเข้าวัดวาเกษมศานติ์
ภาวนารักษาศีลถวายทาน
ต่างเบิกบานถ้วนหน้าประชาชาว...
1 กรกฎาคม 2565 18:38 น.

ว่าวป่านขาด

คีตากะ

VALojz.jpg
ปานดั่งว่าววิลาวัณย์ชั้นเวหาส
สายป่านขาดปลิวลอยถอยไถล
ปราศทิศทางหว่างฟ้าลมพาไป
สู่แห่งหนตำบลใดให้คลาดคลา
หมายติดตามก็ยากแท้จะแลเห็น
ด้วยยามเย็นใกล้ค่ำย่ำเวหา
จะรั้งรอก็เกรงใครไปนำพา
ให้อุราร้อนรนกระวนกระวาย
ฝากอินทร์พรหมยมพญาพาปกปัก
ดูแลรักษ์เจ้าไว้อย่าให้หาย
จะตกหล่นหนใดอย่าได้วาย
อำพรางกายเก็บไว้กว่าได้เจอ
แสนเสียดายว่าวน้อยล่องลอยฟ้า
เคยทายท้าอำนาจลมชื่นชมเสมอ
กางปีกงามท่ามฟ้าพาละเมอ
หมายพบเจออีกครั้งดั่งเลื่อนลอย...
26 มิถุนายน 2565 00:21 น.

น่าเสียดาย

คีตากะ

โลกธาตุพิลาสล้ำในต่ำใต้
ดาวดวงใดฤาเปรียบเทียบเทียมหา
ถึงจันทรอรสะอางพรายพร่างตา
แต่นิจจาเลือนรางร้างชีวิน
ธรรมชาติดาษดาน่าชมทัศน์
หมู่มวลสัตว์ชัฏป่ากระแสสินธุ์
หลากห้วยหนองคลองบึงถึงวาริน
ร้อยรวมสิ้นสู่ชเลถ่ายเทชล
ขุนเขาเขียวเคี้ยวคดจรดขอบฟ้า
น้ำตกบ่าทุกยามท่ามไพรสณฑ์
มวลบุปผชาติดาษเดียรแวะเวียนยล
ชื่นกมลคลายเศร้าเคล้าสุคันธ์
ยินเสียงเพลงผิวไผ่ในไพรป่า
พิศดารายามค่ำล้ำสวรรค์
ฟังเสียงฝนหล่นหลั่งดั่งวารวัน
เกษมสันต์ทุกยามความทุกข์คลาย
ศีลธรรมค้ำจุนโอบอุ้มโลก
ผ่านวิโยคด้วยธรรมนำเฉิดฉาย
เพลานี้วิกฤติชิดกล้ำกลาย
ชนทั้งหลายปราศศีลสิ้นธรรมา
จึ่งปรากฏพิบัติภัยในหลายหลาก
ทั้งข้าวยากสงครามโรคลามหา
ค่อยกำจัดมนุษย์สุดโศกา
วันพิพากษาชนทุศีลให้สิ้นไป...
***ฆ่าสัตว์ (เพื่ออาหาร) เป็นเหตุ
อาจบางทีสายเกินไปที่จะแก้ไข...
12 พฤษภาคม 2565 22:40 น.

กลิ่นเถ้าธุลีศรีอยุธยา

คีตากะ

จากปฐมทวารวดีศรีเมืองมิ่ง
ร่องรอยทิ้งซากอิฐแทนปริศนา
จากกรุงเทพทวาราวดีศรีอยุธยา
ซากวัดวากรุงเก่ากลิ่นเถ้าไฟ
กาลเพลากลบฝังความหลังลับ
ทวีทับทุกข์เทวษเหตุล่มสมัย
การแก่งแย่งอำนาจขาดสีลมัย
ชีวาลัยล่วงลับสุดนับคณา
สองคชสารสัประยุทธ์สุดวิปโยค
หญ้าน้อยโศกย่อยยับรับทุกขา
ผลัดเปลี่ยนกี่แผ่นดินสิ้นนครา
พ่ายกรรมาแพ้กาลแหลกลาญลง
รุ่งเรืองก็ล่มสลายในปลายสุด
พระสัมพุทธตรัสไว้ให้คลายหลง
เพียงคุณงามความดีที่ดำรง
สืบชาติพงศ์จนถึงซึ่งนฤพาน...
ไม่มีข้อความส่งถึงคีตากะ