12 เมษายน 2556 22:18 น.
คีตากะ
เมื่อคืนฉันฝันเห็นท่านเด่นนัก
แต่ดวงพักตร์ซูบกว่าเก่าเศร้าหนักหนา
เสื้อน้ำตาลผ่านแดดฝนจนซีดซา
ท่านยืนคอยฉันมา...หน้าเจดีย์
นับแต่วันฉันลาท่านมาสอน
แสนเหนื่อยอ่อนมุ่งนำธรรมวิถี
“ไม่มีครู...ไม่มีใครจะไปดี”
จำคำนี้และจำรักสลักใจ
ณ เกาะนี้...ด้วยน้ำตาที่พร่ากลบ
ฉันน้อมนบรจนาบูชาให้
ท่านยังเฝ้าดูแลแม้ห่างไกล
พรยิ่งใหญ่ดุจภูผามหานที
จะพากเพียรตอบแทนก็แสนยาก
จึงรับปากจะช่วยคนพ้นหมองศรี
ท่องทวีปทั้งห้าทั้งธาตรี
หว่านเมล็ดวิญญาณนี้ทั้งโลกา
หวังกุศลผลจริงที่ยิ่งใหญ่
จตุรพิธพรชัยให้โลกหล้า
เพื่อตอบแทนพระมหากรุณา
ที่นำข้าก้าวข้ามความลำเค็ญ!....
โดยอนุตราจารย์ชิงไห่
(ต้นฉบับเป็นภาษาเอาหลัก)
ฟอร์โมซา
ฤดูกาลแห่งชีวิตอันสุขสงบ ‘85
31 กรกฎาคม 2558 23:48 น.
คีตากะ
จะเป็นคนดีที่เธอหวัง
แม้มันยังห่างไกลในวันนี้
กาลเวลายาวนานผ่านกี่ปี
ยังยินดีมุ่งมั่นฟันฝ่าไป
จะเป็นคนดีที่เธอฝัน
แม้ว่ามันหนาหนักสักเพียงไหน
เพียงต้องการเธอสุขทุกข์ห่างไกล
นานเพียงใดจะสู้อยู่เพื่อเธอ
จะเป็นคนดีที่เธอวาด
แม้มันอาจต้องฝืนยืนยันเสมอ
จะพยายามทำหน้าที่นี้เพื่อเธอ
ถึงต้องเจออุปสรรคจักยอมทน
จะเป็นคนดีที่เธอใฝ่
แม้หัวใจปวดร้าวคราวสับสน
ตราบสิ้นลมหายใจไม่จำนน
จะเป็นคนแสนดีที่รักเธอ...
12 เมษายน 2556 22:19 น.
คีตากะ
โลกแนบเศียรเข้าหาดวงอาทิตย์
ฤดูกาลวิปริตผิดหลักฐาน
ควรคิมหันต์กลับหนาวร้าววิญญาณ
ประหนึ่งปานเหมันต์บั่นเสียดแทง
ลมเหนือล่องปะทะตะวันตก
หมู่วิหคหล่นร่วงดวงอับแสง
ดินฟ้ารวนปรวนแปรแผ่สำแดง
คล้ายเตือนแจ้งบอกเหตุลางเลศนัย
สูดสายลมเย็นเยือกในเฮือกหนึ่ง
เสียงกระดึงชายคามาสั่นไหว
สายลมแรงแฝงพลังยังกวัดไกว
ยอดไม้ใหญ่โงนเงนเอนไปมา
กายสะท้านสั่นเทาเฝ้าครุ่นคิด
โลกแผกผิดเพี้ยนไปให้กังขา
ร้อนหนาวฝนผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมา
เพียงเพลาช่วงสั้นหวาดหวั่นใจ
ภัยพิบัติธรรมชาติซัดฟาดโลก
ยังทุกข์โศกส่ำสัตว์ตัดชีพขัย
ย้ำชีวิตจ้อยร่อยด้อยเพียงไร
ใช่ยิ่งใหญ่กว่าทรายที่ก่ายกอง
เดือนและดาวสลัวมัวสีแสง
ราตรีแห่งมืดมนจำหม่นหมอง
มัจจุราชเขม้นเล็งเขม็งมอง
หมายครอบครองชีวิตยามนิทรา
ธรรมชาติเปลี่ยนไปเฉกใจเปลี่ยน
ชนเบียดเบียนเกลียดชังทั้งริษยา
คอยอาฆาตมาดร้ายหมายชีวา
หลงลืมอหิงสาสัมมาธรรม์
เพียงหมายมุ่งผลประโยชน์จิตโหดร้าย
บำเรอกายนิยมจมโมหันต์
บำรุงจิตจอมปลอมย้อมชีวัน
จูงมือกันสู่เหวล้มเหลวชน....
31 กรกฎาคม 2558 23:56 น.
คีตากะ
นั่งเรือด่วนเจ้าพระยาเหว่ว้าจิต
ฝากชีวิตลอยล่องท่องละหาน
หวังข้ามฝ่าเกลียวคลื่นหมื่นห้วงธาร
พาวิญญาณประสบพบเสรี
เรือเทียบท่าน้ำนนท์สับสนจิต
ห้วงความคิดคำนึงถึงวิถี
ทางสายเก่าเคยจรย้อนชีวี
ท่าวารีที่เก่าเราคุ้นเคย
ภาพดวงตาคู่งามตามตรึงติด
เคยเพ่งพิศความนัยหมายเฉลย
สิ่งซ่อนเร้นภายในใจทรามเชย
เหนือคำเอ่ยเรียงร้อยถ้อยความนัย
ขออำลาสายน้ำจำจรจาก
ข้ามฝั่งฟากเขตแดนแสนหวั่นไหว
ปล่อยรู้สึกลึกล้ำลำนำไกล
นั่งรถไปปากเกร็ดเห็จสัญจร
แวะท่องเที่ยวเกาะเกร็ดเจ็ดย่านน้ำ
ความทรงจำนานมาพาทอดถอน
เคยเที่ยวเล่นร้านรวงห่วงอาทร
งานพาจรเวียนว่ายหลายเพลา
สินค้าหลากมากชมภิรมย์แสน
ทั่วดินแดนวิจิตรพิศกังขา
วัดกลางน้ำสวยงามอร่ามตา
เพลินอุราใกล้ค่ำจำลาไกล
โดยสารรถยามฟ้าคลุมผ้าห่ม
ทอดอารมณ์ก่อนเก่าเอาผลักไส
ปล่อยลงเจ้าพระยาบ่าไหลไป
สู่อ่าวไทยลับหายมลายชล
เดินทางกลับปทุมฯชุมทางรถ
เมืองคูคตคลองสองท่องถนน
สู่เคหาพักผ่อนหย่อนกมล
วันคืนพ้นผ่านไปในอีกคราว.....
12 เมษายน 2556 22:21 น.
คีตากะ
แม้อ้อมกอดธรรมชาติอาจน่าหวั่น
เบื้องหลังนั้นอบอุ่นการุณย์แสน
เปี่ยมความรักเมตตาบ่าทั่วแดน
เดินตามแผนผู้สร้างอย่างงดงาม
เมื่อพระเจ้ายื่นหัตถ์โอบรัดผ่าน
คลื่นชลธารหลั่งท้นมากล้นหลาม
กลืนร่างกายมวลมิตรทุกทิศคาม
คืนสู่ความเสรีวิถีธรรม์
โอ้...มิตรผู้เสียสละละชีวิต
เพียงอุทิศพลีตนบนทางฝัน
ถ้อยคำใดหมายเอ่ยเผยจำนรรจ์
สาส์นใดกันฝากไว้ให้แก่ชน ?
บทละครฉากเศร้าอันเปล่าว่าง
ฤาเพียงไฟไหม้ฟางร้างเหตุผล
บทเรียนใดสำแดงแจ้งมวลชน
ฤาสับสนจุดหมายกลายเลือนราง
โศกนาฏกรรมการจำพราก
สังเวยซากชีวาเกินกว่าขวาง
ทิ้งน้ำตา-รอยเลือดแห้งเหือดจาง
บนเส้นทางก้าวผ่านเนานานมา
สร้างตำนานตำราเต็มบ่าโลก
ทั้งสุขโศกเป็นไปในปริศนา
เผยทางเลือกผองชนบนโลกา
สู่แห่งใดเบื้องหน้า...ฝ่าเผชิญ....